10 ก.ค. 2022 เวลา 09:45 • หนังสือ
แฮร์รี่ พอตเตอร์ฉบับหัวขบถ
ตอนที่14 ศีลธรรมอันบิดเบี้ยวในวรรณกรรมเด็ก
ภาค2: เพอร์ซี่--วิสลี่ย์ผู้ถูกดูหมิ่น
หัวข้อนี้ถูกขอมาโดย "คุณ junijangg" ซึ่งหลังจากไตร่ตรองดูแล้วพบว่ามันเป็นหัวข้อที่เข้ากันได้กับซีรี่ย์ชุด "ศีลธรรมอันบิดเบี้ยวในวรรณกรรมเด็ก" เพอร์ซี่เป็นหนึ่งตัวละครที่น่าศึกษามาก ในเพจ "พอตเตอร์ไดอารี่" ที่ในเฟสบุ๊ค(ไม่ใช่เพจของผม) มีลูกเพจพูดถึงเพอร์ซี่ว่า "แกะดำแสนเลวของตระกูลวิสลี่ย์" และบางคนขนาดแสดงความเห็นว่า "เกลียดเพอร์ซี่รองจากหางหนอนและอัมบริดจ์"
แต่เพอร์ซี่สมควรที่จะได้รับความเกลียดชังจากผู้อ่านขนาดนั้นจริงเหรอ? สมเหตุสมผลรึไม่?
ย้อนกลับไปที่ภาคหนึ่ง เรารู้ว่าเขาอยู่ปีห้าเพราะเป็นปีที่เขาได้เป็นพรีเฟ็คครั้งแรกและเขาพูดคุยเรื่องนี้มากจนฝาแฝดล้อเลียน เขาดูเหมือนจะถูกวาดภาพตามมุมมองของแฮร์รี่ในตอนนี้ว่าเป็นคนโอ้อวด แน่นอน เพราะนิยายเรื่องนี้เดินเรื่องเสมือนคนอ่านเป็นแฮร์รี่ แต่ถามจริง--เขาคุยเรื่องนี้บ่อยๆ ไม่ได้รึไง? เขาทุ่มเทจนได้เป็นพรีเฟ็คเขามีสิทธิฉลองกับมัน และจริงๆ ฉากบอกอะไรเรามากทีเดียว
เบาะแสแรกคือเราพบเขาต้องการให้ครอบครัวภาคภูมิใจ หรืออย่างน้อยที่สุดเขาอยากให้มันเป็นเรื่องสำคัญ นั่นแปลว่าเขารู้สึกว่าเขาไม่มีความสำคัญในบ้านเท่าที่ควร และสิ่งที่ก็เปิดเผยเพิ่มขึ้นผ่านรอนว่ามากแค่ไหนที่เขาถูกรังแก(โดยฝาแฝด) ถูกกดดันโดยความสำเร็จของพี่ชายคือบิลและชาร์ลี และต่อมาถูกกดดันโดยความสำเร็จของเพอร์ซี่ ดังนั้นเบาะแสที่สองเราเห็นการแข่งขันในครอบครัว!
ในเล่มห้ามีการเปิดเผยเพิ่มด้วยว่าทั้งบิลและชาร์ลีต่างก็เคยเป็นพรีเฟ็คจนมอลลี่ถึงกับปลื้มว่า "เป็นพรีเฟ็คกันทั้งครอบครัว" และทำให้ฝาแฝดถึงกับโวยว่า "เราเป็นแค่เพื่อนบ้านดิ?" และต่อมายังมีการเปิดเผยเพิ่มจาก JK Rowling ถึงความดีเด่นของมอลลี่ในฐานะนักเรียนและมือปราบมารที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นทั้งหมดนี้ชี้ว่าเพอร์ซี่ก็เดินตามบรรทัดฐานของครอบครัวอยู่แล้วคือการเป็นนักเรียนดีเด่น
ขออนุญาตอธิบายเพิ่มว่าโลกเวทมนตร์จะมีวุฒิการศึกษาสองขั้นคือ OWLs ที่วุฒิบังคับที่ทุกคนต้องผ่านให้ได้เพื่อจะมีสิทธิในการครอบครองไม้กายสิทธิ์ และเป็นพลเมืองของโลกเวทมนตร์ และ NENTs ที่เป็นใบเบิกทางสำหรับการทำงานขั้นสูง ยิ่งสอบได้มากก็ยิ่งมีโอกาสมากในระบบงานของกระทรวงเวทมนตร์
คุณสามารถออกจากโรงเรียนและไปหางานทำได้เลยถ้าคุณผ่าน OWLs โดยทุกคนที่เรียนที่ฮอกวอร์ตจะได้สอบ OWLs ครั้งแรกตอนปีห้าโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ แต่ถ้าคุณสอบไม่ผ่าน คุณอาจยื่นเรื่องสอบอีกครั้งในปีถัดๆ ไปโดยจ่ายค่าธรรมเนียมไม่กี่แกลนเลียน และโปรดรู้ว่าฮอกวอร์ตไม่ใช่โรงเรียนเวทมนตร์เดียวในอังกฤษ แต่เป็นโรงเรียนเวทมนตร์เดียวในอังกฤษที่ได้ขึ้นทะเบียนต่างหาก
แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เข้าฮอกวอร์ตหรือโรงเรียนที่ขึ้นทะเบียนก็ต้องจ่ายค่าเทอมและค่าธรรมเนียมการสอบ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะอยู่ฮอกวอร์ตหรือไม่ NEWTs ไม่ได้ฟรี! JK Rowling มีการเปิดเผยที่คาดไม่ถึงว่าในค่าธรรมเนียมในการสอบ NEWTs ในแต่ละวิชานั้นแพงมาก! ถ้าสอบหลายวิชาต้องจ่ายหลายร้อยแกลเลี่ยน แต่เรารู้ว่าครอบครัววิสลี่ย์ไม่ค่อยมีเงิน (ดูเล่มสอง)
ดังนั้น ลูกๆ ที่โตแล้วส่งเงินมาช่วยเหลือใช่มั้ย!? เสียใจ.. ไม่! เมื่อมีการเปิดเผยแหล่งข้อมูลที่ไม่ยืนยันว่า "ศาสตราจารย์สเนปให้เพอร์ซี่ทำงานพิเศษให้เขาช่วงปีที่หนึ่งและปีสองเพื่อที่เขาจะได้มีเงินจ่ายค่าธรรมเนียมสอบ" นั่นแปลว่าบิลและชาร์ลีไม่ได้ช่วยเหลือครอบครัว ตอนนี้เราเห็นเบาะแสที่สามว่าวิสลี่ย์ไม่ได้ผูกพันธ์รักใคร่กันขนาดนั้น มีความอึดอัดบางอย่างรึไม่ที่ทำให้บิลและชาร์ลีอยากทิ้งไป?
จริงๆ นักเรียนสามารถเรียนเพิ่มอีกสองปีเพื่อเอาใบรับรองเกรดและหนังสือแนะนำจากทางโรงเรียนได้ถ้าพวกเขาไม่ได้รับ NEWTs และนั่นอาจเป็นคำอธิบายว่าทำไมบิลและชาร์ลีต้องไปทำงานไกลบ้าน(อิยีปต์และโรมาเนีย) พวกเขาอาจจะมีวุฒิ NEWTs เพียงตัวเดียวหรืออาจจะไม่ได้สอบเลย (และไม่เห็นความสำคัญ) ทำให้มีตัวเลือกน้อยมากสำหรับงานดีๆ ในอังกฤษ
แต่ NEWTs มีความสำคัญกับเพอร์ซี่ เขายอมทำงานพิเศษกับสเนปเพื่อจะมีค่าสอบ ไม่ต่างอะไรกับนักเรียนที่ทำงานเพื่อส่งตัวเองเรียนจนจบได้ใบปริญญา เมื่อGolden Trio พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับ 'ทอม ริดเดิ้ล' ในภาค 2 รอนแสดงความไม่ชอบใจว่าทอมเหมือนเพอร์ซี่อาจจะบวกกับข้อเท็จจริงที่ไม่ปรากฏในหนังสือว่า 'เขาทำงานพิเศษกับสเนป-ครูที่พวกเขาเกลียด' รอนจึงรังเกียจมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภาพของเพอร์ซี่ดูแย่มากเมื่อเขาทะเลาะพ่อในเล่มห้า จากคำบอกเล่าเพอร์ซี่ดูแย่ซะจริงแถมยังทะเยอทะยานมากจนทิ้งครอบครัว แต่! แต่! แต่! เราลืมอะไรรึเปล่า!? เพอร์ซี่ดูไม่ดีแค่เพราะเขาแสดงความเป็นปรปักฏ์กับแฮร์รี่ซึ่งเป็นพระเอกของเรื่อง! เพราะเรื่องนี้มันเล่าในมุมแฮร์รี่--เหมือนเราเป็นแฮร์รี่ ดังนั้นใครเป็นศัตรูกับเรา(แฮร์รี่) เราก็จะมองดูเขาไม่ดีอยู่แล้ว!!
เขาแนะนำไม่ให้รอนยุ่งเกี่ยวกับแฮร์รี่ ลองคิดตามหลักความจริงซิ "น้องชายเราสนิทสนมกับแกนนำเสื้อแดงหรือสลิ่ม เรากลัวเขาจะเดือดร้อน เราจึงแนะนำเขาไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับพวกนั้นมากเพราะอาจจะถูกอุ้มทั้งครอบครัว เราผิดอะไรขนาดนั้นรึเปล่า" แฮร์รี่เองก็ห้ามอัลบัสคบสกอร์ปิอัสในเด็กต้องสาปเพราะห่วงลูก ดังนั้นเพอร์ซี่ผิดอะไรในเรื่องนี้ และอย่าลืมว่าตอนนั้นเพอร์ซี่ไม่รู้อะไรมากกว่าคนอื่น
เขาทะเลาะกับพ่อ--บอกว่าพ่อไม่มีความทะเยอทะยาน เราไม่รู้ว่าทะเลาะกันรุนแรงแค่ไหน แต่ถ้าเราไม่เข้าข้างอาเธอร์มากเกินไป เราจะคิดมุมกลับว่า อายุราว 47-50 ปี ในเล่มห้า และเขาทำงานอยู่ที่แผนกควบคุมการใช้สิ่งประดิษฐ์มักเกิ้ลในทางที่ผิดอย่างน้อยเป็นเวลา 30 ปี(!?) แผนกของเขามีคนไม่กี่คนและคนที่เป็นลูกน้องเขาก็เลื่อนขั้นย้ายแผนกกันไปหมดแล้ว น่าคิดว่าลูเซียสดูถูกอะไรอาเธอร์!?
ดูเหมือนจะมีอะไรผิดพลาดไปแน่ๆ ที่คนที่ซื่อสัตย์และมีคุณธรรม(ตามที่เห็นในหนังสือ)ทำงานแบบย่ำอยู่กับที่มานานกว่า 30 ปี และจริงๆ อาเธอร์ไม่ใช่ข้าราชการที่ซื่อสัตย์ถ้าเราจำเล่มสองได้ เราไม่เห็นปัญหาอะไรเพราะรถนั่นช่วยแฮร์รี่จากห้องติดลูกกรงและพาพวกเขาไปฮอกวอร์ต แต่ตามหลักความจริงคือการครอบครองรถดัดแปลงนั่นผิดกฎหมาย ถ้าอาเธอร์ทำสิ่งนี้ได้เขาก็ต้องเคยทำมากกว่านั้น
*ที่หน้าปัดนาฬิกาบ้านวิสลี่ย์จะมีการบอกสมาชิกในบ้านอยู่ที่ไหน น่าสนใจที่มันมี 'คุก' อยู่ในรายกายด้วย นั่นแปลว่ามันไม่ใช่แปลกถ้าวันหนึ่งคนในบ้านจะเข้าไปอยู่ในอัซคาบัน มอลลี่ต้องรู้ปัญหาบางอย่างไม่งั้นก็ไม่จำเป็นที่ต้องมี 'คุก' ในรายการสถานที่ๆ สมาชิกในบ้านอาจจะอยู่
หรือพูดอย่างจริงจังคำว่า "ขาดความทะเยอทะยาน" ของเพอร์ซี่คือการกล้ำกลืนความจริงที่ว่า "พ่อเป็นข้าราชการที่ทุจริต-ไม่โดนไล่ออกก็บุญแล้ว" ดังนั้นเราจะเห็นว่าเพอร์ซี่ไม่ได้มีความเห็นผิดและเชื่อตามฟัดอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า แต่เขาได้ไตร่ตรองมันจากข้อเท็จจริงที่เขารู้เต็มอกว่าพ่อเป็นข้าราชการที่ทุจริตอย่างต่อเนื่อง และถ้าอ่านอย่างเป็นกลางจะเห็นด้วยว่าเพอร์ซี่เป็นคนซื่อสัตย์มาตลอด
เขาไม่ได้อำมหิตผิดมนุษย์อย่างฝาแฝดที่เอาสัตว์เลี้ยงมาตีแทนบลัดเจอร์จนตาย(คิดภาพคนเอากระต่ายมาเตะแทนฟุตบอลจนตายดิ) เอาลูกอมรสกรดให้รอนกินจนลิ้นทะลุ(แค่คิดก็สยองแล้ว) ไม่ได้ขังคนจนเกือบตาย(มอนทากิว) และไม่ได้กระทำการอย่างไม่ซื่อสัตย์อย่างพ่อ เขาพยายามปฏิบัติตัวเป็นคนดี ขยันขันแข็ง ทำงานพิเศษเพื่อส่งตัวเองเรียนสูงๆ ใส่ใจน้องชายที่อาจมีอันตรายเพราะการเมือง
ดัมเบิลดอร์บอกเกี่ยวกับเพอร์ซี่ประมาณว่า "บางครั้งการยอมรับว่าตัวเองผิดก็ง่ายกว่ายอมรับว่าคนอื่นถูก" นั่นดูจะเป็นการอธิบายชัดเกี่ยวกับปัญหาที่แท้จริงในครอบครัวที่เพอร์ซี่พยายามออกจากวงวนของการคดโกงบางอย่างเพื่อจะเป็นคนที่ดีกว่า เขาเห็นพ่อที่เป็นคนทุจริตและไม่ได้เจริญรุ่งเรืองจากสิ่งนั้น มันง่ายที่เราจะเข้าใจว่าเขาคิดว่าเขารู้จักพ่อ และเขาคงช๊อคที่ครั้งนี้พ่อเป็นฝ่ายถูก
เรื่องราวของเพอร์ซี่ก็เหมือนนางร้ายที่มีความสุขอยู่กับผัวดีๆ นางเอกโผล่มาจากไหนไม่รู้แล้วแย่งพระเอกไป แต่ในหนังเรารับได้ที่นางเอกได้พระเอกและนางร้ายต้องรับกรรมเพราะเรื่องเล่าในมุมนางเอก เราไม่ต้องใช้สมองคิดมุมกลับซักนิดเหรอว่าทำไมเราต้องเชียร์ผู้หญิงที่แย่งผัวชาวบ้านและสะใจที่ผู้หญิงที่ถูกล่มบ้านล่มเรือนต้องได้รับผลร้าย เช่นกันถ้าเราไม่ได้มองแต่มุมแฮร์รี่ ก็ไม่เห็นว่าเพอร์ซี่จะผิดอะไร
อีกครั้ง... แฟนๆ ตัดสินว่าเพอร์ซี่เลวกะอีแค่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับแฮร์รี่ และซิเรียสดีเพราะเขาทั้งครอบครัวมาอยู่กับฝั่งของแฮร์รี่(คือเป็นพวกเจมส์)โดยไม่สนใจว่าเขาได้ละทิ้งหน้าที่ที่เขาพึงทำ--คือการปกป้องครอบครัวของเขาจากโวลเดอร์มอร์ ดังนั้น ถอยออกมาซักคิด มองสถานการณ์ให้รอบ ใส่ตัวเองลงในสถานการณ์ของตัวละคร แล้วเราจะเห็นตัวละครในมุมที่ต่างไปจากเดิมมากทีเดียว
โฆษณา