12 ก.ค. 2022 เวลา 11:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เมื่อไม่นานนี้ เริ่มมีกระแสข่าวเกี่ยวกับ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง เตรียมถอดโปรโมชั่น "สินเชื่อบ้าน อัตราดอกเบี้ยคงที่ (fixed rate) ช่วง 3 ปีแรก" ปรับเป็น "อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (floating rate)" อาจจะเสนออัตราดอกเบี้ยคงที่ไม่เกิน 6-12 เดือน หรือไม่มีโปรโมชั่นอัตราดอกเบี้ยคงที่เลย สำหรับลูกค้าใหม่ที่กำลังขอสินเชื่อบ้าน เพื่อเตรียมรับมือช่วง ดอกเบี้ยขาขึ้น ที่ส่งผลกระทบต่อสินเชื่อและหนี้สินต่าง ๆ
ทำไมธนาคารถอดโปรโมชั่นจูงใจ ‘กู้บ้าน-กู้คอนโด’ ?
สาเหตุธนาคารเตรียมเลิก ดอกเบี้ยคงที่ ปรับเป็น ดอกเบี้ยลอยตัว ?
ธนาคารเริ่มกังวล ‘ดอกเบี้ยขาขึ้น’ หรือไม่ ?
ใครกู้บ้าน-กู้คอนโด ได้รับผลกระทบอะไรบ้าง ?
วันนี้มาหาคำตอบกันครับ 😊
📌สาเหตุถอดโปรฯ ดอกเบี้ยคงที่ ปล่อยลอยตัว
ถ้าเล่าเรื่องนี้ ขอย้อนกลับไปนิดหน่อย ตั้งแต่สถานการณ์โรคระบาดโควิด – 19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เศรษฐกิจโลกหยุดชะงัก กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดลง รัฐบาลทั่วโลกออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพื่อให้ประชาชนสามารถอยู่ได้มีเงินช่วยเหลือ เมื่อวัคซีนโควิด – 19 สำเร็จทั่วโลกกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ระยะ 2 ปีที่ผ่านช่วงโรคระบาดโควิด – 19 ทุกคนไม่ได้จับจ่ายใช้สอย ไม่ได้เดินทาง ไม่ได้บริโภค
เมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกกลับมาเดินหน้า ทุกคนจับจ่ายใช้สอย หลังไม่ได้ใช้จ่ายนาน 2 ปี ธุรกิจต้องการวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้าหรือบริการ ตอบสนองความต้องการของทุกคนได้ทัน ส่งผลกระทบต่อ Demand มากกว่า Supplier และเงินช่วยเหลือที่รัฐบาลทั่วโลกอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ที่มีมากเกินไปหลังวิกฤตผ่านไปแล้ว
และสถานการณ์สงครามรัสเซีย - ยูเครน ที่ส่งผลกระทบต่อน้ำมันโลก เมื่อทั่วโลกต้องการน้ำมันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่มีปัญหากับผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก ทำให้ Demand มากกว่า Supplier น้ำมันแพงขึ้น โดยน้ำมันเป็นต้นทุนวัตถุดิบของสินค้าทุกอย่าง
จากเรื่องราวทั้งหมดสิ่งที่ตามมา คือ เงินเฟ้อ ข้าวของสินค้าต่าง ๆ ปรับราคาขึ้นเพิ่ม แพงมากขึ้น
เมื่อเกิดปัญหา เงินเฟ้อพุ่งสูง มาตรการส่วนใหญ่ออกมาปกป้องเงินเฟ้อ คือ การขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อดึงเงินออกจากกระเป๋าประชาชน ทำให้ความต้องการ Demand ลดลง
📌การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของไทย
​จากสาเหตุนี้ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 4 ต่อ 3 เสียงให้ “คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ต่อปี” จากทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ในการประชุมเดือน สิงหาคม 2565 นี้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปรับเป็น 0.75 % ต่อปี
ภาพ : ดอกเบี้ยนโยบาย (พฤษภาคม 62 – มิถุนายน 65)
📌ธนาคารเริ่มกังวล ดอกเบี้ยขาขึ้น
ถ้าหาก คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับดอกเบี้ยขึ้น 0.25% ทำให้ดอกเบี้ยนโยบาย ปรับเป็น 0.75 % การขึ้นดอกเบี้ยส่งผลกระทบต่อธนาคารทั้ง 2 ทาง
1. ผู้กู้เงินกับธนาคาร จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
2. ผู้ฝากเงินกับธนาคาร รับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการต้นทุนทางการเงินของธนาคาร
จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น การทำโปรโมชั่นสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยคงที่ ต้นทุนทางการเงินของธนาคารยิ่งสูงขึ้น สถานการณ์แบบนี้ ไม่รู้ว่าดอกเบี้ยปรับขึ้นเท่าไหร่และปรับลงเมื่อไหร่ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ถอดโปรโมชั่นสินเชื่อบ้าน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก ปรับเป็น อัตราดอกเบี้ยลอยตัว อาจจะเสนออัตราดอกเบี้ยคงที่ไม่เกิน 6-12 เดือน หรือไม่มีโปรโมชั่นอัตราดอกเบี้ยคงที่เลย เพื่อลดความเสี่ยงของธนาคารและลดภาระดอกเบี้ย
ส่วนการรีไฟแนนซ์ ได้รับผลกระทบ จากการปรับเป็นดอกเบี้ยลอยตัว เหมือนการกู้ซื้อบ้านใหม่นั้นแหละ แต่อาจจะได้ส่วนลดจากดอกเบี้ยเล็กน้อย เท่านั้นเอง
📌สินเชื่อบ้าน ผู้กู้บ้าน ได้รับผลกระทบ
กรณี ลูกค้ารายใหม่ หากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับดอกเบี้ยขึ้น 0.25% ปกติวงเงินสินเชื่อบ้าน 1,000,000 บาท ยอดผ่อนชำระ 4,500 บาท/เดือน จะปรับยอดผ่อนชำระเพิ่มขึ้น 4-5% ประมาณ 250 บาท/เดือน หรือประมาณ 2,000 บาท – 3,000 บาท ทำให้ยอดผ่อนเพิ่มขึ้นเป็น 4,750 บาท/เดือน
กรณี ลูกค้าเดิม หากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับดอกเบี้ยขึ้น 0.25% ภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทันที แต่ไม่ได้รับผลกระทบยอดผ่อนชำระต่องวด เนื่องจากธนาคารมีการใส่ buffer การเคลื่อนไหวของดอกเบี้ยขึ้นและลงเข้าไปในการคำนวณดอกเบี้ยอีกราว 0.50-0.75% ไว้ตลอดอายุสัญญาอยู่แล้ว แต่ยอดผ่อนชำระต่องวด หักดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นและหักเงินต้นลดลง หมายความว่าลูกหนี้ต้องบ้านผ่อนนานขึ้น
📌เตรียมรับมือ การขึ้นดอกเบี้ย
สำหรับใครที่กำลังวางแผนการซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ลองคำนวณตัวเลขว่ากู้บ้าน วางดาวน์เท่าไหร่ วงเงินสินเชื่อเท่าไหร่ ยอดผ่อนชำระต่อเดือนเท่าไหร่ สามารถผ่อนชำระได้หรือไม่ ระยะเวลาการผ่อนชำระกี่ปี และประเมินสถานการณ์กรณีปรับดอกเบี้ยขึ้น 0.25% หรือ มากกว่านั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง
อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ เศรษฐกิจ การปรับขึ้นดอกเบี้ย ไม่ได้ผลกระทบเฉพาะสินเชื่อบ้าน มองภาพใหญ่ดอกเบี้ย ผู้กู้เงินมี หนี้สิน ต้องชำระดอกเบี้ย เมื่อขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเองกัน บริษัทกู้เงินมาธุรกิจภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทำให้กำไรสุทธิลดลง แผนการขยายธุรกิจหรือการลงทุนอาจจะชะลอไว้
อย่างเพิ่มเครื่องจักร เพิ่มแรงงาน อาจจะหยุดไว้ก่อน ทำให้ส่งผลกระทบต่อกันไปเรื่อย ๆ เช่น ธนาคารมองว่าโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก ทำให้ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น ที่ไม่รู้เพิ่มขึ้นไปเท่าไหร่ ทำให้ปล่อยสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยลอยตัวให้เข้ากับสถานการณ์
สุดท้าย ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งถอดโปรโมชั่น สินเชื่อบ้าน สัญญาณเตือนมาแล้ว ในการขึ้นดอกเบี้ยแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อมาแล้ว แน่นอนทุกคนได้รับผลกระทบไม่ว่าจะทางใด ก็ทางหนึ่ง เตรียมตัวรับมือให้ดี ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีก ทุกวิกฤต ยอมมีโอกาสเข้ามาเสมอ อย่างตลาดหุ้น ตอนนี้มีหุ้นหลายตัวราคาลงอย่างมากเลย น่าจะเป็นโอกาสเข้าลงทุนเหมือนกัน ซื้อบ้าน กู้เงิน ลงทุนหุ้น ก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้งนะครับ
1
โฆษณา