12 ก.ค. 2022 เวลา 10:03 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ธุรกิจ AMC หรือ ธุรกิจจัดการหนี้เสีย
โครงสร้างธุรกิจหลักก็คือไปประมูลซื้อหนี้เสีย(NPL) มาจากสถาบันต่างๆ(ส่วนมากเป็นธนาคาร) ในราคาถูกแล้วนำมาติดตามหนี้
ซึ่งรายได้จะมาในรูปแบบของการต่อรองการชำระแล้วได้เป็นเงินสด หรือจะได้เป็นทรัพย์สินที่ลูกหนี้นำมาค้ำประกัน(NPA) เช่น ที่ดิน บ้าน อาคาร ที่จะถูกนำไปรีโนเวทและขายทอดตลาด
ในตลาดการจัดการหนี้เสีย บริษัทจะถูกแบ่งเป็นบริษัทที่เน้นในการจัดการหนี้ที่มีหลักค้ำ(secure) ที่เน้นในการจัดการ NPA ต่างๆที่จะได้มาจากการบริหารหนี้ อีกฝั่ง คือบริษัทที่จัดการหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน(unsecure) เป็นหลักก็จะมีการเน้นติดตามหนี้
โดยในตลาดหุ้นก็มีตัวเลือกหลากหลายและมีความพิเศษที่ต่างกันไป ตัวอย่างของบริษัท AMC เช่น
พี่ใหญ่ BAM ที่เป็นบริษัท amc ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้น ซึ่งเมื่ออยู่ในตลาดการบริหารหนี้ ขนาดจะเป็นความได้เปรียบแบบหนึ่งเพราะสามารถซื้อหนี้ได้มากกว่าบริษัทขนาดเล็ก แต่ถ้าใครติดตามหุ้นนี้จะทราบว่ามันไม่เป็นที่นิยมเท่าหุ้นอื่น สาเหตุมาจาก bam โฟกัสไปที่ secure loan ซึ่งเมื่อมองในมุมการบริหารแล้วมันแทบจะคล้ายๆกับบริษัทอสังหาด้วยซ้ำ
JMT และ CHAYO ซึ่งเป็นบริษัทที่ขนาดเล็กรองลงมา แต่เป็นที่นิยมมากกว่ามากสังเกตได้จาก p/e ที่ทะลุฟ้าไปแล้วของ jmt ชี้ให้เห็นถึงความคาดหวังในการเติบโตที่สูงมาก สองบริษัทนี้โฟกัสใน unsecure loan ซึ่งสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าในความเสี่ยงที่สูงกว่า ด้วยหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยที่อยู่ในระดับสูงและสูงขึ้นเรื่อยๆ และข่าวการร่วม JV กับ bank ทำให้เป็นบริษัทที่เป็นที่นิยมสูงมากในตอนนี้
และเนื่องจากธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ดีก็ไม่แปลกที่จะมีบริษัทอื่นๆเข้ามาเอาส่วนแบ่งนิดๆหน่อยๆ เช่น TH ที่พึ่งเปลี่ยนมาเป็นบริษัท amc ไม่นานมานี้ หรือ ORI ที่มีแผนจะสร้างบริษัทลูกในธุรกิจนี้คาดว่าจะเป็น secure loan เพื่อเอาที่ดินเป็นหลัก
ความคิดเห็นส่วนตัวคือ amc เป็นธุรกิจที่ดีเนื่องในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี การก่อหนี้สูง เป็นโอกาสในการทำกำไรของธุรกิจประเภทนี้ แต่ว่าในราคาที่เสริมด้วยความคาดหวังไปแล้วขนาดนั้น ก็ต้องมองเอาว่าการเติบโตในระดับนั้นเป็นไปไม่ได้ เยอะไป หรือยังน้อยไป ถึงจะสามารถเข้าถือได้อย่างสบายใจ
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนนะครับ 😁
โพสหน้าอาจจะเขียนเกี่ยวกับ jv amc & bank นิดหน่อย 🤔
โฆษณา