ทัศนคติดี ชีวิตงดงาม ธงไชย แมคอินไตย์
ทุกคนในประเทศนี้ล้วนรู้จักพี่เบิร์ด ธงไชย ซุปเปอร์สตาร์อมตะนิรันดร์กาล ที่ได้รับการยอมรับทั้งผลงานและการใช้ชีวิต
พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2501 ที่ "ย่านบางแค" ฝั่งธนบุรี มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "อัลเบิร์ต แมคอินไตย์" (Albert McIntyre) เป็นลูกคนที่ 9 ในจำนวนพี่น้อง 10 คน ของคุณพ่อเจมส์ (จิมมี่) แมคอินไตย์ นายแพทย์ทหารลูกครึ่งสกอต-มอญ และคุณแม่อุดม แมคอินไตย์
ฐานะทางบ้านพี่เบิร์ดเรียกได้ว่ายากจนมาก สมาชิกครอบครัวมี 12 ชีวิต ตอนสมัยประถมพี่เบิร์ดต้องไปสอบในตอนเช้าซึ่งต้องกินข้าวแต่สิ่งที่พบ ในโอ่งข้าวสารไม่มีข้าวอยู่เลย พี่เบิร์ดจึงเดินไปบอกป๋า และป๋าก็พูดในประโยคที่พี่เบิร์ดต้องจดจำมาถึงทุกวันนี้
"จำไว้เลยนะ ไอ้พวกที่กินอิ่มๆน่ะโง่ เพราะกินอิ่มแล้วก็ต้องง่วงจริงไหม ไม่เหมือนเรายิ่งหิวยิ่งฉลาด เพราะเลือดวิ่งพุ่งลงระหว่างกระเพาะกับสมอง พอสมองได้บริหาร ลูกก็ฉลาด ทำข้อสอบได้สบาย"
จากคำพูดนั้น ทำให้พี่เบิร์ดมีกำลังใจและความเชื่อมั่น พอสิ้นสุดการสอบ พี่เบิร์ดก็คิดว่า
"ดีจังวันนี้ตัวฉลาดวิ่งกันเยอะมากจริงๆแฮะ"
ชีวิตในสลัมบางแค นับได้ว่าไม่อภิรมย์เท่าไหร่ แต่ครอบครัวแมคอินไตย์ก็อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แม้รอบบ้านพี่เบิร์ดจะเต็มไปด้วยสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี แต่ในครอบครัวกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
“ในใจพี่ไม่มีคำว่าลำบากเลย ไม่มีเลย ทั้งๆ ที่พี่อยู่ บางแคนะ เพราะอะไร เพราะความรักในครอบครัวไง เพราะป๋ากับแม่ไม่เคยแสดงให้เรารู้ว่าเขาเรียกว่าจน อันนี้เขาเรียกว่าไม่มีกิน ว่าอยู่ในสลัม อันนี้เขาเรียกว่ามันไม่ดี”
สนุกกับข้าวสารหนึ่งเม็ด
ชีวิตในวัยเยาว์พี่เบิร์ดเฝ้าแต่ฝันถึงวันที่มีข้าวสารเต็มถังเหมือนในร้านข้าวสาร แต่ในถังข้าวสารที่บ้านแมคอินไตย์นั้นก็ไม่เคยมีข้าวสารเต็มถังเสียที บางวันข้าวสารแทบจะไม่พอ แม่คุณอุดมบอกให้เหลือข้าวสารไว้ พี่เบิร์ดจึงต้องเหลือข้าวสารในถังไว้เพียงเม็ดเดียว อาจจะเป็นเรื่องเศร้าของบางคน แต่กับพี่เบิร์ดกลับมองว่านี่คือเรื่องสนุกและตลกอยู่ไม่น้อย
ทุกวันที่ไปโรงเรียน ในช่วงพักเที่ยง เด็กชาย ธงไชยจะเลือกแถวต่อซื้ออาหารที่โรงอาหารที่ยาวที่สุด เพื่อรอกริ่งสัญญาณเรียกหมดเวลารับประทานอาหารดังขึ้น แล้วฟอร์มทำเป็นกินไม่ทัน แต่ความจริงแล้ว เด็กชายธงไชยไม่มีเงินรับประทานอาหารเที่ยง
หลายคนบอกว่าหากเกิดมายากจนและสภาพแวดล้อมไม่ดี ก็ยากที่จะเป็นคนดีหรือประสบความสำเร็จได้ หรือบางคนมักจะนำความจน ชาติกำเนิดมาเป็นข้ออ้างเมื่อกระทำสิ่งไม่ดี ทุกวันนี้หากมองย้อนกลับไปมีใครกล้าบอกว่าธงไชย แมคอินไตย์นั้นไม่เป็นคนดี หรือไม่ประสบความสำเร็จ?
พี่เบิร์ด ธงไชยเล่าถึงแง่คิดชีวิตวัยรุ่นตอนที่อาศัยอยู่สลัมบางแคว่า "สอนและให้เราสอบผ่านให้ได้ทุกวัน การเรียนรู้และการแบ่งแยกความคิดไปในทางที่ดี ไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่างพร้อม คนเราจะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับตัวเราเท่านั้น"
เมื่อถึงวัยทำงาน ธงไชย แมคอินไตย์ ทำงานอยู่แผนกต่างประเทศของธนาคารกสิกรไทย สาขาท่าพระ เงินเดือนของเขาทุกเดือนนั้นให้คุณแม่อุดมใช้จ่ายดูแลทั้งหมด และทุกวันในเวลาเที่ยง ไม่ว่าในสมัยตอนเรียนหรือทำงานแล้วพี่เบิร์ดจะต้องซื้อก๋วยเตี๋ยวกลับมาฝากแม่ทุกวันที่สลัมบางแค
หลังจากถ่ายทำละคร นิรมิต แล้วเสร็จ พี่เบิร์ดอุปสมบทในวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2540 เป็นการบวชทดแทนคุณ พ่อแม่ ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร และได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานผ้าไตร และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีประทานเครื่องอัตถบริขาร โดยธงไชยได้รับฉายาว่า "อภิชโย" แปลว่า "ผู้มีชัยชนะอันยิ่งใหญ่"
สาเหตุจากการบวชนั้น เพราะว่า คุณแม่อุดมป่วยเป็นโรคไต ในช่วงเวลาที่บวชหนึ่งพรรษานั้น พระอภิชโย ได้ศึกษาธรรมะอย่างไม่อยากจะลาสิกขา แต่เมื่อถึงกำหนดพระอภิชโยก็ลาสิกขากลับมาเป็นเบิร์ด ธงไชย อีกครั้ง พี่เบิร์ดบอกว่าใจอยากบวชนานกว่านี้...แต่ที่สึกเพราะรู้ว่า เรื่องเดียวที่โลกพระธรรมให้ไม่ได้ก็คือการได้ "กอดแม่"
วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2544 คุณแม่อุดม แมคอินไตย์ก็ได้เสียชีวิตที่จังหวัดเชียงราย มีพิธีพระราชทานเพลิงศพวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2544 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมเจ้านาย 3 พระองค์ พระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
หลังจากที่สูญเสียคุณแม่อุดม พี่เบิร์ดก็มีอาการซึมเศร้า ภายหลังจากการสูญเสีย "แม่" ซึ่งเป็นบุคคลที่สำคัญในชีวิต แต่กำลังใจครั้งสำคัญที่สุดที่ทำให้พี่เบิร์ดกลับมาเป็นคนเดิมคือ
"วันครบรอบวันราชาภิเษกสมรส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่เก้า) และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ(พระพันปีหลวง) ท่านรับสั่งอยากให้เบิร์ดร้องเพลงที่พระราชวังไกลกังวล เราก็ขึ้นไปหาแม่ เอารูปแม่ใส่กระเป๋า บอกว่า แม่จ๋า แม่ไปกับเบิร์ดนะ"
โดยความตื้นตันใจที่สุดของพี่เบิร์ด คือ “การได้มีโอกาสก้มกราบแทบพระบาท ได้รับฟังพระกระแสรับสั่ง และการได้เห็นพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ“ สายพระเนตรที่มองไปบนเวทีตอนที่เบิรด์ร้องเพลง บ่งบอกว่าทรงพระเกษมสำราญอย่างเหลือเกิน..........เท่านั้นแหละ ความรู้สึกตื้นตันตื้อขึ้นมาถึงคอทันที น้ำตาแห่งความดีใจ ที่พสกนิกรอย่างเรา สามารถสร้างความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้พระองค์ท่าน หลังจากนั้นเบิร์ดก็กลับมาสดใสอีกครั้ง” พี่เบิร์ดกล่าว
ตลอดชีวิตการทำงานของพี่เบิร์ดนั้น พี่เบิร์ดเป็นคนตรงต่อเวลามาก ให้เกียรติคนทำงานทุกคน เคารพตนเอง และพยายามเพิ่มทักษะในการทำงานตลอดเวลา นั่นจึงทำให้ ธงไชย แมคอินไตย์ยืนอยู่ในใจของคนไทยมาถึงทุกวันนี้
“ความสุขมันไม่ได้อยู่ว่ามีหรือไม่มี ความสุขมันไม่ได้อยู่ที่ว่ารวยหรือไม่รวย ความสุขมันอยู่ที่ความสุข มองแล้วเรามีความสุขก็พอ” (บทสัมภาษณ์ ไทยรัฐออนไลน์ 30 ก.ย. 2561)
นั่นเพราะสำหรับพี่เบิร์ดความจนไม่ใช่ความทุกข์ ความทุกข์เกิดจากใจ คนที่ใจไม่เต็มไม่พอ ต่อให้ท่านร่ำรวยเป็นแสนล้านก็ไม่สุข หากใจไม่เต็ม ก็ต้องแสวงหาต่อไป ต้องเบียดเบียนคนอื่นต่อไป แต่สำหรับพี่เบิร์ดไม่ใช่ เพราะพี่เบิร์ดเป็นคนที่มีความสุขและแบ่งปันความสุขต่อผู้อื่น “ความสุข” นับเป็นสิ่งพิสดารยิ่งแบ่งปันยิ่งเปี่ยมล้น
ทัศนคติที่ดีนั้นทำให้ท่านไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน สถานะใด ท่านก็จะมีความสุขได้เสมอ
ขอบคุณ ธงไชย แมคอินไตย์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
