EP : 1,100
New Normal โลกยุคใหม่ของฉันกับเธอ
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาผมคิดว่าทุกคนคงได้รู้จักกับ “โควิด” กันมาระดับหนึ่งกันแล้ว เพราะต่อให้ไม่อยากรู้จักมัน แต่เจ้าโควิดก็คือโรคจากไวรัสที่ทำให้โลกเราใบนี้ต้องหยุดนิ่งไปกว่าเกือบ 3 ปีเลยทีเดียว แม้ในไทยจำนวนยอดผู้เสียชีวิตอาจไม่หนักเท่ากับทางยุโรปและตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วโลกไม่หนักเท่ากับโรคระบาดอื่นๆที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีตก็ตาม
แต่นั่นก็ทำให้เราได้สัมผัสวิถีชีวิตใหม่ๆที่แม้เราจะไม่อยากปรับเปลี่ยนอะไรก็ตาม มันก็ไม่มีทางเลือกให้เราเลือกนักหรอกครับ และแน่นอนเราทุกคนคงคุ้นเคยกับคำว่า New Normal กันไปเรียบร้อยแล้ว
ต้องยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมา New Normal เป็นวิถีการใช้ชีวิตแบบใหม่ที่เราไม่คุ้นเคยแม้ไม่ถึงกับเปลี่ยนไป 100% ก็ตาม แต่ด้วยระยะที่รวดเร็วจนไม่มีเวลาให้ปรับตัว ในที่สุดเกือบ 3 ปีที่ผ่านมาพวกเราก็ได้ปรับการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับเจ้าโควิดได้ดีระดับหนึ่ง และแม้ ณ เวลานี้หลายๆคนอาจจะรู้สึกว่ามันได้ผ่านช่วงเวลาที่หนักไปเรียบร้อยแล้ว แต่ความคิดที่ว่ามันอาจจะกลับมาอีกนั้น ได้ฝังอยู่ในความคิดและความรู้สึกของคนทุกคนบนโลกใบนี้ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะมันยัง “ไม่จบ” แม้เวลาตอนนี้ก็ตาม
ใครจะคิดละครับว่าเจ้าเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้จะเปลี่ยนแปลงโลกไปได้ขนาดนี้ และแม้เราจะคิดว่าผ่านมันมาได้แล้ว เจ้าโควิดก็ได้ทิ้งความสูญเสียไว้หลายๆอย่าง และแนวคิดไว้หลายๆสิ่ง ทำให้โลกใบนี้เปลี่ยนไปตามช่วงเวลาที่มันได้ปรากฎขึ้นมาบนโลกนี้แม้แต่ในโลกของ “มังงะ” ก็ตามครับ
ไม่แปลกเลยที่เรื่องราวของไวรัสสะเทือนโลกตัวนี้ถูกนำไปเขียนในหลายๆรูปแบบ ซึ่งส่วนใหญ่แทรกหรือดัดแปลงเนื้อหาเล็กๆน้อยๆ เอาไปใช้ในงานต่างๆ แล้วแต่จะเลือกใช้ ซึ่ง “มังงะ” เป็นหนึ่งในสื่อที่มักจะถูกใช้ถ่ายทอดเรื่องราวทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงแค่บางส่วนหรือแบบเต็มตัว
ในแต่ละเรื่องราวที่เกิดหรือไม่เกินขึ้นจริงบนโลกใบนี้ ซึ่งสำหรับผมแล้ว มีไม่กี่สื่อที่จะปล่อยให้ใครก็ตามสามารถใช้เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดความคิดและจินตนาการได้สุดขั้วได้เท่ากับ “มังงะ” ผมคิดว่าไม่ใช่ทุกสื่อกลางที่สามารถทำหน้าที่ของมันได้ขนาดนี้นะครับ แม้ส่วนใหญ่มันจะเต็มไปด้วยการดัดแปลงและผสม รวมถึงเลือกที่จะนำเสนอก็ตามที
อย่างเรื่องนี้ก็เช่นกันครับที่หยิบเรื่องราวแนวความคิดของสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มาใช้เป็นแก่นและแกนเรื่องเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของโลกในจิตนาการ ในช่วงเวลาหลังการสูญเสียครั้งใหญ่จนก่อเกิดแนวปฎิบัติในการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนเดิมและจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปอีกแล้ว กับเรื่องที่แค่อ่านชื่อเราก็รู้ได้ทันทีว่าพูดถึงเรื่องอะไรกันกับเรื่องนี้ครับ “New Normal โลกยุคใหม่ของฉันกับเธอ”
..ใส่แมสก์ ห้ามถอดแมสในที่สาธารณะ เว้นระยะห่างระหว่างกัน ห้ามพูดคุยกันระยะใกล้ และห้ามสัมผัสตัวกันโดยไม่จำเป็น .... นี่คือกฎที่ถูกใช้ในวิถีชีวิตของพวกเขา เพราะหลังจากที่โลกได้รู้จัก “ไวรัสยัคต์” โลกใบนี้ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ด้วยการสูญเสียประชากรไปบนโลกใบนี้ไปมหาศาล จนทำให้คนที่เหลืออยู่น้อยกว่าจำนวนคนที่ตายไปอยู่หลายเท่าตัว ทำให้โลกหลังจากปรับตัวและรับมือไวรัสได้ระดับหนึ่งต้องปฎิบัติตามกฎการ “ห้าม” อย่างเคร่งครัด แม้กระทั่งในการใช้ชีวิตกับครอบครัวของตัวเอง เพราะนี่คือโลกหลังการสูญเสีย และเป็นโลกที่ไวรัสยัคต์ ยังคงมีตัวตนอยู่ในโลกใบนี้
และก็เพราะ “แมสก์” คืออวัยวะที่สำคัญที่สุดในโลกใบนี้มากกว่ามือถือของเรา ทำให้ ณ เวลานี้ “ใบหน้า” ภายใต้แมสก์ คือสิ่งต้องห้ามที่หากไม่ใช่คนในครอบครัวแล้ว ยากที่จะได้เห็น กลายเป็นของสงวนที่หากใครแอบมองหรือได้เห็น คือเรื่องที่เสียมารยาทและไม่ใช่สิ่งที่จะให้อภัยได้หากเกิดขึ้น
ก็เพราะมันหนักหนาสาหัสจนเป็นเรื่องที่ทุกคนบนโลกตอนนี้รับรู้นี่แหละ ทำให้การได้เห็นใบหน้าของสาวสวยเพื่อนร่วมห้องที่หนุ่มๆหลายคนอยากจะได้เห็นใบหน้าภายใต้หน้ากากอย่าง “นัตสึกิ” โดยบังเอิญของเด็กหนุ่มธรรมดาอย่าง “ฮาตะ” จึงเป็นเรื่องที่เขาและเธอตกใจเป็นอย่างมาก กับครั้งแรกของกันและกันที่ได้เห็นและให้คนอื่นเห็นใบหน้าที่ถูกซ่อนเร้นไว้ภายใต้หน้ากากและนี่ก็คือเรื่องราวของเขาและเธอ ในโลกที่เราสัมผัสอยู่เพียงแต่โลกใบนี้มันก้าวเกินไปกว่าที่เราจะคาดคิดใน “New Normal โลกยุคใหม่ของฉันกับเธอ” ครับ
ก่อนอื่นต้องบอกว่าหากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเพจเราและตามอ่านมาตลอดจะรู้ว่า ผมเคยรีวิวเรื่องนี้มาก่อนหน้านี้นานแล้ว ซึ่งช่วงที่ได้รีวิวไปนั้น เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่ไม่มี LC และมีนักแปลในเน็ทแปลให้ได้อ่านกัน ซึ่งหลังจากอ่านไปไม่กี่ตอน ผมก็รับรู้ได้เลยว่าเรื่องนี้มันสนุกเอามากๆ ด้วยการนำเสนอโลกที่พวกเราทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย มาให้อ่านกัน ด้วยไอเดียที่อัพเดทและนำเสนอแบบกึ่งเรื่องจริงแบบนี้ ผมเลยรีวิวให้อ่านกันในตอนนั้น
และแน่นอนผมมีความสุขมากที่ตอนนี้มันถูกซื้อ LC และนำมาพิมพ์ให้ซื้ออ่านกันอย่างถูกต้อง นั่นก็เลยเป็นที่มาที่ผมอุดหนุน และอ่าน และมารีวิวกันอีกครั้งหลังจากอ่านรอบนี้จบ และแน่นอนครับผมไม่ได้กลับไปอ่านหรอกนะว่าตอนนั้นผมรีวิวเรื่องนี้ไว้ว่าอย่างไรบ้างนะครับ 555
ด้วยความที่เรื่องนี้หยิบเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นและยังเกิดอยู่ในตอนนี้มาเป็นจุดสำคัญและจุดเริ่มต้นของเรื่องราวปัญหาทั้งหมดของโลกในเรื่องนี้ สิ่งที่เรารู้สึกได้เลยก็คือเรื่องราวมันมีความ “สดใหม่” ด้วยระยะเวลาที่ปัญหายังดำเนินอยู่ รวมถึงทำให้คนอ่าน “เข้าถึง” ในปัญหาและสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ ว่าไปอยู่ ณ จุดนั้นได้อย่างไร รวมถึง “เข้าใจ” ในวิถีปฎิบัติของตัวละคร
แม้ในเรื่องจะดำเนินการที่หนักกว่าที่เราเผชิญอยู่ เพราะด้วยสมมุติฐานที่ว่าโลกเกิดการสูญเสียหนักมากกว่าที่เราได้เจอก็ตาม แต่มันก็ไม่ยากเกินไปที่เราจะเข้าใจและเข้าถึงสิ่งที่เรื่องใส่ไว้ในตอนต้นเรื่องเพื่อให้เห็นว่าโลกใบนี้อยู่ในสถานะแบบไหน และนั่นก็ทำให้คนอ่านอย่างเรามีส่วนร่วมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นครับ
เพราะคนอ่านอย่างเราเข้าใจและเข้าถึงเรื่องราวตอนต้นของเรื่องได้อย่างรวดเร็ว เนื้อหาจึงแทบไม่ต้องอธิบายอะไรมากนัก ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้และตอนนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉลาดมากกับการหยิบประเด็นนี้มาเล่นครับ ทำให้ตอนต้นเรื่องพาเราเข้าไปถึงประเด็นสำคัญของตัวละครในเรื่อง นั่นก็คือความรู้สึกกับสิ่งซ่อนเร้น ที่มันไม่เคยถูกซ่อนมาก่อนในโลกใบเก่า
และเมื่อในโลกหลังเกิดเรื่องมาแล้วมองว่าต้องซ่อนมันไว้ให้มิดชิด ทัศนคติต่อสิ่งเร้าไปเชิงทางเพศของมนุษย์เราก็เปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ถูกห้ามเห็น ต้องซ่อนเอาไว้อย่างใบหน้า ซึ่งนี่เป็นการเล่นประเด็นที่ง่ายแต่ดูแตกต่างและมีความน่าสนใจพอที่จะทำให้เราเกิดความสนใจในการอ่านเรื่องราวใกล้ตัวในอีกรูปแบบของเรื่องนี้ต่อไปครับ
ด้วยการที่เรื่องเข้าประเด็นของความสำคัญได้เร็ว และการพาเราเข้าไปสู่ความตื่นเต้นในเรื่องความรักของเด็กวัยรุ่นได้ชัดเจนทำให้เนื้อหาน่าติดตามตั้งแต่ตอนต้น ด้วยการใส่สภาพแวดล้อม ณ เวลานั้นของโลกใบนี้ไปให้เห็นพร้อมกับการใช้ชีวิตที่ใบหน้าเป็นสิ่งต้องห้ามเห็น ผมถือเป็นการเริ่มต้นเรื่องที่ทำได้ดีเอามากๆ ด้วยอารมณ์และรูปการที่ถ่ายทอดให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน เกิดอะไรขึ้น ทำไม เพราะอะไร และสิ่งเหล่านั้นทำให้เรื่องบังเอิญของพระเอกเราที่ได้เห็นใบหน้ามันแอบมีความตื่นเต้นเชิงอีโรติกขึ้นมาได้แบบที่ควรเป็นครับ
ทั้งๆที่ทรงเป็นเรื่องราวความรักของวัยรุ่นในยุคอนาคตหลังเจอวิกฤติอย่างชัดเจนจากต้นเรื่องที่เปิดออกมาได้อย่างดี แต่ตัวเรื่องก้าวไปสู่เนื้อหาที่ครบและรอบด้านอย่างที่ผมไม่คาดคิด เอาจริงๆ จากตอนแรกๆ ผมคิดว่าจะขายความเป็นรักใสๆ ของชีวิตวัยรุ่นไประยะใหญ่หรือจนจบเลยด้วยซ้ำ ซึ่งดูทรงแล้วมันจะน่ารักและสนุกตามเรื่องแนวนี้ไปได้ดีเลยแหละ เพราะแบบนั้นหากมอง ณ เวลานี้ที่รีวิวผมถึงรู้สึกว่าเรื่องนี้มองข้ามไปมากกว่าจะให้เรื่องนี้เป็นมังงะแนวรักเท่านั้นครับ
เพราะขณะที่เรากำลังใจเต้นไปกับความรักเชิงตื่นเต้นกับช่วงเวลาที่ร่างกายเริ่มเติบโตขึ้น สภาพและบริบทสังคม ณ เวลานั้นที่เรื่องใส่มา มันถูกใช้ให้มีความดราม่าและขยายความต่อกับไวรัสตัวร้ายไปในจุดที่เรื่องสามารถทำได้ แต่ผมไม่คาดคิดว่าเขาจะเล่นเร็วและจริงจังมากกว่านี้ นั่นคือโลกที่ “สูญเสีย” และ “ถูกทำลาย” ไปจากไวรัสตัวนี้ มันก็เหมือนกับตอนนี้แหละครับ
ที่ไวรัสยังไม่ได้ถูกกำจัด 100% ที่สำคัญมันกำลังพัฒนาตัวเองเพื่อให้อยู่รอดได้ไม่ต่างจากมนุษย์เรา
สำหรับผมแล้วการเล่นอีกด้านของความเป็นโรคระบาดควบคู่ไปกับเนื้อเรื่องความรักของตัวละคร เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเร็วมากกว่าที่คิด
รวมถึงจริงจังและนำมาเป็นประเด็นดราม่ามากกว่าที่คาด ที่คิดอย่างนี้เพราะตั้งแต่ต้นเรื่องเขาเปิดเรื่องราวความรักมาได้ดีเอามากๆ เลยคิดว่าจะเน้นไปที่ความรักเป็นหลักแล้วแทรกเรื่องดราม่าเล็กๆให้เป็นอีเว้นท์แทรกไปเรื่อยๆให้ความรักพัฒนาไปครับ แต่จากที่อ่านมาผมรู้สึกได้เลยว่าเรื่องนี้จะเล่น 2 อย่างนี้ไปด้วยกัน และให้ความสำคัญเท่าๆกันหรือใกล้เคียงกันไปเรื่อยๆด้วย
ซึ่งสำหรับผมแล้วมันคือความกล้าที่จะเสี่ยง หรือจะมองว่าคือความตั้งใจและความมั่นใจว่าตัวเองจะสามารถนำเสนอเรื่องราวความรักในครั้งนี้ในด้วยส่วนผสมความดราม่าได้ดี เพราะที่ผ่านมาหลายๆเรื่องเวลาจะปรับเรื่องเข้าสู่ความดราม่า มักจะอยู่ในจังหวะที่เรื่องราวความรักเริ่มดาวน์หรืออยู่ตัวระยะเวลานึงแล้ว นัยว่าเป็นการเปลี่ยนเกียร์ของเรื่องแบบนั้นครับ แต่เรื่องนี้ใช้ควบคู่กันตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ขอตบมือในความกล้าที่จะเล่าออกมาในรูปแบบนี้ครับ
และถามว่าเล่าความดราม่าได้ดีไหม ? ต้องบอกว่าดีเยี่ยมครับ... เพราะด้วยการค่อยๆแทรกตั้งแต่ต้นเรื่องมาให้เห็นสภาพสังคม ณ ตอนนี้ ตัวเรื่องพาเข้าสู่โหมดดราม่าและความรู้สึกของคนที่ต้องเผชิญกับไวรัสได้ด้วยตัวละครที่ใส่เข้ามาได้อย่างแนบเนียน เอาจริงๆมันเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำ ดูธรรมดากับการใส่เนื้อหาตรงจุดนี้เข้ามา ด้วยรูปแบบเดิมๆ
แต่ด้วยความละเอียดละเมียดในการเล่าทำให้เรารู้สึกได้ถึงความสูญเสีย ที่เล่นประเด็นของ “ตัวตน” บนโลกใบนี้ หรือก็คือ การสื่อสารถึงความรู้สึกของมนุษย์ในยุคนี้นั้นก็คือ การเล่นกับความคิดที่ว่า ไม่อยากให้ใครลืมว่าเราเคยมีตัวตนอยู่จริงบนโลกใบนี้ หรือก็คือความเหงาและความเสียใจ อารมณ์พื้นฐานของมนุษย์เราครับ
ตรงนี้ผมชอบมากนะครับ กับการนำเสนอเคสนี้ให้เห็น เพราะแม้ก่อนหน้านี้เราจะได้เห็นในแง่การบังคับใช้กฎหมายและหน่วนงานว่ามีความจริงจังแค่ไหนในการควบคุมโรคนี้ ซึ่งทำให้เราเห็นว่ามันตรึงเครียดมากระดับนึงเลย ซึ่งการนำเสนอนี้แทรกเข้ามาระหว่างความรู้สึกตื่นเต้นในความรักของตัวละครก็ตาม เราก็ยังรู้สึกได้ว่าสถานการณ์ไม่ใช่สบายๆอย่างเดียวอย่างที่เราคิดครับ นั่นก็คือเรื่องเล่นหลายๆประเด็นไปพร้อมๆกันและก็ยังทำให้เรารู้สึกถึงความรักที่กำลังเบ่งบานของตัวละครในตอนนี้เช่นกันครับ
เรื่องความดราม่าในแง่ของความสูญเสียและสิ่งที่ตามมาที่เกี่ยวข้องกับไวรัสเป็นสิ่งที่ใส่เข้ามาและเล่าออกมาได้อย่างดีมาก ต้องชม อ. ที่เล่าออกมาได้ดีขนาดนี้ และแน่นอนรวมถึงเรื่องแนวความรักที่เป็นหัวใจหลักตั้งแต่ต้นเหมือนกัน อย่างที่บอกว่าเรื่องเข้าเนื้อหาความรักได้เร็ว รวมถึงประเด็นความรักสามเศร้าด้วยเช่นกันครับ
ด้วยเรื่องที่เข้าสู่โหมดเรา 3 คนได้อย่างรวดเร็ว สิ่งที่ผมชอบในเรื่องนี้คือความเป็นธรรมชาติที่นำเสนอออกมา เพราะโดยส่วนตัวผมจะหงุดหงิดกับพระเอกแนว ธรรมดา แต่นางฟ้ามาหลงรัก อาจจะเพราะมันยากในความเป็นจริงหรือเพราะในชีวิตจริงมันก็ยังมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นบ้างอยู่นะ แต่กับเรื่องนี้ตำแหน่งหรือจุดยืนของพระเอกแม้เรื่องจะบอกว่าเป็นเด็กชายทั่วไป
แต่เพราะไม่ได้พยายามเน้นไปให้เห็นว่าอยู่ในจุด “เห่ย” ซึ่งหลายๆเรื่องชอบใส่และยัดเยียดเข้าไปในตัวพระเอกเพื่อให้มันต่างกับนางเอกมากๆ ซึ่งในยุค 90 นิยมใช้กัน แต่ก็เป็นอะไรที่ผมไม่ค่อยคลิก การที่เรื่องนี้เล่าแบบธรรมดา และส่งบทพระเอกให้ดูเป็นเด็กทั่วไปจริงๆ ผมโอเคมากกับบทบาทและการเข้าเรื่องเมื่อกลายเป็นรัก 3 เศร้าครับ มันเนียนและดูไม่ยัดเยียดดี
ซึ่งในการเล่าเรื่องราวความรักสไตล์เลิฟคอมเมดี้เมื่อเข้าสู่จังหวะความรัก ตัวเรื่องทำได้ดีอย่างที่บอกครับ มีทั้งมุกตลกและการเล่าเรื่องแบบใสๆที่ควรเป็น แต่ให้ความรู้สึกตื่นเต้นในแง่ความรักและเพศตรงข้ามอยู่บ้าง ซึ่งระดับนี้เป็นสิ่งที่ดี พร้อมกับนำเสนอฉากและซีนหัวใจเต้นตึกตักอยู่เป็นจังหวะแบบแนบเนียน ต้องถือว่าการนำเสนอเนื้อหาในส่วนนี้ทำได้ดีและดีมากอย่างที่สุดครับ
การเล่าเรื่องที่ลื่นไหลและการพาเข้าไปถึงความรู้สึกครบถ้วนในทุกด้าน นอกจากความสามารถในการเล่าเรื่องที่ทำออกมาได้ดีแล้ว สิ่งสำคัญก็ทำให้เราไปถึงจุดนั้นได้ “ลายเส้น” คือสิ่งสำคัญที่ปฎิเสธไม่ได้ว่า มันใช่และมันดีมากครับ ตั้งแต่เริ่มต้นและตั้งแต่เริ่มเห็น นี่เป็นอีกหนึ่งงานวาดที่ผมว่าลงตัวเอามากๆ ตั้งแต่การออกแบบตัวละครที่แต่ละคนต้องบอกว่าน่ารักและใช่เลย
รวมถึงการวาดบรรยากาศและสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกด้านทุกจังหวะด้วยสไตล์การวาดที่ลงตัว แม้ไม่แน่นด้วยรายละเอียดแต่ก็ยังสามารถสื่อสารสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้รู้สึกได้เป็นอย่างดี ผมถือว่าเรื่องนี้ใช้ได้เลย รวมถึงฉากซีนหัวใจเต้นต่างๆ ที่ทำออกมาได้ดีมากๆ ผมชอบการวาดทั้งหน้าด้วยรูปเดียวของเรื่องนี้มาก
ซีนพวกนี้แม้จะเป็นหน้าโดดๆ แต่มันทำให้ผมหยุดมองและทอดอารมณ์ไปกับความรู้สึกของตัวละครที่หัวใจกำลังเต้นไปกับช่วงเวลานั้นได้ร่วมกัน ส่วนตัวประทับใจงานวาดในเรื่องนี้มาก ไม่ได้สวยสุดๆ ไม่ได้ละเอียดมากแบบที่ชอบ แต่ลงตัวในแบบที่ตัวเองเป็นครับ
“New Normal โลกยุคใหม่ของฉันกับเธอ” เรื่องและภาพโดย อ. Akito Aihara ในไทยเจ้าของ LC คือ Dango Manga ครับเปิดตัวในไทยด้วยการออกมา 2 เล่มพร้อมกัน ช่วยให้อ่านแล้วต่อเนื่องได้ดีเลยนะครับ เรื่องนี้เพิ่งออกมาใคร แนะนำให้รีบหาอ่านในตอนนี้ครับ
เป็นอีกเรื่องที่ครบและทำออกมาได้ดีในทุกเนื้อหาที่นำเสนอนะครับ ไม่ใช่เพียงแค่เป็นมังงะแนวเลิฟคอมเมดี้อย่างเดียว มีไม่บ่อยที่เรื่องจะพูดเนื้อหาเกี่ยวกับความรักและชวนให้ผมสนุกได้ตั้งแต่เล่มแรกแบบนี้ครับ ด้วยเรื่องราวที่มันใกล้กับพวกเรามากๆ กับการนำเสนอเนื้อหาได้ครบถ้วนทั้งความรักของวัยรุ่น เรื่องราวที่เปลี่ยนไปของสังคม
และดราม่าจากสิ่งที่เราไม่ควรลืมว่าเรื่องนี้กำลังพูดถึงโลกหลังการสูญเสีย และกำลังสูญเสียอยู่เช่นกันนั้น ทุกอย่างที่เล่ามาพาเราไปถึงจุดที่ควรจะเป็นได้ทั้งหมด ด้วยงานภาพสวยๆ ถ่ายทอดทุกอารมณ์ได้เป็นอย่างดี บทลื่นไหลและเข้าถึงสิ่งที่จะพูดได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีจุดไหนที่ช้าเลย
ถือเป็นเรื่องที่โดดเด่นทั้งงานภาพและการเล่าเรื่อง จนแทบไม่มีอะไรให้ติเลยครับ ไม่รู้จะเวอร์ไปหรือเปล่าที่พูดอย่างนี้ เพราะฉะนั้นลองหาอ่านดูครับ ชอบไม่ชอบบอกกันได้ ห้ามพลาดสำหรับคนที่ต้องการหางานดีๆอ่าน จะรัก หรือดราม่า เรื่องนี้มีให้ครบครับ แนะนำครับ
*** คะแนนที่ให้ไว้นี้สำหรับอ่านเล่ม 2 จบเท่านั้นหากอนาคตได้มีโอกาสอ่านเรื่องนี้จนจบ จะกลับมารีวิวและให้คะแนนใหม่อีกครั้งนะครับ ***
.
ภาพ 9.5/10
เรื่อง 10/10
ความประทับใจ 10/10
อ่านรีวิวเรื่องอื่นๆที่ทางเพจเคยรีวิวไว้มีกว่า 1,000 กว่าเรื่องตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ.
.
#Manga #รีวิวการ์ตูน #ยังไม่จบ #DangoManga #การ์ตูนแนวเลิฟคอมเมดี้ #การ์ตูนแนวดราม่า #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวภาพสวย #10คะแนน #โลกยุคใหม่ของฉันกับเธอ #หนังสือการ์ตูน #Rate15
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
