#Fibonacci คือลำดับตัวเลข ที่แต่ละตัวมาจากผลลัพธ์ในการบวกกันของตัวเลข 2 อันดับก่อนหน้า ซึ่งเราเรียกลำดับนี้ว่า "Fibonacci Sequence" โดยตัวเลข Fibonacci เรียกว่า #อัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio) เป็นที่นิยมทั่วโลก สามารถนำไปประยุกต์กับงานในหลากหลายแขนง รวมถึงวงการ #คริปโต เช่นกัน
👉🏻 อัตราส่วน Fibonacci ที่จะนำมาอธิบายในวันนี้และอยากให้ทุกคนจำค่าเหล่านี้ไว้ให้ดี ได้แก่ 0.382 หรือ 0.33, 0.618, 0.786 และ 0.942
แล้วอัตราส่วนที่กล่าวมานี้ มีความสำคัญกับวงการคริปโตอย่างไร.. 🤔
✅ อย่างที่รู้กันดีกว่าการเทรดนั้น ถ้าเข้าซื้อหรือขายตามอารมณ์ ความรู้สึก โอกาสถูกทางก็มี..แต่ไม่ถึง 0.01% แน่นอน ดังนั้นการใช้ Fibonacci จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้หาจุดที่เหมาะสม เพื่อกำหนดการเทรด ไม่ว่าจะเป็นการหาแนวรับ-แนวต้าน จุดเข้าเทรดและจุดตัดขาย, การวัดย่อตัวของกราฟเพื่อดูทิศทางของ Trend หรือประเมินโอกาสการขยายของราคาที่จะไปถึง รวมถึงการวางเครื่องมือ Take Profit, Stop loss และ Trailing Stop
วันนี้แอดมินจะพาทุกคนมาหาจุดเข้า-ออกในกราฟและการวางจุด Take Profit, Stop loss และ Trailing Stop ที่เหมาะสมโดยใช้อัตราส่วน FIbonacci เป็นตัวช่วย
ก่อนจะไปลงสนามจริง ขอแนะนำเครื่องมือ #Fibonacci #Retracement เครื่องมือที่มีอยู่ใน #Tradingview ไว้ลากกรอบราคาตามสัดส่วน Fibonacci เพื่อที่เทรดเดอร์จะสามารถพิจารณาการเทรดในกรอบได้อย่างชัดเจน โดยวันนี้จะพามาลากกรอบในตลาดขา #Long เพื่อหาจุดพักตัวในการเข้าซื้อเมื่อกราฟย่อ และหาจุดทำกำไรเมื่อกราฟขึ้น
การลากหาจุดพักตัวเพื่อเข้าซื้อ
📍 เป็นการลากจากจุด A ไปจุด B โดยนำ 0 ไว้ที่จุดสูงสุด (A) และ 100 อยู่ที่จุดต่ำสุด (B) เพื่อวัดระยะว่าราคาจะลงไปสุดตรงไหน
การลากเพื่อหาจุดทำกำไร
📍 เป็นการลากกราฟจากจุด A ไปจุด B โดยนำ 0 ไว้ที่จุดต่ำสุด (A) และ 100 อยู่ที่จุดสูงสุด (B) เพื่อวัดระยะที่ราคาจะสามารถขึ้นไปสูงสุดถึงจุดใด
เมื่อเข้าใจหลักการลากเครื่องมือ Fibonacci Retracement ในตลาดขา Long กันแล้ว เรามาวิเคราะห์บนสนามจริงกันดู ว่าจะมีหลักการพิจารณาตัวเลข Fibonacci อย่างไร
ในการหาจุดพักตัวของราคาเพื่อพิจารณาการเข้าซื้อมี 3 ตำแหน่ง ดังนี้..
✅ ค่า 38.2% (0.382) หรือในระยะ 0.33 เป็นแนวรับแรก หากราคาไม่ย่อตัวผ่านระดับนี้ โอกาสที่ราคาจะขึ้นไปต่อได้อีกค่อนข้างสูง
✅ ค่า 61.8% (0.618) แนวรับที่ 2 ซึ่งเป็นแนวสำคัญ ด้วยลักษณะการลงมาถึงจุดนี้เหมือนเป็นครึ่งทางของขาลงที่จะสามารถลงมาได้ ดังนั้นจุดนี้เทรดเดอร์บางคนอาจะมองเป็นจุดที่เหมาะสมในการเปิดออเดอร์ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเทรดเดอร์แต่ละท่าน
✅ ค่า 94.2% (0.942) แนวรับสุดท้ายที่ควรพิจารณา เพราะหากราคาย่อตัวไปมากกว่านี้ จะอยู่ในลักษณ์ของการหลุดแนวรับเป็นที่เรียบร้อย หรืออาจะเรียกจุดนี้ว่าเป็นจุดพนันเลยทีเดียว เพราะหากเปิดออเดอร์ที่จุดนี้แล้วราคาขึ้นไปก็มีโอกาสจะทำกำไรได้มากนั่นเอง
✅ ค่า 100% จุดยอมแพ้หรือหาทางเลือกอื่น ๆ หากกราฟลงมาถึงจุดนี้ควรพิจารณาในการวางแผนเพื่อเทรดใหม่ในขา Short หรือ ขา Long มากกว่าการมองหาแนวรับเพื่อเปิดออเดอร์
เมื่อตัดสินใจเข้าออเดอร์ที่ประมาณ 0.618 (อ้างอิงจากภาพที่แล้ว) เราจะทำการหาจุดทำกำไรโดยลากเส้น Fibonacci จากจุดดังกล่าว โดยวาง 0 ที่ราคาเข้า (A) และลาก 100 ไปที่จุดสูงสุด (B) ตามภาพตัวอย่าง
จากนั้นพิจารณาการ Take Profit ตามอัตราส่วน FIbonacci โดยมีหลักเกณฑ์ในการวางตามสัดส่วน FIbonacci ดังนี้
📍 จุด Take Profit ที่ 1 คือ 61.8
📍 จุด Take Profit ที่ 2 คือ 78.6
📍 จุด Take profit ที่ 3 คือ 94.2
📍 จุด Take profit ที่ 4 คือ 161.8
แม้ราคาจะ Moon ไม่ถึง 161.8 แต่ด้วยการวางแผน Take Profit ไว้ 3 ตำแหน่งก่อนหน้าก็สามารถทำให้เราเก็บกำไรได้นั่นเอง
และในกรณีที่ใช้การกำหนดระยะ Trailing Stop มีวิธีการทำงานคือ เมื่อราคาขึ้นไปตำแหน่งหนึ่งสู่อีกตำแหน่งหนึ่ง เราจะกำหนดระยะปิดออเดอร์ที่ราคาล่าง เมื่อเกิดการย่อตัวลงของราคา จุดนี้จะเป็นจุดที่ปิดออเดอร์ ตัวอย่างเช่น เมื่อเข้าออเดอร์ที่จุด 0 และราคาลากขึ้นไปเรื่อย ๆ ผ่าน 0.33 ไปที่ 0.618 ให้ตั้งจุดปิดออเดอร์ที่ 0.33 ซึ่งจะเป็นจุด Trailing Stop จุดที่ 1 ในภาพนั่นเอง
จบไปแล้วกับการวิเคราะห์ Fibonacci เทรดเดอร์ทุกคนสามารถนำเทคนิคนี้ไปปรับให้เข้ากับสไตล์การเทรดของตัวเองได้เลย แล้วครั้งหน้าจะมีเทคนิคการเทรดอะไรอีก ติดตามได้ที่เพจ MA5 Bot ข้อมูลดี ๆ เพราะอยากให้เทรดเดอร์ทุกคนใ้ช้ชีวิตอย่างมีกำไรไปด้วยกันคร้บ..
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
