16 ก.ค. 2022 เวลา 02:50 • หุ้น & เศรษฐกิจ
“ปาจิงโกะ” ตู้เสี่ยงโชคล้านล้าน ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจญี่ปุ่น นานเกือบ 100 ปี
5.3 ล้านล้านบาท คือมูลค่าตลาดของธุรกิจปาจิงโกะในประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งคิดเป็น 3% ของ GDP ประเทศญี่ปุ่นในปี 2020
2
ถ้าหากพูดถึงความบันเทิงในญี่ปุ่น นอกจากเกม และอานิเมะแล้ว
ก็ยังมี “ตู้ปาจิงโกะ” ที่เป็นกิจกรรมพักผ่อนยอดนิยมของคนญี่ปุ่นมานาน
แต่หลายคนน่าจะยังไม่รู้ว่า “ร้านปาจิงโกะ” ที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบ
กลับดำเนินธุรกิจโดย “คนเกาหลี” เป็นส่วนใหญ่
2
เรื่องราวการเดินทางของร้านปาจิงโกะ จะเป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
1
ตู้ปาจิงโกะ ได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1930 หรือราว 92 ปีก่อนที่เมืองนาโกยะ
โดยมีต้นแบบมาจากเครื่องเล่นไม้กระดานตั้งโต๊ะจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้เล่นจะต้องยิงลูกบิลเลียดให้ลงหลุม
2
ต่อมาจึงได้มีการปรับรูปแบบเครื่องเล่นให้เป็นแนวตั้ง
เพื่อให้ร้านปาจิงโกะสามารถใช้พื้นที่ในการวางตู้ได้มากที่สุด และเล่นได้สะดวกมากขึ้น
โดยผู้เล่นต้องยิงลูกเหล็กขึ้นไป แล้วให้ลูกเหล็กตกลงมาตามหลุมต่าง ๆ แล้วนำลูกเหล็กที่ได้มา ไปแลกของรางวัลต่อ
ซึ่งของรางวัลนั้น ก็มีตั้งแต่ของกิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ทองคำ ไปจนถึงสินค้าแบรนด์หรู
1
ซึ่งลูกเหล็กที่ได้นี้ ไม่สามารถนำไปแลกเป็นเงินได้ เพราะจะผิดกฎหมายการพนันในญี่ปุ่น
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ก็จะมีร้านลับ ที่ให้แลกเป็นเงินได้อยู่เสมอ
7
ธุรกิจปาจิงโกะเอง ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
และเติบโตขึ้นถึงขีดสุดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
โดยในปี 1953 พบว่ามีร้านปาจิงโกะในญี่ปุ่น ที่ได้จดทะเบียนกว่า 390,000 ร้าน
ด้วยจำนวนร้านขนาดนี้ พูดง่าย ๆ ว่าทุกรัศมี 600 เมตร ในญี่ปุ่น จะเจอร้านปาจิงโกะมากถึง 3 ร้าน
3
แต่เรื่องที่น่าสนใจก็คือ
ผู้ที่มาดำเนินธุรกิจร้านปาจิงโกะไม่ใช่คนญี่ปุ่น แต่กลับเป็นคนเกาหลี..
2
แล้วมันเพราะอะไรกัน ?
1
ก็ต้องบอกว่าในช่วงเวลาดังกล่าว
คนเกาหลีได้ลี้ภัยจากสงครามไปอยู่ในญี่ปุ่น
รวมถึงคนบางส่วนที่เคยถูกจับเป็นเชลยสงครามในช่วงที่ญี่ปุ่นบุกยึดเกาหลี
1
ซึ่งคนเกาหลีถูกมองเป็นพลเมืองชั้นสอง
ประกอบกับธุรกิจร้านปาจิงโกะในยุคนั้น ยังถูกมองว่าเป็นธุรกิจสีเทา
เพราะเป็นธุรกิจเสี่ยงโชค คล้าย ๆ กับการพนันที่ถูกกฎหมาย
1
ดังนั้น การทำธุรกิจหรือเป็นพนักงานร้านปาจิงโกะ จึงเป็นโอกาสทองสำหรับคนเกาหลีในยุคนั้น
3
มาจนถึงช่วงทศวรรษ 1990s ธุรกิจเกมคอนโซลเริ่มเติบโตมากขึ้น และได้เริ่มเข้ามาแย่งเวลาว่างของชาวญี่ปุ่นไปจากร้านปาจิงโกะ
แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้ตู้ปาจิงโกะ เสื่อมความนิยมไปมากนัก เพราะในยุคนั้นก็ได้มีการพัฒนาตู้ปาจิงโกะให้เป็นดิจิทัล และปรับหน้าจอเป็น LCD เพื่อให้มีความทันสมัยมากขึ้น เช่นกัน
1
แต่แล้ว ธุรกิจปาจิงโกะ ก็ได้มาถึงจุดสูงสุดในปี 1999
โดยมีมูลค่าถึง 9.4 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 5.6% ของ GDP ทั้งประเทศ
และหลังจากนั้นมา ธุรกิจปาจิงโกะก็ได้รับความนิยมลดลงเป็นอย่างมาก
6
สะท้อนให้เห็นจากจำนวนผู้เล่นปาจิงโกะ
ปี 2000 มีจำนวนผู้เล่น 20 ล้านคน
ปี 2019 มีจำนวนผู้เล่น 8.9 ล้านคน
1
จะเห็นได้ว่า แม้ช่วงที่ยังไม่มีการระบาดของโควิด 19 ผู้เล่นปาจิงโกะก็ได้หายไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง
1
โดยสาเหตุหลักก็เพราะว่า
- การเข้ามาของอินเทอร์เน็ต
ทำให้คนรุ่นใหม่ มีทางเลือกในการทำกิจกรรมบันเทิงมากขึ้น เช่น เกมบนสมาร์ตโฟน การดูหนังหรือการ์ตูนออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิง
1
- การเข้ามาของกิจกรรมทางเลือกอื่น ๆ
ในญี่ปุ่นเอง ก็เริ่มมีกิจกรรมทางเลือก อย่างเช่น ร้านคาเฟในยุคใหม่ เพื่อให้ผู้คนไปทำกิจกรรมผ่อนคลาย
1
เมื่อโลกที่เปลี่ยนไป ทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ ไม่ชอบยึดติดกับรูปแบบความบันเทิงเดิม ๆ จึงไม่สนใจการเล่นปาจิงโกะแบบกลุ่มคนยุคก่อน
อีกทั้งข้อกฎหมายใหม่ในญี่ปุ่น ที่ไม่ค่อยเอื้อต่อการทำธุรกิจเท่าไรนัก
เช่น การจำกัดเงินรางวัลสูงสุดของตู้ปาจิงโกะให้เหลือเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น
 
นอกจากนี้ ร้านปาจิงโกะ ก็ยังถูกซ้ำเติมจากวิกฤติโรคระบาด
ทำให้นักท่องเที่ยวและลูกค้าประจำที่มาเล่นหดหาย
1
เราจะเห็นได้จากผลประกอบการของร้าน DYNAM
เชนร้านปาจิงโกะรายใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
1
ปี 2017 มีรายได้ 52,000 ล้านบาท กำไร 4,600 ล้านบาท
ปี 2019 มีรายได้ 48,000 ล้านบาท กำไร 5,800 ล้านบาท
ปี 2021 มีรายได้ 33,000 ล้านบาท ขาดทุน 240 ล้านบาท
2
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ร้านปาจิงโกะ ได้มีการปรับรูปแบบร้านใหม่
เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
2
- ทำให้ร้านดูโอ่อ่า กว้างขวาง และตกแต่งร้านให้น่าดึงดูด คล้าย ๆ กับกาสิโน
- การเอาแครักเตอร์ ของการ์ตูนอานิเมะ ที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ญี่ปุ่น ไปใช้เป็น ธีมของแต่ละตู้
2
สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และดึงดูดผู้คนให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาเยือนญี่ปุ่น ให้เข้ามาลองเล่นปาจิงโกะดูสักครั้ง
3
มาถึงตรงนี้ ก็พอจะบอกได้ว่า “ตู้ปาจิงโกะ”
ยังคงเป็นฟันเฟืองเศรษฐกิจ ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครประจำประเทศญี่ปุ่น
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีความบันเทิงอื่น ๆ ที่มาแย่งเวลาพักผ่อนจาก “ตู้ปาจิงโกะ” ไปไม่น้อยเหมือนกัน
ซึ่งเราก็ต้องดูกันต่อไปว่าตู้ปาจิงโกะ
ที่เป็นกิจกรรมบันเทิงของคนญี่ปุ่นมาหลายชั่วอายุคน
จะยังคง “เฮฮาปาจิงโกะ” เหมือนในศตวรรษที่ผ่านมาหรือไม่..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ว่า ปัจจุบัน กว่า 80% ของร้านปาจิงโกะในญี่ปุ่น ยังคงถูกดำเนินธุรกิจโดยคนเกาหลีที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น..
1
หนังสือ BRANDING THE NATION หนังสือที่เล่าถึงการสร้างแบรนด์ของแต่ละประเทศที่ทำให้ แต่ละประเทศเป็นแบบทุกวันนี้
เช่น ทำไมเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ทำไมฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งแบรนด์หรู สั่งซื้อเลยที่
โฆษณา