18 ก.ค. 2022 เวลา 03:30 • ข่าว
#WRAP ความเข้าใจของคนสองวัยในการทำธุรกิจกับประสาน อิงคนันท์ บนเวที #CTC2022
นอกจากเนื้อหาที่ให้ความรู้แน่นๆ เกี่ยวกับการทำคอนเทนต์ การบริหารองค์กร เทรนด์โซเชียลและธุรกิจ Creative Talk Conference 2022 ยังพูดถึงเรื่อง “ช่องว่างระหว่างวัย”​ หรือ Generation Gap ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในสังคมไทยตอนนี้
The Power of 2 Gens คือเรื่องราวของคนสองวัยที่ต่างต้องปรับตัวเข้าหากันและสามารถทำธุรกิจร่วมกันได้ และยังได้ความเขาใจของคนในครอบครัวกลับมาด้วย โดยการเสวนาในหัวข้อนี้มีประสาน อิงคนันท์จากเพจ มนุษย์ต่างวัย นำการสนทนา
เราจึงชวนประสานมาสรุปเรื่องราวทั้งหมดแบบรวบรัดก่อนที่เราจะได้ชมการเสวนานี้ย้อนหลังพร้อมๆ กันในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้สำหรับผู้ที่ถือบัตรเอาไว้แล้ว
> The Power of 2 Gens
ความตั้งใจในการคุยใน Session ก็คือ ในยุคสมัยนี้เรามักจะพูดในเรื่องของความขัดแย้งของคนต่างเจนกันเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มันเกิดขึ้นในครอบครัว โดย The Power of 2 Gens จะชวนฟังเคสจากวิทยากรที่เขาสามารถที่จะเอาเรื่องของวัยที่ต่างกันเข้ามาผสมกัน และก็หาวิธีที่จะทำธุรกิจร่วมกันได้ เช่น คุณเม้ง (ประสิทธิ์ วิทยสัมฤทธิ์) เขาก็สามารถที่จะเข้าไปประสานธุรกิจรองเท้าของพ่อที่ทำมา 3 ช่วงอายุคน
แล้วเอามาสร้างแบรนด์ใหม่ได้ หรือแม้กระทั่งคุณตั้ม (นิพนธ์ พิลา) ที่กลับไปอยู่ที่บ้านแล้วเอาความรู้ทางด้านดีไซน์เนอร์เข้าไปเปลี่ยนสินค้าชุมชนให้มีความทันสมัยมากขึ้น หรือแม้กระทั่งแม่พิมพ์กับลูกชาย (เพลินพิศ เรียนเมฆ, พิชัยรัฐ เสตะจิต) ความเป็นแม่เป็นลูกกัน ชอบสิ่งเดียวกันก็สามารถที่จะเริ่มธุรกิจได้ในวัยเกษียณ
ตัว Session นี้เราเลยต้องการจะบอกว่า จริงๆ แล้วคนต่างวัยกันถ้าสามารถต้นทุนของแต่ละเจน แต่ละคนได้ เราก็สามารถเอาทั้งต้นทุนและความแตกต่างมาผสมกันได้ แล้วมันก็จะถูกพัฒนาขึ้น มันก็ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ด้วยเนอะถึงจะกลายมาเป็นธุรกิจแบบใหม่ได้
> Generation Gap
เราคิดว่ามันเป็นเรื่องของการย้ำ Key Message ที่คนต่างวัยพูดมาตลอดว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้แตกต่างกันที่วัยแต่เราแตกต่างกันที่ใจ ถ้าเราคิดว่าเราขัดแย้งกันที่ไวเราอยากจะชวนให้ย้อนกลับไปดูว่ามันเป็นปัญหาที่ Mindset มากกว่าที่อายุหรือเปล่า บางทีเรื่องอายุอาจจะไม่ใชเรื่องสำคัญ เรื่อง Mindset ต่างหากที่สำคัญ เราก็คิดว่าอันนี้แหละคือหัวใจใหญ่
แล้วก็คือหัวใจที่เราอยากจะพยายามสื่อสารออกไปเพื่อที่จะทำให้เราก้าวข้ามอคติของวัย ถ้าเราก้าวข้ามแบบนี้ เรามองในฐานะคนเหมือนกันเพียงแต่วัยต่างกัน สิ่งที่มันไม่เข้าใจกันคืออะไร เราคิดว่าการไปเรื่องอย่างงี้มันจะง่าย แต่ถ้าเรามองว่าเราไม่เหมือนกันเพราะวัยมันจะแก้ไม่ได้แล้วเพราะเราแก้เรื่องของวัยไม่ได้ แต่เราแก้เรื่องอื่นได้เนอะ
> หัวใจสำคัญของคนวัยเก๋ายุคนี้
จริงๆ เราเห็นคนมีอะไรเยอะนะ คนอายุมากเนี่ยถ้าเราไม่มีกรอบ เราคิดว่าคนกลุ่มนี้ยังมีพลังมากพอสมควรทีเดียวนะในการลุกขึ้นมาเรียนรู้สิ่งอะไรใหม่ๆ แน่นอนว่ากำลังวังชาอายุเขาอาจจะมากขึ้น แต่แพสชันในการเรียนรู้เขาก็มีมากในการที่จะเรียนรู้แล้วก็ทำอะไรบางอย่าง แล้วอีกอย่างหนึ่งที่มันปฏิเสธไม่ได้ก็คือ ประสบการณ์พวกนี้มันเป็นต้นทุนสำคัญในการที่เขาจะลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างที่มันสามารถเชื่อมต่อกับคนรุ่นใหม่ได้ เราคิดว่ามันเป็นส่วนผสมที่สำคัญ
เราเลยมองว่าจริงๆ หัวใจสำคัญมันคือการมองคนกลุ่มนี้ ถ้าเรามองคนกลุ่มนี้ด้วยสายตาแบบเดิมเราจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของคนมีอายุ แต่ถ้าสมมติว่าเรามองด้วยสายตาแบบใหม่ที่เราสามารถเข้าใจได้ จริงๆ ผมว่าเขายังมีพลัง มีคุณค่า มีความสามารถอะไรอีกเยอะมาก
> ประสบการณ์ของคนรุ่นเก่าที่มีคุณค่าของคนรุ่นใหม่
คนเราจะเก่งขึ้นมาได้ นอกจากเรื่องความรู้และทักษะ การที่จะทำให้คนคนนึงมันสมบูรณ์ได้ เราคิดว่าการมีประสบการณ์ก็เป็นเรื่องสำคัญ เราคิดว่าตรงนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนรุ่นใหม่จะต้องมีประสบการณ์น้อยกว่าเขาอยู่แล้ว เพราะว่าเราทำน้อยกว่าเขาที่เขาทำแล้วทำอีก ผิดแล้วผิดอีก สำเร็จแล้วสำเร็จอีก เพราะฉะนั้นประสบการณ์นี่แหละคือตัวสำคัญ
เรื่องทักษะมันยังฝึกกันได้ คนแก่อาจใช้เวลาเรียน 10 ปี คนรุ่นใหม่อาจใช้เวลาเรียน 2 ปีก็ทำได้เท่าๆ กัน แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือประสบการณ์ซึ่งเรามองว่าการจะประสบความสำเร็จ ประสบการณ์เป็นส่วนสำคัญ
#Modernist - ชัด ทัน บันดาลใจ
ติดตามเราได้ทาง https://www.modernist.life
Facebook / Twitter / Instagram / TikTok : @lifeatmodernist
.
ติดต่อโฆษณา: 061-662-9142
โฆษณา