17 ก.ค. 2022 เวลา 13:50 • หนังสือ
คุณคิดว่าความมั่งคั่งวัดจาก “สิ่งที่เรามองเห็น” หรือ “สิ่งที่เรามองไม่เห็น” จากภายนอก?
สรุปหนังสือ The Psychology of Money ตอนที่ 10
ในสัปดาห์ที่แล้ว แอดก็ได้เล่าถึงบทที่ 8 ของจิตวิทยาว่าด้วยเงินไปแล้ว นั่นคือเรื่องของ “ความย้อนแย้งของชายในรถยนต์” ค่ะ
ในสัปดาห์นี้ แอดก็จะมาเล่าต่อในบทที่ 9 ว่าด้วยเรื่องของ “ความย้อนแย้งของชายในรถยนต์” เนื้อหามีดังนี้
Topic:
1. เหตุใดผู้คนจึงตัดสินฐานะของคนอื่นผ่านสิ่งของภายนอกที่เห็น?
2. นักร้องสาวริฮานนาเกือบล้มละลายหลังจากใช้เงินเกินตัว
3. นิยามความแตกต่างของคำว่า “มั่งคั่ง” และ “ร่ำรวย”
4. แน่นอนว่าคนที่มั่งคั่งก็ยังใช้เงินจำนวนมากไปกับการซื้อวัตถุสิ่งของ
ใครสงสัยว่า ความมั่งคั่งคืออะไรกันแน่ ทำไมมันถึงมองไม่เห็นกันนะ ก็มาหาคำตอบได้ค่ะ!!!
เฮาเซิลบอกว่า...
เรามีแนวโน้มที่จะตัดสินความมั่งคั่งจากสิ่งที่เราเห็น เพราะว่ามันคือสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เราไม่เห็นตัวเลขในบัญชีหรือหลักฐานทางการเงินของเขา นั่นทำให้เราใช้รูปลักษณ์ภายนอกในการประเมินความสำเร็จทางการเงินของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นรถ บ้าน หรือ รูปถ่ายในอินสตาแกรม
ทุนนิยมสมัยใหม่นั้นช่วยให้ผู้คนหลอกลวงจนกลายเป็นอุตสาหกรรมความทรงจำที่แสนวิเศษ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว “ความมั่งคั่งคือสิ่งที่คุณมองไม่เห็น”
ความมั่งคั่งคือรถหรูที่ไม่ได้ซื้อ เพชรที่ไม่ได้จ่าย นาฬิกาที่ไม่ได้ใส่ เสื้อผ้าเก่าและการปฏิเสธการอัปเกรดที่นั่งบนเครื่องบินขึ้นไปเป็นชั้นเฟิร์สคลาส “ความมั่งคั่งคือสินทรัพย์ทางการเงินที่ยังไม่ได้ถูกแปรสภาพไปเป็นสิ่งของที่คุณเห็น”
2
แต่นั่นไม่ใช่วิธีคิดเกี่ยวกับความมั่งคั่งที่พวกเราทำ เนื่องจากคุณไม่สามารถตีความสิ่งที่คุณมองไม่เห็นได้
เฮาเซิลเล่าว่า...
นักร้องสาวริฮานนาเกือบล้มละลายหลังจากใช้เงินเกินตัว และเธอได้ฟ้องที่ปรึกษาทางการเงินของเธอ ที่ปรึกษาเธอตอบกลับว่า “มันจำเป็นด้วยหรือที่ผมต้องบอกเธอว่าหากเธอใช้เงินไปกับการซื้อสิ่งของ เธอจะจบลงด้วยการได้สิ่งของไม่ใช่เงิน?”
เฮาเซิลเล่าต่อว่า...เชิญคุณขำได้เลย แต่คำตอบคือ ใช่ ผู้คนต้องการให้คนอื่นบอกแบบนั้น
เวลาที่คนส่วนใหญ่บอกว่าพวกเขาต้องการเป็นเศรษฐี สิ่งที่พวกเขาอาจหมายความถึงจริงๆ ก็คือ “ฉันต้องการใช้จ่ายเงินจำนวนหนึ่งล้านเหรียญ” และนั่นคือสิ่งที่ตรงกันข้ามกับการเป็นเศรษฐีโดยสิ้นเชิง
เฮาเซิลบอกว่า...
เราควรระมัดระวังในการนิยามความแตกต่างของคำว่า มั่งคั่ง และ ร่ำรวย พวกมันมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น การไม่รู้ความต่างเป็นที่มาของการตัดสินใจทางการเงินที่ผิดพลาดนับครั้งไม่ถ้วน
ความร่ำรวย...คือสถานะรายได้ในปัจจุบัน
บางคนขับรถราคา 100,000 เหรียญ ก็แทบจะเรียกว่าเป็นคนรวยได้แล้ว เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นหนี้รถ แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็จำเป็นจะต้องมีรายได้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถจ่ายค่างวดรถรายเดือนได้เช่นกัน
เช่นเดียวกับพวกที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ เราหาคนรวยได้ไม่ยากเพราะพวกเขามักทำให้ตัวเองโดดเด่น
แต่ความมั่งคั่ง...นั้นถูกซุกซ่อนอยู่ มันคือรายรับที่ไม่ถูกจ่ายออกไป
ความมั่งคั่งคือทางเลือกที่ยังไม่ได้ถูกนำไปซื้ออะไร คุณค่าของมันอยู่ที่การทำให้คุณมีทางเลือก มีความยืดหยุ่น และงอกเงยเพียงพอที่จะทำให้คุณสามารถซื้อของได้มากกว่าในวันนี้
เฮาเซิลอธิบายว่า...
ในกรณีนี้สิ่งที่เราเห็นก็คือความร่ำรวยของพวกเขา ไม่ใช่ความมั่งคั่ง เราเห็นรถที่พวกเขาเลือกซื้อ หรือบางทีก็เป็นโรงเรียนที่พวกเขาเลือกที่จะส่งลูกไปเรียน
แต่เราไม่เห็นบัญชีเงินฝาก บัญชีเกษียณ หรือพอร์ตการลงทุน เราเห็นเพียงแค่บ้านที่พวกเขาซื้อ แต่ไม่ใช่บ้านที่พวกเขามีความสามารถที่จะซื้อได้จากเงินทั้งหมดที่พวกเขามี
ความอันตรายของเรื่องนี้อยู่ที่ ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็ต้องการความมั่งคั่ง เพราะพวกเขาต้องการอิสระและความยืดหยุ่นที่สินทรัพย์ทางการเงินซึ่งไม่ถูกใช้ไปสามารถให้ได้
แต่มันกลับฝังรากลึกลงไปในตัวเราแล้วว่าการมีเงินคือการใช้เงินได้อย่างอู้ฟู่ โดยหารู้ไม่ว่าความมั่งคั่งนั้นจำเป็นต้องมีการยับยั้งชั่งใจจึงจะได้มา และเนื่องจากเรามองไม่เห็นมัน มันจึงเป็นเรื่องยากที่เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับมัน
โลกเต็มไปด้วยผู้คนที่ดูสมถะแต่แท้จริงแล้วมั่งคั่ง และเต็มไปด้วยผู้คนที่ดูร่ำรวยแต่อยู่บนคมดาบแห่งความล้มละลาย
- มอร์แกน เฮาเซิล
1
จงจำสิ่งนี้ไว้ให้ขึ้นใจในเวลาที่คุณกำลังตัดสินความสำเร็จของผู้อื่นและตั้งเป้าหมายของตัวคุณเอง
อ่านจบแล้วเป็นยังไงบ้างคะ?
สำหรับแอดนึกถึงประโยคนี้เลยค่ะ “อย่าตัดสินคนแค่ภายนอก”
แต่จริงๆ แล้วเราไม่ต้องไม่ตัดสินใครก็ได้ค่ะ ความรู้ที่ได้จากการอ่านบทความนี้ให้เรานำมาปรับใช้กับตัวเองดีกว่า
Keyword ของเรื่องนี้คือ ความมั่งคั่งคือสิ่งที่เรามองไม่เห็น “คือเงินที่เราไม่ได้ใช้” ค่ะ ถ้ามันเยอะมากพอหรือมากกว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนของเรา แม้ว่าเราจะแต่งตัวธรรรมดา ขับรถธรรมดา อยู่บ้านหลังเล็กๆ พอดีๆ สำหรับแอดมันก็มีความสุขและความสบายใจแล้วค่ะ
หากใครกำลังสงสัยว่า ถ้าความมั่งคั่งคือสิ่งที่คุณไม่ได้ใช้จ่ายออกไป แล้วมันจะดียังไงนร้าาาา? ถ้าใครอยากรู้ก็รอติดตามกันต่อในสัปดาห์หน้าได้เลยค่ะ
โฆษณา