18 ก.ค. 2022 เวลา 07:06 • คริปโทเคอร์เรนซี
ผู้สร้างกระเป๋าเงินคริปโต MetaMask ยอมรับ ลงทุนในคริปโตเป็นการพนัน-แชร์ลูกโซ่
Aaron Davis และ Dan Finlay สองผู้ก่อตั้งโครงการ MetaMask ซอฟต์แวร์กระเป๋าเงินคริปโตยอดนิยม ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกกับเว็บข่าว Vice ยอมรับข้อเสียของคริปโตว่าเป็นการพนันและแชร์ลูกโซ่
MetaMask เป็นซอฟต์แวร์กระเป๋าเงินคริปโตที่นิยมมากที่สุดตัวหนึ่ง เป็นผลงานของบริษัท ConsenSys ที่พัฒนาซอฟต์แวร์สายคริปโตหลายตัว (อีกตัวคือ Infura ที่ใช้เขียน-อ่านข้อมูลลงบล็อกเชน) ตัวของ Dan Finlay เป็นพนักงานของ ConsenSys ส่วน Aaron Davis เป็นผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ
ผู้ก่อตั้งทั้งสองคนให้ข้อมูลว่าปริมาณการใช้งาน MetaMask ลดลงตามตลาดคริปโตที่ซบเซาลง (แม้เติบโตจาก 1 ล้านคนมาเป็น 30 ล้านคนภายใน 2 ปี)
Davis ยอมรับว่าการนำเงินไปซื้อคริปโตเป็นการพนัน (putting your money in cryptocurrencies is gambling) และเขาบอกว่าออกมาพูดเรื่องนี้ช้าไป เขาบอกว่าสิ่งที่พวกเรามีตอนนี้ยังไม่ใช่อนาคตของโลกการเงิน และคุณไม่ควรนำเงินเก็บทั้งชีวิตมาลงทุนในคริปโต เขามองว่าการที่คนจำนวนมากเชื้อเชิญให้คนมาลงทุนในคริปโตเป็นเรื่องที่อันตรายมาก และเขาไม่แปลกใจเลยที่โครงการคริปโตจำนวนมากล้มเหลว เพราะมันเป็นแชร์ลูกโซ่ (Ponzimonics)
ส่วน Finlay บอกว่าการล่มสลายของบริษัทคริปโตในปี 2022 เกิดจากบริษัทที่เรียกตัวเองว่า DeFi แต่จริงๆ แล้วทำตัวเป็นธนาคารเงา (shadow banks) ที่อาศัยวิธี leverage (การวางหลักประกันบางส่วนแล้วกู้หรือใช้เงินเกินมูลค่า) โดยไม่โปร่งใสเรื่องข้อมูล
Finlay ยอมรับว่าไม่สามารถป้องกันให้เกิดแชร์ลูกโซ่บนบล็อกเชนได้ สิ่งที่ MetaMask ทำได้คือทำให้ธุรกรรมคริปโตปลอดภัยมากขึ้น ผู้ใช้รับทราบข้อมูลและยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น (consensual) และพยายามไม่ให้คนที่มีชื่อเสียงแย่ๆ ได้รับการยอมรับหรือน่าเชื่อถือกว่าเดิม
ผู้ก่อตั้งทั้งสองคนมองว่า MetaMask ทำหน้าที่เสมือนเป็นเว็บเบราว์เซอร์ มีหน้าที่เชื่อมต่อผู้ใช้เข้ากับระบบ ผู้ใช้เองก็ต้องระวังตัวมากขึ้นด้วยตัวเองเช่นกัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็จะพยายามทำให้ MetaMask ปลอดภัยมากขึ้น แสดงข้อมูลธุรกรรมให้เด่นชัดและเข้าใจง่ายกว่าเดิม เพื่อแก้ปัญหา phishing ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
โฆษณา