19 ก.ค. 2022 เวลา 08:32 • หุ้น & เศรษฐกิจ
📼ถอดเทป: ลงทุนหุ้นแบบหมอพงศ์ศักดิ์ by พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี📼
Published: 12 Jul 22
สวัสดีตอนบ่ายครับ วันนี้กลับมาพบกับซีรีย์ #ถอดเทปลงทุนลงดอย กันอีกครั้งซึ่งซีรีย์นี้เป็นซีรีย์ที่แอดตั้งใจสรุปสาระสำคัญจาก Video หรือ Podcasts ต่างๆนะครับ ซึ่งการถอดเทปจะไม่ได้ถอดทุกคำพูด และลำดับจะไม่ได้ตรงตามต้นฉบับทั้งหมด โดยแอดจะรวบรวมไว้เป็นหัวข้อนะครับ
ครั้งเป็นคิวของพี่หมอ พงศักดิ์ ธรรมธัชอารี ที่จะมาเล่าหลักการลงทุนให้ฟังครับ
🚩 ประวัติ หมอพงศักดิ์
▪️ เกิดเชียงใหม่ สุดท้ายลงหลักปักฐานอยู่ที่นนทบุรี
▪️ เข้าเตรียมอุดมฯ เรียนหมอที่จุฬา
▪️ ตอนจบใหม่ เห็นแนวโน้มธุรกิจความงามที่อเมริกาได้รับความนิยม
▪️ บินไปเรียนเรื่องความงามที่ต่างประเทศ
▪️ กลับมาเปิดคลีนิค ความงามที่ระยอง
▪️ เห็นการแข่งขันสูง เลยหยุดการขยายสาขา และนำเงินมาลงทุนในตลาดหุ้น
▪️ สุดท้ายขายคลินิคให้กับนักลงทุน
▪️ ณ ตอนนั้น เมื่อ 10 กว่าปีที่ เห็นโอกาสผลตอบแทนในตลาด 15% ต่อปีและเหนื่อยน้อยกว่าการทำธุรกิจเอง
▪️ เริ่มต้นที่เงิน 200 ลบ. ในก่อนวิกฤติ Subprime เล็กน้อย
🚩 หลักการเลือกหุ้นลงทุน
▪️ ใช้หลักการ “MNOP”
▪️ M - Moats (ป้อมปราการ) => ถามตัวเองว่า หุ้นนี้มีความสามารถในการแข่งขันอะไร? โดยแต่ละธุรกิจจะมีความแข็งแกร่งของป้อมปราการไม่เท่ากัน ถ้าธุรกิจที่เราสนใจไม่มีป้อมปราการเลยก็จะไม่น่าลงทุน ก็จะตัดทิ้งเลย
▪️ N - Number of Quality => ถามตัวเองว่า คุณภาพของกิจการมีอะไรบ้าง? เช่น คุณภาพของโมเดลธุรกิจ คุณภาพของฝ่ายจัดการในการบริหารงาน คุณภาพของฝ่ายจัดการที่ตรงไปตรงมาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้ถือหุ้น โดยบริษัทที่จำนวนคุณภาพเยอะจะเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ
▪️ ในเรื่องของหัวข้อ "คุณภาพของโมเดลธุรกิจ" จะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด โดยต้องเป็นโมเดลธุรกิจที่มีโอกาสในการ Scale กว่าคู่แข่งได้ค่อนข้างเยอะ
▪️ อันดับต่อมาจะดูในเรื่องของ "คุณภาพของฝ่ายบริหารจัดการ" โดยดูเรื่องของความคิดและความสามารถในการตัดสินใจในการกำหนดกลยุทธ์ในการขยายกิจการด้วยความเฉลียวฉลาดไหม ถูกต้อง และเหมาะสมไหม?
▪️ อันดับสาม ดูเรื่องของ "คุณภาพของกลยุทธ์ในการจัดการ" โดยเน้นเรื่องการขยายกิจการ โดยจะชอบที่บริษัทนำเอา Core Value ของตัวเองในการขยายกิจการ ซึ่งสามารถขยายกิจการโดยเป็นผู้ชนะในตลาดได้ โดยถ้าบริษัทไปขยายกิจการที่ไม่ใช่เป็น Core Value ของกิจการ คือ การเริ่มต้นนับ 1 ซึ่งจะทำให้บริษัทไม่มีความได้เปรียบในการแข่งขัน
▪️ สรุปในเรื่องของกลยุทธ์ คือ เลือกธุรกิจที่จะขยายกิจการได้ถูกต้องไหม? ใช้เงินทุนของผู้ถือหุ้นคุ้มค่าไหมโดยดูจาก ROE ROA ของธุรกิจใหม่ (ROE ROA ของธุรกิจใหม่ ต้องสูงกว่าธุรกิจเดิม จะถือว่าดี)
▪️ O - Out Perform Growth => ถามตัวเองว่า หุ้นตัวนี้จะเติบโตสูงกว่าตลาดไหม? (การเติยกับผู้บริหารเป็นสิ่งจำเป็นในธุรกิจที่เราไม่เข้าใจ (แต่ถ้าไม่ได้คุย ไม่ใช่ว่าลงทุนไม่ได้)
▪️ ไม่ได้สนใจ Matket Cap ของกิจการเดิม แต่เน้นเรื่องของ “Room ของการเติบโตต้องมีอีกเยอะ”
▪️ P - Price => ถามตัวเองว่า ราคานี้น่าสนใจไหม? โดยต้องดูประกอบว่าธุรกิจนี้อยู่ในช่วงไหน
▪️ เช่น ถ้าธุรกิจอยู่ในช่วง “เริ่มต้น” จะวิเคราะห์จาก Market เป็นหลัก หรือใช้ Price/Sales มาดูคร่าวๆ หรือใช้ PEG มาดูประกอบ
🚩 การจัดพอร์ต
▪️ สมัยก่อนจะไม่ถือหุ้นตัวใดตัวนึงไม่เกิน 50% แต่ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา มีหุ้นตัวใดตัวนึงเกิน 50% ไปแล้ว
▪️ ในสถานการณ์ปกติ จะถือหุ้นอย่างน้อย 5 ตัวเป็นตัวหลัก
▪️ ระยะเวลาในการถือหุ้นจะขึ้นอยู่กับโอกาสในอนาคต โดยไม่ได้ตั้งเป้าระยะเวลาการถือที่ชัดเจน
▪️ ใช้ Margin ช่วงเปลี่ยนหุ้น เพื่อไม่ต้องการขายหุ้นเดิมเร็วๆเพื่อให้ราคาหุ้นเดิมตก และจะซื้อหุ้นเกือบเต็มพอร์ตตลอดเวลา
🚩 การลงทุน กับ วิกฤติ
▪️ มันเป็นสิ่งที่ยากมากที่จะรู้ว่าวิกฤติจะมาไหม?
▪️ เพราะฉะนั้นการเตรียมตัวในการรับมือกับวิกฤติ เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก
▪️ แต่ถ้าเริ่มรู้สึกว่า “ความไม่แน่นอนสูง” และ “ราคาหุ้นในพอร์ตขึ้นสูงมาก” จนโอกาสที่ราคาจะไปมากกว่านี้ในปีนี้เป็นไปได้ยาก ก็จะทำการขาย
▪️ ถ้าหุ้นที่เราถือลงมากก็จะไม่ขาย
🚩 การลงทุนต่างประเทศ
▪️ ใช้วิธีซื้อกองทุนต่างประเทศ และตอนหลังได้ขายไปเพราะหุ้นขึ้นมาเยอะ
▪️ โอกาสต่างประเทศเป็นสิ่งที่จะไป ถ้ามีความเข้าใจในหุ้นนั้น
▪️ กำลังเตรียมพร้อมกับหุ้นต่างประเทศ
🚩 ชีวิตการลงทุน
▪️ เวลาส่วนใหญ่ คือ การอ่านข้อมูลเป็นหลัก แต่ไม่ได้หมกมุ่นเรื่องการลงทุนมากแล้ว
▪️ อ่านหนังสือของ Best Seller ของต่างประเทศเป็นหลัก และศึกษาเรื่องที่ไม่เคยรู้
▪️ เมื่อถึงจุดนึงก็จะซื้อสิ่งของที่เราเคยอยากได้ในวัยเด็ก
💡Key Takeaways & Ideas
▪️ มันเป็นสิ่งที่ยากมากที่จะรู้ว่าวิกฤติจะมาเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นการเตรียมเงินสดในการลงทุนรอวิกฤติอาจจะไม่ได้หุ้นเลยก็ได้
▪️ การตั้งเป้าหมายเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าไปซีเรียสกับมัน เพราะมันจะทำให้ชีวิตของเราไม่มีความสุข สิ่งสำคัญ คือ ทำวันนี้ให้เต็มที่ สิ่งสำคัญ คือ ความพึงพอใจในชีวิตของวันนี้ โดยเราต้องถามว่า “วันนี้ผมมีความสุขไหม?”
▪️ เป้าหมายของคุณหมอเป็นวันต่อวัน โดยอยากจะมีชีวิตในสิ่งที่ตัวเองเลือก โดยได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ
ขอให้สนุกกับการลงทุนครับ 😄
ถ้าชอบ Content ของแอดก็ขอกด Like กด Share เป็นกำลังใจให้แอดหน่อยนะครับ 😽
#ลงทุนลงดอย #ถอดเทปเทบลงทุนลงดอย #หมอพงศักดิ์
โฆษณา