อสังหาฯ จีนวิกฤติ ลูกค้าหยุดจ่ายหนี้ 301 โครงการ ใน 91 เมือง
11 ล้านล้านบาท คือตัวเลขของยอดจำนองบ้านที่ได้รับผลกระทบ จากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ในครั้งนี้
เมื่อปีที่ผ่านมา เราคงได้ยินข่าวเกี่ยวกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีน
นั่นคือ Evergrande ที่ผิดนัดชำระหนี้ กับบริษัทคู่ค้า รวมถึงการนำเงินทุน ไปลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจอื่นๆ
แต่สำหรับในเวลานี้ ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน คงไม่ได้กระทบเพียงแค่บริษัทเดียว แต่กำลังส่งผลกระทบต่อ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจีนทั้งหมด
เพราะตอนนี้ ลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ชาวจีน ต่างพากันหยุดชำระหนี้อสังหาริมทรัพย์
กว่า 301 โครงการ ใน 91 เมือง เนื่องจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ไม่สามารถส่งมอบบ้านได้ทัน ทั้งที่ลูกค้าได้ทำการกู้เงินมาเพื่อจ่ายแล้ว
เนื่องจากรูปแบบการจองอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน จะเป็นการซื้อ ก่อนที่อะพาร์ตเมนต์จะสร้างเสร็จ แล้วชำระสินเชื่อทันที
สิ่งที่ทำให้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศจีน เดินทางมาถึงจุดนี้ได้
ก็เนื่องมาจากการที่เศรษฐกิจจีน เติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากประเทศเริ่มพัฒนา
ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน จากเศรษฐกิจที่พึ่งพาเกษตรกรรม ไปเป็นอุตสาหกรรม
ส่งผลให้ผู้คนมีรายได้มากขึ้น และเริ่มมองหาที่พักอาศัยที่ดีขึ้นอย่าง
“อะพาร์ตเมนต์” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
ประกอบกับตลาดแรงงานจีนที่เยอะมาก พอที่จะสร้างอะพาร์ตเมนต์สูง ๆ ได้หลายโครงการ จนบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เริ่มเห็นโอกาสในธุรกิจนี้
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน ก็ได้เติบโตอย่างต่อเนื่องมา 20 ปี
ซึ่งเติบโตมากกว่า GDP ในประเทศจีนเสียอีก
ตั้งแต่ปี 2000 ถึงปี 2021 GDP ของจีนได้เติบโตขึ้นถึง 14 เท่า
แต่ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ดันเติบโตขึ้นกว่า 44 เท่า
ปัจจุบัน ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนคิดเป็นมูลค่ากว่า 30% ของ GDP
ซึ่งมีสัดส่วนที่มากที่สุดในโลก
ซึ่งต้องบอกว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนได้เติบโตมากขึ้นทุกครั้ง
แม้ก่อนหน้านี้จะมีวิกฤติเศรษฐกิจ อย่างวิกฤติดอทคอม และวิกฤติซับไพรม์
แต่อย่างไรก็ตาม อสังหาริมทรัพย์จีนขยายตัวมากเกินไป จนเกินความต้องการ
ก็ทำให้เกิดปัญหาในด้านต้นทุนค่าก่อสร้าง ซึ่งไม่คุ้มทุนกับจำนวนยูนิตที่คนมาจอง
อีกทั้งการระบาดของโรคโควิด 19 ได้ทำให้เศรษฐกิจจีนถดถอย และทำให้หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ
โดยหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ได้เพิ่มจาก 55.5% ในปี 2020 เป็น 61.6% ในปี 2022 ทำให้หลายๆ คน ไม่มีความคิดที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่
นอกจากนี้ ยังมีการกู้เงินเพื่อนำไปลงทุนในธุรกิจอื่น เช่น ธุรกิจสวนสนุก ห้างสรรพสินค้า สโมสรฟุตบอล
รวมไปถึงธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งธุรกิจนั้นก็ยังไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดีมากเท่าที่ควร
เหตุผลดังกล่าว ทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายๆ แห่ง เริ่มมีการใช้จ่ายที่เกินตัว
และมีการก่อหนี้สินเป็นจำนวนมาก
โดยจะเห็นได้จากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ชั้นนำของจีน
อย่างเช่น
Evergrande มี D/E Ratio 491 เท่า
Country Garden มี D/E Ratio 160 เท่า
Vanke มี D/E Ratio 127 เท่า
ส่งผลให้ปัจจุบัน บริษัทอสังหาริมทรัพย์จีน กำลังประสบปัญหาสภาพคล่อง
มีเงินไม่พอจ่ายค่าก่อสร้างให้กับซัปพลายเออร์ เนื่องจากต้องแบ่งเงินไปชำระหนี้ เป็นจำนวนมาก และทำให้ไม่มีเงินมาทำการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์
ให้เสร็จทันเวลาที่กำหนด
และนำไปสู่ ความเดือดร้อนจากการผ่อนสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ของผู้ซื้อหลายราย เพราะผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ บางรายได้ทำการชำระสินเชื่อไปหลายปีแล้ว แต่อะพาร์ตเมนต์ ก็ยังสร้างไม่เสร็จ จนผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ หลายรายรวมตัวกันเพื่อหยุดผ่อนบ้านกับธนาคาร ซึ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาการขาดสภาพคล่อง ของบริษัทอสังหาฯ ชั้นนำเหล่านี้มากยิ่งขึ้น
ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปว่า ปัญหาของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่กำลังขาดสภาพคล่อง และมีหนี้สูงมากในขณะนี้ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนและทั่วโลก ได้มากแค่ไหน และรัฐบาลจีน จะมีวิธีการจัดการกับวิกฤติครั้งนี้อย่างไร เพราะภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนในตอนนี้ อาจจะใหญ่เกินไปที่จะล้มแล้ว
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
