แม้ทุกวันนี้ (ปี 2022) หลายคนอาจรู้สึกเบื่อและเอียนชื่อ อีลอน มัสก์ แล้ว ทั้งจากดราม่าเรื่องดีล Twitte ไปจนถึงดราม่าการป่วนตลาดคริปโต แต่ถ้าพูดในมุมของธุรกิจที่อีลอน มัสก์ ได้มีบทบาทบริหารและร่วมพัฒนาอย่างบริษัท Tesla หรือ Space X แล้วล่ะก็ ต้องยอมรับว่า เขามีวิสัยทัศน์ มองเกมขาด และที่สำคัญ มีลูกบ้า จนสามารถนำพาบริษัท Tesla และ Space X จนผงาดได้
ว่ากันเฉพาะ Tesla เมื่อสิบกว่าปีก่อน บริษัทยังไม่โด่งดังหรือเป็นที่รู้จักในระดับโลกด้วยซ้ำ แถมอุตสาหกรรมที่ Tesla กระโดดเข้าไปเล่นนั้น ยังเป็นอุตสาหกรรมที่ยานยนต์ค่ายดังหลายค่ายต่างไม่เชื่อว่าจะทำกำไรได้ด้วยซ้ำ
แต่ อีลอน มัสก์ เชื่อว่ารถไฟฟ้า EV นั้นสามารถสร้างให้สวย วิ่งเร็ว วิ่งไกล แมสได้ และขายดีได้
ในปี 2008 Tesla ได้เปิดตัวรถไฟฟ้าที่ชื่อรุ่น Roadster ซึ่งเป็นรถสปอร์ตหรู full EV ที่แล่นได้เร็วและแรง รวมถึงราคาก็แรงตามประสาเซ็กเมนต์รถสปอร์ต แม้ในปีนั้นเศรษฐกิจอเมริกาเพิ่งพังพินาศจากผลกระทบของ Hamburger Crisis แต่รถสปอร์ตไฟฟ้ารุ่นแรกของ Tesla ก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าที่ชอบรถสปอร์ต จนเรียกได้ว่า Tesla ได้เงินจำนวนไม่น้อยจาก Roadster และนำมาผลิตรถรุ่นต่อมาที่เข้าถึงตลาดวงกว้างได้มากขึ้นอีกหน่อย รถรุ่นนั้นมีชื่อว่า Model S โดยเปิดตัวในปี 2012
Tesla Model S เป็นรถซีดานคุณภาพพรีเมียมเทียบได้กับ Benz S Class เพียงแต่ความต่างก็คือ Model S คือ full EV (BEV) ความที่ Model S เป็นรถที่ราคาจับต้องได้มากกว่าสปอร์ตคาร์อีวีอย่าง Roadster ทำให้ผู้คนมากมายสนใจและสั่งจอง Model S ขณะเดียวกันด้วยรูปลักษณ์อันสวยงามโฉบเฉี่ยว ทำให้ Model S ได้รับเลือกจากนิตยสารยานยนต์ระดับโลกอย่าง นิตยสาร AUTOMOBILE ให้ครองตำแหน่ง "รถยนต์แห่งปี" ในปี 2013 ด้วย
แน่นอน Model S สร้างทั้งรายได้และชื่อเสียงมากมายให้ Tesla จนทำให้แผนการณ์สร้างรถยนต์ไฟฟ้า EV ในระดับแมส สามารถเกิดขึ้นได้จริงแล้ว ในปี 2016 อีลอน มัสก์ ได้ขึ้นเวทีเปิดตัวรถ Tesla Model 3 ที่เป็นรุ่นแมส ราคาย่อมเยา (ราคาเหลือประมาณครึ่งนึงของ Model S) ซึ่งในสัปดาห์แรกที่เปิดจองนั้น Tesla แจ้งว่ามียอดจอง Model 3 เข้ามาในสัปดาห์แรกถึง 325,000 คันเลยทีเดียว
และหลังจากยอดจองและยอดขาย Model 3 ที่เกิดขึ้นอย่างถล่มทลายนั้น ก็เรียกได้ว่า หลังจากนั้นทุกอย่างก็คือประวัติศาสตร์ที่พวกเรารู้กัน Tesla กลายเป็นบริษัทยานยนต์ที่ติดปีกพุ่งทยาน เป็นตัวท็อปของโลกยานยนต์และโลกนวัตกรรมในที่สุด
ความสำเร็จของ Tesla ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือฟลุ๊กเสียทีเดียว (แม้จะมีบางส่วนที่ต้องยอมรับว่า โชคชะตาเข้าข้าง อีลอน มัสก์ อยู่หลายครั้ง) แต่มันเกิดจากการวางเกมมาอย่างดีของ Tesla ดั่งที่ อีลอน มัสก์ ได้เคยเปิดเผยไว้บนเวทีเปิดตัว Model 3 ในปี 2016 ที่เขาเรียกแผนการณ์นี้ว่า Secret Master Plan ของ Tesla
Secret Master Plan ของ Tesla นั้น สรุปง่ายๆ ก็คือ การวางแผนสร้างรถ EV 3 กลุ่มตลาด โดยเริ่มจากกลุ่มตลาดเฉพาะอย่างคนชอบรถสปอร์ตก่อน
1) ในยุค 2000s ความที่ EV ถือเป็นตลาดใหม่มากๆ Tesla จึงเปิดตัวด้วยรถสปอร์ตหรูราคาแรง แต่มีตลาดเฉพาะกลุ่มที่พร้อมทุ่มซื้อแบบไม่หวั่นราคา รถรุ่นนั้นก็คือ Tesla Roadster ที่เป็นเหมือนไอเท็มลับชิ้นแรกที่ช่วยปูฐานรากให้ Tesla ได้อย่างมั่นคง
2)ต่อจากรถสปอร์ตหรูที่มีตลาดเฉพาะกลุ่มมากๆ Tesla เริ่มผลิตรถที่เข้าถึงคนวงกว้างได้มากขึ้น แต่ยังมีราคาสูงประมาณหนึ่ง มีภาพลักษณ์พรีเมียม ดีไซน์น่าหลงใหล วิ่งได้แรงและไกล ซึ่งทำให้คนที่พอมีกำลังทรัพย์ประมาณหนึ่งยินยอมควักเงินจ่ายเพื่อจะได้ขับรถดีไซน์สวยเร็วแรง แต่มาพร้อมกับความเป็น full EV อันแสนยูนีค