23 ก.ค. 2022 เวลา 07:30
23/07/65 (Blog 34)
สวัสดีค่าาา SPJuN นะคะ ^^
เช่นเคยค่ะ วันนี้เราจะมาเขียนเล่าประสบการณ์ส่วนตัวด้วยเทคนิค 60/30/10 ค่ะ
เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์ตอนมัธยมต้นค่ะ (ม.1) เราชอบการรำ การแสดง มากๆ มาตั้งแต่เด็กๆ เลยสมัครชมรมนาฏศิลป์ ซึ่งตอนที่เราเข้าไปเรียนแล้ว ไม่ใช่แบบที่เราคิดไว้เลยค่ะ ที่เราจินตนาการไว้คือ ไม่เหนื่อย ได้แสดงงานโดยที่ไม่มีการซ้อมใดๆ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมากกก แค่เริ่มพื้นฐานการดัดตัวก่อนจะซ้อมรำ เราก็เหนื่อยแล้วค่ะ ดัดตัวด้วยท่าฤาษีดัดตน ประมาณ 4-5 ท่า
ต่อด้วยการตั้งวง ตั้งจีบ ต่างๆ ค้างท่าไว้ข้างละ 100 วิ ( นับ 1-100 แอบมีลักไก่บ้าง โดยการนับเลขเร็วๆก็มีค่ะ แต่ถ้าโดนจับได้ก็ต้องนับใหม่ตั้งแต่แรก ) เมื่อดัดตัวเสร็จแล้ว พื้นฐานของเด็กนาฏศิลป์จะต้องต่อเพลงช้า-เพลงเร็วค่ะ เริ่มแรกก็ต้องฝึกร้องทำนอง จังหวะ กันก่อน เพลงเร็วเราไม่เท่าไหร่ค่ะ แต่เพลงช้า เราเกือบขิตตต พอต่อท่าเสร็จ ทุกๆสัปดาห์จะมีการสอบประเมิน ซึ่งเรากังวลที่สุด ข้อดีของเราคือจำท่าได้เร็วค่ะ แต่จะตื่นเต้นมากๆเวลาครูมอง และปล่อยท่าทันที นี่คือข้อเสีย
เราไม่ผ่านการประเมิน 2 ครั้ง ได้ค่ะ แต่พอผ่านมาได้แล้วก็ต้องมาต่อเพลงใหม่ อันนี้ก็จะเป็นเพลงที่ใช้ในการแสดงต่างๆ เราต่อได้เพลงเดียวก็จบชั้นปี ซึ่งก็วนแบบนี้ไปจนจบม.3 เรารู้สึกตัวเองด้อยกว่าเพื่อนๆพี่ๆในชมรมมากๆค่ะ เพราะว่ารำไม่สวยเลย และคิดไม่อยากจะซ้อม เพราะมันเหนื่อยมากๆ ได้ออกแสดงก็น้อยค่ะ จนขึ้น ม.4 ก็ยังอยู่ชมรมนาฏศิลป์นะคะ เราได้มีโอกาสเข้าพิธีครอบครูและต่อเพลงหน้าพาทย์ค่ะ ซึ่งเราคิดว่านี่คือจุดเปลี่ยนของเรา เรารู้สึกว่า เรามาไกลจนเกินกว่าจะออกจากชมรมแล้ว เราตั้งใจซ้อมมากขึ้น
ท่ารำของเราก็พัฒนาไปตามระดับ มีงานแสดงทั้งภายในโรงเรียน นอกโรงเรียน มากขึ้น มีค่าจ้างงานรำจากงานข้างนอกบ้าง เราก็มีแรงที่จะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ จนถึงม.6 เราเป็นพี่ใหญ่ เราก็สามารถสอนรุ่นน้องรำได้ แต่กว่าน้องๆจะเข้าใจก็นานอยู่ค่ะ เพราะเราเองก็ยังไม่เก่งพอที่จะถ่ายทอดได้อย่างชำนาญ แต่พอเห็นน้องๆรำได้เพราะเราเป็นคนสอน ก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองและตัวน้องๆมากค่ะ ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำว่าครั้งหนึ่งเราเคยได้สอนคนอื่นถึงแม้ว่าจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่เราก็ตั้งใจสอนให้น้องๆค่ะ💪🏻
Pinterest : https://pin.it/2lWF4TE
โฆษณา