24 ก.ค. 2022 เวลา 02:45 • กีฬา
“ซักฟอกหลังเกม ผี เจ๊า วิลล่า สุดหนืด 2-2"
(AFTER MATCH MUN 2-2 AVL)
“ซักฟอกหลังเกม ผี เจ๊า วิลล่า สุดหนืด 2-2"
3 เกม “สุดฝันหวาน” ที่ผ่านมาของแมนฯยูไนเต็ด คงจะต้องถูก “ปลุกให้ตื่น” จากผลการแข่งขันและสมาธิที่ “หดหายไป” ในครึ่งหลังของเกมเสมอที่ แอสตัน วิลล่า สุดหนืดไป 2 ประตูต่อ 2
รายชื่อ 11 ตัวจริงที่พร้อมจะโดน “ซักฟอก” ในเกมนี้ได้แก่นายด่านมือ 1 อย่าง ดาบิด เด เคอา ฟูลแบ็คทั้ง 2 ข้างมี ดิโอโก ดาโลต์ และ ลุค ชอว์ ที่กลับมาเป็นตัวจริง
คู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟเป็นตัวคอนเท้นอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จับคู่กับกองหลังสายถอยอย่าง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ แดนกลางมีปรับเปลี่ยนเล็กน้อยหลังจากสก๊อต แมคโทมิเนย์ ที่มีอาการบาดเจ็บช่วงฝึกซ้อม
เอริก เทน ฮาก จึงเลือกใช้ ของรู้ใจอย่าง ดอนนี่ ฟาน เดอเบ็ก ยืนคู่กับ เฟร็ด และมีบรูโน่ เฟอร์นันเดส เป็นตัวเพลย์เมกเกอร์ ส่วน 3 พระกาฬ ในแดนหน้ายังคงใช้เป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด จาดอน ซานโช่ และอองโตนี "นิวอองรี" มาร์กซิยาล
เหล่า เร้ด อาร์มี่ คงจะหวังถึงชัยชนะในเกมนี้เพราะเห็นจากฟอร์มการเล่น 3 นัดล่าสุดที่สวยหรูก่อนหน้านี้อย่าง ไม่มาก ก็น้อย และเหมือนความหวังจะกลายเป็นจริงเพราะในครึ่งแรก พลพรรคปีศาจแดง ออกนำวิลล่า ห่างถึง 2 ลูก
2 ประตูที่ส่งเข้าสู่ก้นตาข่ายของสิงห์ผงาดนั้น ได้มาจาก จาดอน ซานโช่ ที่ “ยิงอีกแล้ว” และ ดร. มาร์คัส แรชฟอร์ด ผู้มีพระคุณต่อเด็กยากไร้
แต่ใครจะคิด ว่าในครึ่งหลังจะเป็น “หนังคนละม้วน” หลังจากที่โดนวิลล่าสอยไป 2 ตุง จาก เลออน ไบลีย์ ปีกตัวจี๊ด และคาลัม แชมเบอร์ส ในช่วงนาทีบาป ทำให้เจ๊ากันไปท่ามกลางสายฝน 2-2
เกมอุ่นเครื่องนัดที่ 4 ท่ามกลางห่าฝน และสภาพสนามที่เปียกแฉะ
และนี่คือการ “ซักฟอก 4 ข้อหา” ของปีศาจแดง หลังจบเกม
ซักฟอก ข้อหาที่ 1 |เจอบอลเคี่ยว เคี้ยวไม่ลง|
ลืม 3 นัดที่ผ่านมาไปได้เลย นี่คือเกมอุ่นเครื่องที่มีความจริงจังค่อนข้างสูง เพราะสตีเว่น เจอร์ราร์ด นายใหญ่ วิลล่า ถือว่า “ค่อนข้างเน้น” กับเกมนี้พอสมควร หลังจากที่ทีมอุ่นเครื่องชนะมา 3 นัดติด เช่นเดียวกัน
การจัดทัพ ก็ดูจะเป็นการส่ง "ชุดใหญ่" ลงมาเต็มทีม ไม่ว่าจะเป็น แนวรุกอดีตเด็กหงส์อย่าง คูตินโญ่ และ แดนนี่ อิงส์ รวมไปถึงตัวใหม่อย่าง บูบาคาร์ กามาร่า และ คู่ปราการหลังจอมเล่นหนักอย่าง ดิเอโก คาร์ลอส ที่จับคู่กับ ไทรอน มิงส์ กัปตันทีม
ด้วยความที่มีผู้เล่นสายพละกำลังอยู่เต็มแดนกลางและตัวเล่นหนักในแดนหลัง ทำให้แมนฯยูไนเต็ด “เล่นยาก” และโดนเพรสซิ่งในแดนกลางอย่างรวดเร็ว แถมยังมีลูกหนัก แจมเข้ามาเป็นระยะด้วย
แม้ว่ายูไนเต็ดจะเป็นฝ่ายที่ออกนำไปก่อนในครึ่งแรกถึง 2 ประตู แต่บอลเคี่ยวของ เจอร์ราร์ด ที่สั่งให้ลูกทีม “เพรสซิ่งหนัก” ทั้งเกม ทำให้ยูไนเต็ดแก้เพรสไม่จน และทำให้รูปเกมดู “ไม่ปะติดปะต่อ” พอสมควร
บอลเคี่ยวอย่างเจอร์ราร์ดนี่แหละ ที่จะเป็นปัญหา ในฤดูกาลใหม่ที่จะเกิดขึ้นถ้าหาก แมนฯยู ยังหาวิธีรับมือไม่ได้ ก็อาจจะทำให้เสียแต้มกับเกมการแข่งขันอย่างเป็นทางการไปเหมือนในนัดนี้ ไม่มาก ก็น้อย
สตีเว่น เจอร์ราร์ด พกความเคี่ยวติดมาในเกมนัดนี้ด้วย
ซักฟอก ข้อหาที่ 2 |หลุมบ่อใหญ่ ระหว่าง ขุมกำลัง|
ในครึ่งเวลาแรก แม้ว่าจะโดนบีบ เพรสซิ่งไว แต่ด้วยความสามารถของทีมผู้เล่นชุดใหญ่ ก็ส่งผลให้ทีมยัง "ประคับประคอง" รูปเกมไว้ในมือได้ แม้จะมีข้อผิดพลาดและจังหวะที่ติดขัดบ้างก็ตาม
แต่ทว่าในครึ่งหลัง โดยเฉพาะหลังจากที่ส่งผู้เล่นตัวสำรองลงมาประมาณในนาทีที่ 65 ก็เห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า “ความเข้มข้นของทีมลดลง” อย่างเห็นได้ชัด ครอบครองบอลไม่ต่อเนื่อง ไม่มีจังหวะสร้างเกมแบบที่ดูดีในนัดก่อนๆ
จริงอยู่ผู้เล่นชุดหลังที่ลงมาเป็นตัวสำรอง แต่ถ้ามองไปที่ฝั่ง วิลล่า เจอร์ราร์ด ก็ส่งผู้เล่นตัวสำรองลงมาสัมผัสเกมอยู่มากพอสมควร
ดังนั้น ในเมื่อคุณเรียกตัวเองว่าเป็นทีมอย่าง แมนฯยูไนเต็ด ก็ควรที่จะมีช่องว่างระหว่างขุมกำลังที่มีความสามารถและประสิทธิภาพในการเล่นระหว่างชุดที่ 1 และ 2 น้อยลงกว่านี้ ถึงจะเรียกว่ามี “ขุมกำลังเชิงลึกที่มีประสิทธิภาพ” สำหรับเกมการแข่งขันจริงที่จะเกิดขึ้น
ซักฟอก ข้อหาที่ 3 |ลูกรั่ว ลูกหลุด ในแดนกลาง แดนหลัง ยังมีให้เห็น|
ความผิดพลาดในการเปลี่ยนจังหวะเกม จากรับ เป็นรุก ยังคงได้เห็นอยู่อย่างต่อเนื่อง อย่างจังหวะที่ พี่เฟร็ด ยอดกองกลางตัวเชื่อมเกมของเรา ออกบอลช้า ทำให้ เลออน ไบลีย์ สไลด์ดักบอลจากทางด้านหลัง โชคยังดีที่ โอลี่ วัตกินส์ แนวรุกของวิลล่า จบสกอร์ไม่เฉียบขาด
อีกจังหวะ เป็นจังหวะจ่ายบอล จากรับเป็นรุก พลาดไปเข้าทางวิลล่า ในขณะที่ ลุค ชอว์ กำลังจะดันขึ้นสูง เมื่อวิลล่าแทงบอลเร็วไปให้ ไบลีย์ หลุดไปทางขวา เเตะบอลหนี เด เคอา และได้ยิงมุมแคบ แต่คุณพระ! โชคยังดีที่กัปตันผู้สร้างคอนเท้นของทีมเราอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ "โชว์โหด" สไลด์บล๊อคบอล ช่วยชีวิตเอาไว้ได้
เมื่อพูดถึงจังหวะหลุด แน่นอน เกมในวันนี้หลังจากที่เจ้า เลออน ไบลีย์ ลงมาเป็นปีกขวาในครึ่งหลัง ฝั่งซ้ายของทีมเราอย่าง “อิชอว์” ก็รั่วซะยิ่งกว่าประตูเขื่อนแตก เปิดพื้นที่ให้ ไบลีย์ ได้ลากเลื้อย
แถมผู้ที่ทำหน้าที่หยุดเจ้า เลออน ไบลีย์ แทน ดันเป็น “กองกลังสายถอย” อย่าง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่ถ้าถอยจนเข้าประตูได้ ก็คงจะถอยไปแล้ว สุดท้าย ก็นำมาซึ่งการเสียประตูตีไข่แตก จากการปั่นเสียบเสาของเจ้า ปีกขวาตัวจิ๊ด รายนี้
และสิ่งที่ต้อง “ปรับปรุงอย่างหนัก” ในเกมนี้ นั่นคือการป้องกันลูกกลางอากาศจากลูกเตะมุม เมื่อมีจังหวะออกมาแล้วไม่ถึงบอลของ เด เคอา เป็นสัญญาณเตือนแล้ว 1 ครั้ง ก่อนที่จะเสียประตูจริงๆจากลูกโขกจากลูกเตะมุมสุดน่าเจ็บใจในนาทีบาป จาก คัลลัม แชมเบอร์ส
นับเป็นการเสียประตูจากลูกเตะมุมเป็นลูกที่ 2 แล้วตั้งแต่พรีซีซั่นมา จนถึงตอนนี้ จุดอ่อนลูกกลางอากาศและการเปลี่ยนจังหวะเกมของยูไนเต็ดได้ “ประจักษ์ชัด” สู่สายตาแฟนผีแล้ว ถ้าไม่รีบเร่งแก้ บอกเลยว่าจุดอ่อนเล็กน้อยเหล่านี้ จะกลายเป็น “แผลใหญ่” ในอนาคต อย่างแน่นอน
ปีศาจแดง กับการเสียประตูจากลูกเตะมุมในนาทีบาป
ซักฟอก ข้อหาที่ 4 |สมาธิหลุด ฉุดฟอร์มเก่ง|
ในยุคของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา และ ราล์ฟ รังนิก เรามักจะเห็นเป็นอาจิน ในการเล่นแบบที่ว่า “ครึ่งแรก ครึ่งหลัง หนังคนละม้วน” ในเกมนี้ก็แอบ “ได้กลิ่นตุๆ”แบบเดิมที่คุ้นเคยกลับมาหลอกหลอนอยู่ไม่น้อย
เห็นได้ชัดหลังเมื่อเริ่มครึ่งหลัง ความมุ่งมั่นและการมีสมาธิกับเกม ลดลงอย่างมาก ยืนยันได้จากบทสัมภาษณ์หลังเกมของ เอริก เทน ฮาก หลังจบเกมที่กล่าวว่า
การเสียสมาธิเป็นสิ่งที่ “ยอมรับไม่ได้” และในเกมลีกฤดูกาลหน้า จะต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจจะเหนื่อย แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้าง เราต้องแสดงให้เห็นในสนาม แต่ในครึ่งหลัง เราก็ไม่ได้ทำมัน
มันเป็นเรื่องของการมีสมาธิอยู่กับเกม ผมจะไม่หาข้ออ้างเรื่องสนามหรือสภาพอากาศ เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราต้องแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ
1
ฟุตบอลเต็มไปด้วยความผิดพลาด เราต้องลดความผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด นั่นแหละคือสิ่งที่ชัดเจน แต่ผมก็เห็นความคืบหน้าอย่างมากใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ในครึ่งแรกเราทำได้ดี เราครองบอลและคุมเกมได้ แต่เราต้องเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นในครึ่งหลัง มันเป็นไปไม่ได้ที่คุณได้เปรียบอยู่ในครึ่งแรกถึง 2 ประตู แต่ในครึ่งหลัง คุณกลับ “โยนมันทิ้งไป”
1
ก็ได้แต่หวังว่าพลพรรค ปีศาจแดง จะเรียนรู้และปรับปรุงบทเรียนนี้อย่างโดยเร็ว มิฉะนั้น ขืนปล่อยให้ความสมาธิหลุดเหล่านี้ ไปโผล่ในเกมพรีเมียร์ลีกได้ คงจะต้องเสียแต้ม มากพอสมควร
และถ้าปล่อยให้ “แต้มหลุดหาย กระจายบ่อย” เกิดขึ้นซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าในลีก บอกได้เลยว่า ฤดูกาลหน้าลุ้น TOP4 เหนื่อยไม่แพ้กับฤดูกาลที่ผ่านมาอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น จึงอยากจะขอส่งสารผ่านยมทูต ส่งไปถึงพวกเหล่า เร้ด เดวิลล์ ทั้งหลายที่สวมเสื้อแมนฯยูไนเต็ด ว่า
จะเล่นดี เล่นแย่ ไม่ว่า แต่ต้องเก็บ 3 แต้ม ให้ได้ด้วย
เรียบเรียง : Mr.เอเวอร์ดีน
ข้อมูล : Laurie Whitwell and Kate Burlaga จาก THE ATHLETIC UK
#MANUTD #MUN #AVL
โฆษณา