7 ส.ค. 2022 เวลา 14:59 • หนังสือ
ตอนนี้ “พอร์ตการลงทุน” ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง? ในทุกวิกฤติจะมีคนที่รอดได้ไปต่อ และคนที่ไม่รอดไม่ได้ไปต่อเสมอ คำถามคือคุณเป็นคนไหน?
สรุปหนังสือ The Psychology of Money ตอนที่ 12
ในสัปดาห์ที่แล้ว แอดก็ได้เล่าถึงบทที่ 9 ของจิตวิทยาว่าด้วยเงินไปแล้ว นั่นคือเรื่องของ “ความย้อนแย้งของชายในรถยนต์” ค่ะ
ในสัปดาห์นี้ แอดก็จะมาเล่าต่อในบทที่ 10 ว่าด้วยเรื่องของ “เก็บออม” เนื้อหามีดังนี้
Topic:
1) ทำไมต้องสมเหตุสมผล?
2) 7 เหตุผล ทำไมคุณจึงยัง “เก็บเงิน” ไม่ได้ แล้วทำไมคุณถึงควรทำมัน?
ถ้าอยากรู้แล้วว่าทำไม มาตามอ่านกันได้เลยค่ะ!!!
คุณไม่ใช่ตารางเอกสาร คุณเป็นมนุษย์ที่ทำผิดพลาด คุณมีทั้งอารมณ์และความรู้สึก
เฮาเซิลบอกว่า...เขาใช้เวลาสักพักกว่าจะคิดเรื่องนี้ออก แต่เมื่อมันถูกจุดประกายขึ้นมา เขารู้ว่านี่เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่สุดในเรื่องของการเงิน
ในการตัดสินใจเรื่องการเงินนั้นเราไม่จำเป็นต้องพยายามตั้งเป้าหมายให้มีเหตุผลอย่างเย็นชา
แต่เราควรตั้งเป้าให้ค่อนข้างสมเหตุสมผล เพราะความสมเหตุสมผลจะทำให้เป้าหมายของคุณมีความสมจริงมากขึ้นและสามารถทำจริงได้ในระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดการทางการเงิน
จริงๆ แล้วมันก็เป็นคำแนะนำที่เรียบง่ายนะคะ แต่ทำจริงโคตรจะยากเลย แต่ถ้าใครทำได้รับรองเลยว่าสิ่งที่คุณจะได้แน่ๆ คือ ความสุขตลอดเส้นทางการลงทุนของคุณนั่นเองค่ะ นั่นก็คือ...
แฮร์รี มาร์โควิตซ์ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์จากการศึกษาการแลกเปลี่ยนทางคณิตศาสตร์ระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน ครั้งหนึ่งมีคนเคยถามเขาว่า เขาลงทุนกับเงินของตัวเองอย่างไร
มาร์โควิตซ์บอกว่ามี 2 สิ่งที่มีความสำคัญ
1.1 ลดความเสียใจในอนาคตให้มากที่สุด
1.2 มันโอเค
มันเป็นสิ่งที่ยากต่อการทำความเข้าใจบนกระดาษแต่ง่ายต่อการอธิบายในชีวิตจริง นักลงทุนที่ลงทุนด้วยเหตุผลจะตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลตัวเลข
แต่นักลงทุนที่ลงทุนด้วยความสมเหตุสมผลระดมความคิดกับเพื่อนร่วมงานคนสำคัญ กับคู่ครองที่คุณไม่ต้องการทำให้เขาผิดหวัง การลงทุนนั้นมีส่วนประกอบทางด้านสังคมที่มักถูกละเลยไปเมื่อมองผ่านเลนส์ทางการเงินอันเคร่งครัด
เขาบอกว่า การขาดอารมณ์ในเรื่องกลยุทธ์หรือหุ้นที่คุณเป็นเจ้าของนั้นเพิ่มโอกาสในการทิ้งการลงทุนของคุณเมื่อพวกมันกลายเป็นเรื่องที่ยาก สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นการคิดที่มีเหตุผลจะกลายเป็นข้อบกพร่อง
นักลงทุนที่มีความสมเหตุสมผลผู้รักในกลยุทธ์เชิงเทคนิคที่ไม่สมบูรณ์แบบนั้นมีข้อได้เปรียบมากกว่า เนื่องจากพวกเขามีโอกาสที่จะทำตามกลยุทธ์ที่ไม่สมบูรณ์แบบเหล่านั้นมากกว่า
ในอดีต อัตราความเป็นไปได้ของการทำเงินในตลาดสหรัฐคือ
50/50 ในช่วงเวลา 1 วัน
68% ในช่วงเวลา 1 ปี
88% ในช่วงเวลา 10 ปี และ
(จนถึงตอนนี้) 100% ในช่วงเวลา 20 ปี
อะไรก็ตามที่ทำให้คุณยังเป็นผู้เล่นอยู่ในเกมนี้ต่อไปนั้นมีข้อได้เปรียบในเชิงระยะเวลา
หากคุณมอง “การทำสิ่งที่คุณรัก” ว่าเป็นแนวทางที่จะทำให้ชีวิตของคุณมีความสุขมากกว่า นี่ฟังดูเหมือนกับคำแนะนำคุกกี้เสี่ยงทายที่ว่างเปล่า หากคุณมองว่ามันคือสิ่งที่มอบความอดทนที่จำเป็นต่อการเพิ่มความสำเร็จในเชิงระยะเวลาให้กับคุณ
คุณจะตระหนักได้ว่าสิ่งนี้คือส่วนที่สำคัญที่สุดของทุกกลยุทธ์ทางการเงิน
เมื่อคุณลงทุนในบริษัทที่ “คุณไม่สนใจ” คุณอาจจะมีความรู้สึกพึงพอใจตอนที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่เมื่อใดที่กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางอย่างเลี่ยงไม่ได้และทำให้คุณต้องเสียเงินให้กับสิ่งที่คุณไม่ได้สนใจอย่างฉับพลัน มันจะกลายเป็นภาระสองเท่า
หากคุณลงทุนกับบริษัทที่ “คุณหลงใหล” คุณรักพันธกิจของบริษัท รักผลิตภัณฑ์ รักทีมงาน รักศาสตร์ของมัน หรืออะไรก็ตามที่คุณชื่นชอบ เมื่อวันที่ย่ำแย่มาถึง คุณอาจต้องเสียเงินไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ก็จริง
แต่อย่างน้อยคุณก็จะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่มีความหมายสำหรับคุณ และสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างแรงขับเคลื่อนที่ป้องกันคุณจากการยอมแพ้และทำให้คุณเดินหน้าต่อไปได้
ความอดทนเป็นสิ่งที่มีรสขมแต่ผลของมันช่างหอมหวานนัก
- Aristotle
อ่านจบแล้วเป็นยังไงบ้างคะ?
แอดเองก็เป็นนักลงทุนรายย่อยตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ลงทุนทั้งในหุ้นและคริปโตเคอเรนซี่ค่ะ ซึ่งสภาพตลาดในปัจจุบันก็เป็นอย่างที่ทุกท่านทราบกัน คือเป็นตลาดขาลงและค่อนข้างผันผวนมาก
ซึ่งแอดเห็นด้วยกับคุณเฮาเซิลมากๆ เลยค่ะ ถ้าสิ่งที่คุณลงทุนอยู่เป็นสิ่งที่คุณรัก คุณหลงใหล คุณชอบมัน บวกกับคุณจัดพอร์ตของคุณไว้เพื่อเตรียมรับวิกฤตไว้แล้ว
แอดเชื่อว่า วันนี้คุณจะสามารถนอนหลับสนิทตลอดคืนได้แน่นอนค่ะ
โฆษณา