26 ก.ค. 2022 เวลา 01:43 • กีฬา
ถ้ามีการต่อยมวยกันบนสังเวียน แล้วมีคนเสียชีวิต คำถามคือ อีกฝ่ายจะมีควมผิดตามกฎหมายในข้อหาฆาตกรรมหรือไม่
2
คำตอบคือ ไม่มี
ที่ไทยเคยมีคำพิพากษาฎีกาที่ 1083/2510 ระบุว่า การสมัครใจชกมวยแล้วมีคนเสียชีวิต จะถือว่าเป็นความสมัครใจทางการกีฬา คู่ชกไม่มีความผิดทั้งแพ่ง และอาญา
2
ในต่างประเทศ ที่อินเดียมีกฎหมายมาตรา 87 ซึ่งระบุชัดเจนว่า ถ้าหากมีข้อตกลงร่วมกันแล้วก่อนชก และต่อสู้บนสังเวียนและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน หากมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น ก็ถือเป็นเหตุสุดวิสัย
แม้จะไม่มีบทลงโทษใดๆ แต่เรื่องความรู้สึกของคนที่ทำให้คู่ชกตายนั้น มันฝังในใจเนิ่นนาน และเต็มไปด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส
เอาจริงๆ กีฬามวยนั้น แม้จะใช้พลังต่อสู้ เพื่อทำให้อีกฝ่ายเจ็บตัว แต่คู่ชกก็ไม่ได้มีอะไรโกรธเกลียดกันเป็นการส่วนตัว พวกเขาก็ทำอาชีพเดียวกัน เข้าใจความยากลำบากในการฝึกซ้อมที่เผชิญเป็นอย่างดี แต่เมื่อโคจรมาเจอกัน ก็ต้องทุ่มเทพลังทั้งหมดที่ตัวเองมี
3
เมื่อทำให้อีกฝ่ายตาย ก็เหมือนตัวเองเป็นคนไปทำลายชีวิตของอีกคน ที่เขาอาจจะพยายามอย่างสุดชีวิตในแต่ละวัน เพื่อหาเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ ลูกเมีย ก็แค่นั้น
1
ในปี 1982 ศึกชิงแชมป์โลกรุ่นไลท์เวท ระหว่างเรย์ มันชินี่ นักชกสหรัฐฯ เจ้าของแชมป์โลก WBA เจอกับ คิม ดุก-กู ผู้ท้าชิงอันดับ 1 จากเกาหลีใต้ โดยไฟต์นี้ ชกกันที่ลาสเวกัส
ยุคนั้น มวยสากลชกกัน 15 ยก ต้องใช้พลังต่อสู้กันอย่างเหน็ดเหนื่อยมาก โดย มันชินี่ไล่บุกชนเหนื่อย แต่ด้วยพลังโสมของคิม เขาก็ยังไม่ยอมแพ้เสียที จนสุดท้ายในยกที่ 14 มันชินี่ชกเปรี้ยงด้วยขวา คิมกระเด็นเด้งเชือก หัวฟาดผืนผ้าใบ คิมพยายามยืนขึ้นมาให้ได้ แต่กรรมการยุติการชกแค่นั้น มันชินี่ชนะ TKO
บรรยากาศบนเวทีก็เฉลิมฉลองชัยชนะของมันชินี่กันไป แต่อาการของคิมไม่สู้ดีเอามากๆ เขาโดนส่งตัวไปโรงพยาบาลทันที เพราะมีอาการโคม่า เลือดออกที่สมอง แพทย์ทำการผ่าตัดเพื่อยื้อชีวิตให้ได้
แต่สุดท้าย แพทย์ก็ทำไม่สำเร็จ คิม ดุก-กู กลายเป็นเจ้าชายนิทรา และภรรยากับแม่ของคิม ต้องบินมาที่สหรัฐฯ เพื่อเซ็นยินยอมให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจ คิม ดุก-กู เสียชีวิตในอีก 4 วันต่อมา
4 เดือนหลังจาก คิม ดุก-กู เสียชีวิต คุณแม่ของเขากินยาฆ่าแมลง ตายตามลูกชายไปอีกหนึ่งคน
2
เช่นเดียวกับกรรมการห้ามบนเวทีวันนั้น ริชาร์ด กรีน ก็ฆ่าตัวตายด้วยอีกคน โดยกรณีของกรีนไม่มีการเปิดเผยว่าฆ่าตัวตายเพราะอะไร แต่ก็มีการวิเคราะห์กันว่า อาจรู้สึกผิด ที่ไม่ยอมยุติการชกก่อนหน้านั้น ทั้งๆ ที่สภาพของนักมวยไม่ไหวแล้ว
1
คนที่โดนผลกระทบมากที่สุด กับทุกๆ อย่าง คือ เรย์ มันชินี่ เขาไม่ได้คิดจะสังหารเพื่อนร่วมอาชีพ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว และเรื่องราวที่เขาเผชิญต่อจากนั้น คือกลายเป็นคนผิด เขาโดนทั้งแซะ ทั้งแขวะ และหยิบเอาเรื่องความตายของคิมมาพูดถึงกันตลอดเวลา
1
นีน่า ลูกสาววัย 9 ขวบ ของมันชินี่เล่าว่า ที่โรงเรียนมีเด็กผู้ชายมาล้อว่า พ่อของเธอเป็นฆาตกร ขณะที่มันชินี่ เคยเจอคนเมาข้างถนนมาพูดใส่หูว่า "มันรู้สึกเป็นยังไงนะ ที่ได้ฆ่าคน"
1
ถ้าย้อนเวลาได้ มันชินี่ก็ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เขาไม่อยากถูกประณามแบบนี้ เขาไม่ได้อยากฆ่าคนตาย แต่มันก็เกิดไปแล้ว เขาเองไม่รู้จะทำยังไง นอกจากจะได้แต่อยู่กับความรู้สึกผิดไปตลอด
40 ปีผ่านไป ในเดือนมิถุนายน 2022 การชกมวยชิงแชมป์แอฟริกัน รุ่นไลท์เวท ของ WBF ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ระหว่าง ซิเฟซิเล่ มันตังว่า กับ ซิมิโซ่ บูเธเลซี่ ไฟต์นี้จบลงด้วยการที่ บูเธเลซี่ โดนชกจนเมาหมัด เขาเหวี่ยงหมัดต่อยลมเหมือนสมองแยกแยะไม่ได้ว่าคู่ต่อสู้อยู่ตรงไหน ทำให้กรรมการยุติการชกทันที
2
ปรากฏว่า มันตังว่า ผู้ชนะ ไม่ได้รู้ว่าอีกฝ่ายจะมีอาการหนัก เขาวิ่งดีใจกับเทรนเนอร์ แล้วทำท่า SUI! แบบคริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือดีใจสุดขีดที่ได้แชมป์ทวีปว่างั้นเถอะ
1
บูเธเลซี่ โดนนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการโคม่า และเสียชีวิตในอีก 2 วันต่อมา ซึ่งทำให้มันตังว่า คนที่ชนะน็อก โดนกระแสเกลียดชังจากแฟนมวยทั่วประเทศ ด่าทอว่าเขาเป็นฆาตกร
มันตังว่า โดนด่า โดนกดดันจนทนไม่ไหว เขาจึงตัดสินใจจะฆ่าตัวตายให้มันจบๆ ไป โดยมันตังว่ากล่าวว่า "ผมรับมันไม่ไหวอีกแล้ว ผมโดนด่าอย่างรุนแรง ด้วยคำหยาบคาย ในโซเชียลมีเดีย คือตอนที่คู่ชกของผมไปโรงพยาบาลก็แรงแล้วนะ แต่พอเขาเสียชีวิตมันยิ่งรุนแรงมากๆ อีกเลเวลหนึ่งเลย ซึ่งผมรับมันไม่ไหวอีกแล้ว ผมคิดขึ้นมาในหัวเลยว่า ผมฆ่าตัวตายตามไปเลยดีไหม"
"แม้แต่เพื่อนบ้านของผม ยังเขียนข้อความเลวร้ายเกี่ยวกับผมลงบนโซเชียลมีเดีย จนผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ปล่อยภัยอีกแล้ว ความจริงคือผมไม่ได้คิดจะฆ่า ซิมิโซ่ บูเธเลซี่ เราชกในไฟต์เดียวกันก็จริง แต่เราไม่ได้มีความตั้งใจจะไปฆ่ากันให้ตายบนเวที"
"สิ่งที่ผมต้องการคือเข็มขัดแชมป์ เพราะมันจะทำให้ครอบครัวของผมสบายขึ้น ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ผมเสียใจและเจ็บปวดมาก ผมไม่ได้ขึ้นเวทีเพื่อมีเจตนาไปฆ่าเขานะ"
นี่ก็เป็นอีกเหตุการณ์ที่ทำให้เห็นว่า แม้จะไม่มีบทลงโทษทางกฎหมาย แต่กระแสสังคมก็โจมตีคนกระทำอยู่ดี ว่าเป็นฆาตกร คือนักชกที่ฆ่าคนตายตัวเองก็ปวดใจอยู่แล้ว การมาโดนสังคมด่าทออีก ยิ่งทำให้เจ็บปวดคูณสองกันไปเลย
ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีการบันทึกว่า มีนักมวยสากลที่เสียชีวิตจากการชกบนสังเวียนจำนวน 19 คน และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็เกิดเหตุการณ์อีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นมวยไทย
ศึกมวยไฟเตอร์ X ที่เวทีมวยเยาวชนกองทัพอากาศ ปานเพชร ผดุงชัยมวยไทย (25 ปี) พบกับ แอนโทนี่ ทีเอฟซี (21 ปี) นักมวยชาวฝรั่งเศส
นี่เป็นไฟต์ที่ถ่ายทอดสดทางฟรีทีวี ทำให้มีผู้ชมเห็นเหตุการณ์กันเป็นจำนวนมาก
ยกแรก ยกสอง แอนโทนี่ระดมหมัดอัดไปที่ขมับของปานเพชร ตามด้วยยกสามโดนเตะเข้าหน้า ยกสี่โดนต่อยหน้าจนเป๋าไปเป๋มาหลายครั้ง จนมาถึงยกห้าทุกอย่างก็จบลง เมื่อแอนโทนี่ใช้ท่าศอกกลับด้วยขวาอัดใบที่ใบหน้าอย่างจัง จนปานเพชรร่วงไปกองกับพื้น ศีรษะกระแทกพื้นอย่างรุนแรงมากๆ
ไฟต์จบลงด้วยการชนะน็อกเอาต์ของแอนโทนี่ ส่วนปานเพชรไม่ได้สติแล้ว ทำให้แพทย์สนามต้องรีบส่งไปรักษาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด คือโรงพยาบาลบีแคร์เป็นการด่วน
แม้จะมีแพทย์ดูแล แต่อาการของปานเพชรนั้นหนักมาก ถึงขั้นก้านสมองตาย ตามด้วยติดเชื้อในกระแสเลือด คือต้องมีปาฏิหาริย์อย่างเดียวถึงจะรอดชีวิตได้
ครอบครัวปานเพชร ยังหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ จึงยื้ออาการเอาไว้ แต่สุดท้ายปาฏิหาริย์ไม่มีจริง ปานเพชรถึงแก่ความตายในอีก 8 วันต่อมา
2
สำหรับในโลกออนไลน์ ส่วนใหญ่จะเข้าใจแอนโทนี่ แต่ก็มีบางส่วนโจมตีเขาเช่นกัน คอมเมนต์หนึ่งกล่าวว่า "ถ้าศอกเฉยๆ แล้วหลับร่วงกลางเวที การกระแทกหงายหลัง แรงจะไม่เยอะถึงขนาดเลือดคั่งในสมอง แต่ดูดีๆ คู่ชก ศอกเสร็จแล้วใช้มือผลักในขณะที่ปานเพชรหลับไปแล้ว แรงกระแทกมันเลยทวีคูณกว่าการน็อกปกติ"
และอีกคอมเมนต์หนึ่งโพสต์ว่า "แอนโทนี่มันออกอาวุธหนัก ทำคนถึงแก่ความตายนะ มันไม่ผิดเลยเหรอ? เห็นคนอวยมันเยอะมาก วิปริตไปแล้วสังคม"
1
การเสียชีวิตของคู่ชก ตามด้วยคำด่าทอออนไลน์ เรื่องนี้ มีผลกระทบอย่างมากต่อใจของแอนโทนี่ ในวันที่ปานเพชรเสียชีวิต เขาโพสต์ข้อความตอน 03.20 น. มีใจความว่า
"ผมทราบดี ว่าผมไม่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผมทำใจคิดว่า 'การชกมีความเสี่ยง และคุณก็ต้องคาดหวังอยู่แล้วว่าจะเจออะไรแบบนี้' ไม่ได้จริงๆ นี่เป็นเรื่องที่ช็อกในความรู้สึกของผมจริงๆ"
1
"เหตุผลทุกๆ อย่างรวมกัน เขาอาจจะมีอาการบาดเจ็บมาก่อนหน้าจะชกกับผม เขาเพิ่งอายุ 25 แต่ชกไปแล้ว ถึง 80 ไฟต์ด้วยกัน มันอาจจะถี่เกินไปหน่อย ขณะที่ในไฟต์นี้ กรรมการก็ควรจะจับเขานับหลายครั้งด้วย"
"ไฟต์ที่สุดท้ายของปานเพชร เป็นการสู้กัน 5 ยกกับผม แน่นอน ผมรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบบางอย่างกับการเสียชีวิตของเขา เรื่องนี้ผมไม่สามารถสลัดมันออกจากหัวได้เลย แม้จะมีคนโทรมา หรือส่งข้อความมาให้กำลังใจผมก็ตาม ผมเสียใจจนไม่สามารถอธิบายได้ แต่ทั้งหมดนี้คือเรื่องของโชคชะตา ที่เราทำอะไรไม่ได้ สิ่งเดียวที่ผมหวัง คือขอให้เขาจากไปอย่างสงบสุข และผมสัญญาว่าจะช่วยเหลือเรื่องเงินทองให้แม่ของเขา ภรรยาของเขา และลูกสาวตัวน้อยของเขา จนกว่าที่ครอบครัวของปานเพชรจะบอกว่าไม่ต้องการเงินของผมอีกแล้ว"
5
"สำหรับผม มีเวลาที่จะคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง การชกครั้งนี้เป็นไฟต์ที่ 28 ของผม และผมจะไม่กลับมาชกอีกแล้ว ไม่ใช่ว่าผมร่างกายมีปัญหาอะไร แต่เพราะผมรู้สึกว่ามันเป็นความผิด และไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกผิดไปมากกว่านี้"
1
"ขอบคุณทุกคนที่ร่วมทางกับผมมาตั้งแต่แรก และขอโทษจริงๆ เพราะผมรู้ว่าพวกคุณเสียสละมากมาย เพื่อผลักดันผมไปสู่จุดสูงสุดแท้ๆ"
เรื่องนี้มันเป็นข่าวที่เศร้าจริงๆ ของวงการกีฬา ผมเข้าไปดูเฟซบุ๊กของภรรยาปานเพชร เห็นภาพครอบครัวที่เขาอุ้มลูกสาววัยน่ารัก ผมน้ำตาไหลเลยด้วยความที่ลูกตัวเองก็วัยเดียวกัน มันน่าเศร้าจริงๆ คนที่ยอมเจ็บตัว ยอมเหนื่อย ยอมสู้เพื่อลูก แต่กลับจากโลกนี้ไปโดยไม่ทันได้ร่ำลากันด้วยซ้ำ แม่คงตอบลูกสาวได้ยากมากจริงๆ ว่าพ่อหายไปไหนแล้ว
2
ปานเพชรเป็นนักสู้ เคยเป็นนักกีฬาทีมชาติ ได้เหรียญเงินซีเกมส์ และตลอดเส้นทางอาชีพเขาก็สู้สุดชีวิตเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว การเสียชีวิตของเขาจึงมีผลกระทบต่อความรู้สึกของหลายๆ คนเป็นอย่างมาก
แต่แม้จะเศร้าแค่ไหน ผมก็คิดว่า เรื่องนี้เราโทษแอนโทนี่ไม่ได้เลย เพราะการต่อสู้บนสังเวียน ที่ทั้งสองฝ่ายรับรู้กฎกติการ่วมกันแล้ว มันต้องทำใจว่าความเสี่ยงเกิดขึ้นได้เสมอ ส่วนจังหวะผลักตามน้ำใดๆ ที่คนพูดถึง มันคือเรื่องราวบนสังเวียน เป็นจังหวะต่อเนื่อง ไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก
ขึ้นชื่อว่าเป็นกีฬาต่อสู้ ที่ต้องปะทะกันด้วยพลังทั้งหมดที่มี แต่ละไฟต์ที่ขึ้นชก มันคือความเสี่ยง นี่เป็นสิ่งที่ต้องรู้อยู่แล้ว
จากนี้ไป วงการมวยอาจจะต้องถอดบทเรียนเรื่องปานเพชรออกมา และ Revised กฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อให้การชกในอนาคตมีความปลอดภัยมากขึ้น เช่น พ.ร.บ.มวย ที่กำหนดให้นักชกต้องเว้น 21 วัน ก่อนขึ้นชกไฟต์ต่อไป สามารถบังคับใช้ได้จริงหรือไม่ เป็นต้น
เอาล่ะ สุดท้าย ผมว่าเรื่องนี้เราไม่จำเป็นต้องโทษใคร ไม่ต้องประณามคู่ชก ไม่ต้องไปด่าทอ ไปขู่อาฆาตมาดร้าย เพราะแค่ทำเพื่อนร่วมอาชีพตาย เขาก็เสียใจมากพออยู่แล้ว
3
เมื่อขึ้นชื่อว่าโศกนาฏกรรม ทุกคนก็เสียใจกันทั้งนั้น แต่บางทีมันก็เป็นเรื่องสุดวิสัย ไม่มีใครสักคนหรอก ที่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นบนสังเวียน
เป็นกำลังใจให้แอนโทนี่ให้ยืนหยัดขึ้นมาให้ได้ ไม่จำเป็นต้องโทษตัวเองไปตลอดชีวิต เขาเองก็มีครอบครัว มีลูกเหมือนกัน ถ้าทำใจได้แล้วกลับมาชก เชื่อว่าทุกคนก็ยินดีต้อนรับ
ขณะที่ครอบครัวของปานเพชร ขอให้ผ่านช่วงเวลายากลำบากตรงนี้ไปให้ได้ และขอให้ดวงวิญญาณของปานเพชร ไปสู่ภพภูมิที่ดีครับ
1
โฆษณา