หลายคนคงเคยได้ยินข่าว ว่าตอนสมัยวัยรุ่น ธีโบต์ กูร์กตัวส์ แทงหลังเพื่อน ด้วยการแย่งแฟนเควิน เดอ บรอยน์ เรื่องราวเป็นอย่างไร วิเคราะห์บอลจริงจังจะเล่าให้ฟังตั้งแต่แรก
ในข้อเท็จจริง คำว่า "แย่งแฟน" ไม่ถูกความหมายนัก แต่มันก็ไม่ใช่ข่าวปลอมเสียทีเดียว เพราะทั้งสองคนมีปัญหาเรื่องผู้หญิงเกิดขึ้นจริงๆ
เดอ บรอยน์ กับ กูร์กตัวส์ เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว ทั้งคู่อายุไล่เลี่ยกัน (เดอ บรอยน์ อายุมากกว่า 11 เดือน) โตมาพร้อมกันที่อะคาเดมี่ ของสโมสรเกงค์ ในเบลเยี่ยม จากนั้นก็ถูกเชลซี ซื้อตัวไปในเวลาใกล้เคียงกัน
เชลซี ซื้อกูร์กตัวส์ ในเดือนกรกฎาคม 2011 แล้วปล่อยตัวให้แอตเลติโก้ มาดริดยืมทันที จากนั้นเดือนมกราคม 2012 ก็ซื้อเดอ บรอยน์อีกคน แต่ก็ปล่อยให้เกงค์ใช้งานต่ออีกครึ่งปี
ทั้งสองคนเป็นความหวังของวงการฟุตบอลเบลเยี่ยม คนหนึ่งเป็นผู้รักษาประตู อีกคนเป็นตัวรุก อนาคตของทีมชาติในยุคต่อไปก็จะอยู่ในกำมือของทั้งคู่แน่นอน
สำหรับเดอ บรอยน์นั้น ชีวิตส่วนตัวของเขา ตอนเล่นอยู่กับเกงค์ มีแฟนชื่อ แคโรลีน ไลจ์เน่น ที่เป็นนักเทนนิสสาวดาวรุ่งชาวเบลเยี่ยม ทั้งสองคนคบกันหลายปี จนมีแนวโน้มว่าจะแต่งงานกัน และย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันแล้ว
ตอนที่เชลซีประกาศซื้อตัวเดอ บรอยน์ แคโรลีนให้สัมภาษณ์ว่า เธอจะไปอยู่กับเดอ บรอยน์ที่ลอนดอนด้วย คือระหว่างที่แฟนหนุ่มเตะบอล เธอก็อาจไปสมัครเป็นสมาชิกออลอิงแลนด์คลับ ได้ไปเล่นเทนนิสที่วิมเบิลดัน ชีวิตน่าจะเอ็นจอยเต็มที่เลย
อย่างไรก็ตาม แผนของแคโรลีนผิดพลาด เพราะในเดือนกรกฎาคม 2012 พอเดอ บรอยน์ ย้ายไปเชลซีปั๊บ แม้เขาอยากจะเล่นกับทีมชุดใหญ่ทันที แต่เชลซีมองว่านักเตะยังไม่พร้อม จึงตัดสินใจส่งต่อให้แวร์เดอร์ เบรเมนยืมตัว เป็นเวลา 1 ฤดูกาล
นั่นทำให้แคโรลีนที่อยากใช้ชีวิตในมหานครที่มีสีสันอย่างลอนดอน กลายเป็นว่าต้องไปอยู่เมืองเบรเมน ทางตอนเหนือของเยอรมันแทน
ดราม่าของเรื่องที่เรากำลังจะเล่า เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2013 โดยนิตยสารแนว Gossip ของเบลเยี่ยม ชื่อ Story มีสกู๊ปเอ็กซ์คลูซีฟว่า แคโรลีน ที่คบเดอ บรอยน์มาแล้ว 3 ปี ไปแอบมีความสัมพันธ์ลับๆ กับธีโบต์ กูร์กตัวส์ ที่ ณ เวลานั้นเล่นอยู่กับแอตเลติโก้ มาดริด
นิตยสาร Story รายงานว่า แคโรลีน กับ กูร์กตัวส์ แอบแชทกันทางออนไลน์ แล้วส่งรูปไปมาหากัน จนในที่สุดทุกอย่างเลยเถิด เมื่อแคโรลีนบินไปหากูร์กตัวส์ ที่มาดริด และใช้เวลาอยู่ด้วยกัน 1 คืน
ในนิตยสารเขียนว่า "แคโรลีน ไลจ์เน่น ไม่มีความสุขกับชีวิตที่มีเดอ บรอยน์ ในเมืองเบรเมน เธอบินมามาดริด และมีความสุขในช่วงสั้นๆ กับกูร์กตัวส์"
"ที่บ้านของกูร์กตัวส์ ในเมืองมาดริด มีการนอกใจเกิดขึ้น แคโรลีนนอกใจเควิน โดยที่ฝ่ายชายไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย แต่สุดท้ายก็มารู้ความจริง นั่นทำให้เควินเป็นบ้าไปเลย เรื่องนี้ทำให้เขาช็อกมากจริงๆ"
ตอนที่มีข่าวหลุดออกมา ณ เวลานั้น ทีมชาติเบลเยี่ยมกำลังเตรียมลงแข่งกับมาเซโดเนีย 2 นัด ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกพอดี และทั้งคู่ก็อยู่ในแคมป์ทีมชาติด้วยกัน ผู้คนจึงตั้งคำถามกันมากๆ ว่า แล้วแบบนี้จะยังมีความสามัคคีในแคมป์ทีมชาติอยู่อีกหรือ
สเตฟาน ฟาน ล็อค ประชาสัมพันธ์ของสมาคมฟุตบอลเบลเยี่ยม ยอมรับว่า "เราไม่ปฏิเสธว่า มีปัญหาส่วนตัวเกิดขึ้นระหว่างธีโบต์ กูร์กตัวส์ กับ เควิน เดอ บรอยน์จริงๆ แต่เราคุยกับทั้งคู่แล้ว และทั้งคู่ยืนยันว่าจะไม่นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นในแคมป์ทีมชาติ"
"เป็นเรื่องจริงที่ผู้จัดการทีมชาติ มาร์ก วิลมอตส์ คุยกับทั้งคู่แล้ว แต่เรายืนยันได้ว่า เรื่องนี้จะไม่มีผลกระทบต่อทีมชาติเบลเยี่ยมแน่นอน"
การที่คนของสมาคมฯ ออกมาพูดแบบนี้ ทำให้คนรู้ว่าเรื่องนี้มันมีน้ำหนัก และทุกอย่างยิ่งชัดเจนมากขึ้น เมื่อ เธียร์รี่ กูร์กตัวส์ คุณพ่อของธีโบต์ ยอมรับว่าแคโรลีนมาหาธีโบต์ที่มาดริดจริง แต่ไม่รู้ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันถึงขั้นไหน
วันแข่งขันมาถึง สุดท้ายเบลเยี่ยมก็ส่งทั้งเดอ บรอยน์ และ กูร์กตัวส์ ลงเล่นจริงๆ ในเกมเจอมาเซโดเนียทั้งสองนัด โดยเบลเยี่ยมชนะทั้งสองเกม (2-0 และ 1-0) ซึ่งทั้งคู่เล่นดีมากๆ เดอ บรอยน์ ยิงได้ ส่วนกูร์กตัวส์คลีนชีททั้งสองนัด คือดูไม่รู้เลยว่า มีปัญหาขัดแย้งกันใหญ่โตขนาดนั้น
ความตึงเครียดระหว่างสองคน ถูกพูดถึงน้อยลง เพราะจบจากฟีฟ่าเดย์ ต่างคนก็ต่างกลับไปเล่นให้สโมสรตัวเอง แต่ดราม่าเกิดขึ้นอีกครั้ง ในฟีฟ่าเดย์รอบต่อไป อีก 3 เดือนต่อมา
เดือนมิถุนายน 2013 เบลเยี่ยมต้องลงเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก กับเซอร์เบีย และ สกอตแลนด์ ซึ่งเป็นสองเกมที่สำคัญมากต่อการเข้าบอลโลก และคำถามก็คือเดอ บรอยน์ กับ กูร์กตัวส์ จะเผชิญหน้ากันได้ไหม
สำนักข่าว RTL ของเบลเยี่ยมรายงานว่า "ก่อนเกมนัดสำคัญกับเซอร์เบีย และ สกอตแลนด์ เฮดโค้ชทีมชาติ มาร์ก วิลมอตส์ ได้ถามเควิน เดอ บรอยน์ ว่าจากสิ่งที่คุณโดนกระทำมา อยากให้โค้ชช่วยตัดชื่อธีโบต์ กูร์กตัวส์ออกจากแคมป์ทีมชาติหรือไม่ ถ้าต้องการก็บอกได้เลย จะได้ไม่ลำบากใจกัน แต่สุดท้ายเดอ บรอยน์ ปฏิเสธ เพราะเห็นประโยชน์ของชาติสำคัญกว่า"
แม้จะมีข่าวนอกสนามอย่างไรก็ตาม เดอ บรอยน์ กับ กูร์กตัวส์ ก็ลงเล่นตัวจริงทั้งคู่อีกครั้ง และเบลเยี่ยมก็ชนะเซอร์เบีย 2-1 ตามด้วยสกอตแลนด์ 2-0 การันตีการเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้สำเร็จ
จริงๆ ผู้คนก็เซอร์ไพรส์ว่า เดอ บรอยน์ โดนกระทำขนาดนี้ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยหรือไง แต่ความจริงคือ ไม่แสดงออก ไม่ได้แปลว่าไม่รู้สึก
เดอ บรอยน์ เคยเขียนอัตชีวประวัติของตัวเองชื่อ Keep it Simple เล่าว่าชีวิตของเขาจมดิ่งไปเลย หลังจากรู้ว่าแฟนสาวนอกใจ ซึ่งสังคมก็ให้กำลังใจเดอ บรอยน์ อย่างมาก ว่านักเตะระดับท็อปขนาดนี้ ไม่น่าจะมาโดนอะไรแบบนี้ได้
เหตุการณ์ต่อจากนั้น เดอ บรอยน์เลิกกับแคโรลีน แต่แคโรลีนก็ไม่ได้คบกับกูร์กตัวส์ สรุปคือไม่มีใครรู้ว่าอะไรเป็นยังไงกันแน่ ทุกอย่างดูคลุมเครือไปหมด
จนสุดท้ายความจริงก็มาเปิดเผย จากปากของแคโรลีนเอง ในอีกหลายเดือนต่อมา โดยเธอให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Story ว่า "จริงๆ ฉันไม่อยากพูดเรื่องนี้ แต่เมื่อเควินพาดพิงฉันในอัตชีวประวัติของเขา ฉันจึงคิดว่าสมควรออกมาให้สัมภาษณ์ เพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นบ้าง"
"จุดเริ่มต้นของเรื่อง เควินเคยนอกใจ ไปแอบคุยกับเพื่อนของฉันมาก่อน ในวันนั้นฉันให้โอกาสเขาว่า จะเลือกใคร ฉันหรือผู้หญิงคนนั้น เมื่อเขาเลือกฉัน ฉันก็พร้อมให้โอกาสกันอีกรอบ แต่จากวันนั้นความสัมพันธ์ของเราก็ไม่เคยเหมือนเดิมอีกเลย"
"ความอึดอัดใจในความสัมพันธ์ ทำให้ฉันรู้สึกกดดัน เหมือนอยู่ในกรงขัง จะบอกใครก็ไม่ได้ ได้แต่ต้องเงียบเอาไว้แบบนั้น และนั่นคือเหตุผล ว่าทำไมฉันถึงต้องไปคุยกับธีโบต์ ที่เป็นเพื่อนสนิทของเควิน ก็เพื่อขอคำแนะนำจากเขานั่นเอง"
"ธีโบต์ ปลอบประโลมฉัน และใช้โอกาสนั้นแสดงความรู้สึกบางอย่างที่เขาปิดบังมาตลอด คืนนั้นเขามอบบางอย่างที่ฉันไม่เคยได้รับตลอดช่วงเวลา 3 ปี ที่คบกับเควิน"
"ธีโบต์ทำให้ฉันเหมือนเป็นผู้หญิงที่แท้จริง ฉันคุยกับเขาได้ทุกอย่าง บอกเขาได้ทุกเรื่อง เขาทำอาหารให้ฉันกินเลยด้วยซ้ำ ซึ่งเควินไม่เคยทำอะไรแบบนี้เพื่อฉันเลย"
"ในเมื่อเควินเคยทำกับฉันได้ ฉันก็คิดขึ้นมาว่า 'แล้วทำไมฉันถึงไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้นบ้างล่ะ?' "
และเรื่องราวของเดอ บรอยน์ - กูร์กตัวส์ - แคโรลีน จบลงแค่ตรงนี้
แคโรลีนออกมาพูด แต่ตัวนักฟุตบอลทั้ง 2 คน ไม่เคยออกมากล่าวถึงประเด็นนี้อีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว พวกเขาก็เตะฟุตบอลตามหน้าที่ของตัวเองไป
สำหรับเรื่องความสัมพันธ์นั้น ผู้คนก็วิเคราะห์กันได้ว่า กูร์กตัวส์ กับ แคโรลีน อาจจะมีเสน่หากันแบบวันไนท์สแตนด์ แต่ไม่ได้สานต่อกันลึกซึ้ง
นับจากวันนั้น เส้นทางความรักของแต่ละคน ก็เดินไปคนละทาง
หลังเลิกกับแคโรลีน เดอ บรอยน์ ก็ใช้ชีวิตไปปกติ คือตอนนั้นเดอ บรอยน์ก็เก่งแล้ว แต่ยังไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ขนาดปัจจุบันนี้ คนติดตามในทวิตเตอร์ อยู่ที่หลักพันเท่านั้นเอง
เดอ บรอยน์เล่าว่า "ผมจำได้ว่า วันหนึ่งผมทวีตเกี่ยวกับเกมการแข่งหรืออะไรสักอย่าง แล้วจู่ๆ ก็มีผู้หญิงน่ารักมากด Fav ให้ ซึ่งตอนนั้นผมเป็นโสดแล้ว พอเพื่อนของผมสังเกตเห็น ก็เลยบอกว่า 'เธอดูน่ารักนะ นายน่าจะลองส่งข้อความทักเธอไปหน่อยไหม' "
"ผมจำได้ว่า ผมบอกเพื่อนว่า ไม่ ไม่ ไม่ ไม่เอาหรอก เพราะผู้หญิงไม่ชอบคนเรียบๆ แบบผมหรอก ดังนั้นเธอไม่ตอบกลับมาแน่ ซึ่งเมื่อผมพูดแบบนั้น เพื่อนก็หยิบเอาโทรศัพท์ผมมาเลย แล้วพิมพ์ข้อความหาเธอเสร็จสรรพ แล้วหันมาถามผมว่า 'จะเอายังไง ให้ฉันกดส่งเลยไหม?' "
"สุดท้ายต้องขอบคุณเพื่อนผมจริงๆ ที่เขาส่งข้อความไป เพราะเธอก็ตอบกลับมา จากนั้นเราคุยกันผ่านแชทอยู่ 2-3 เดือนก่อนจะมาเจอกัน สำหรับผม มันง่ายมากกว่า ที่จะทำความรู้จักกับใครสักคนผ่านทางแชทก่อน ซึ่งเรื่องราวจากนั้นก็มีแต่ความสวยงาม เธอเปลี่ยนชีวิตผมไปหลายๆ ทาง และพูดจริงๆ เลยนะ ผมไม่รู้จะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเธอ"
ผู้หญิงคนนั้นที่เดอ บรอยน์กล่าวถึงชื่อ มิเชล ลาโครซ์ เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮัซเซลต์ ที่เบลเยี่ยม แต่ก็มีงานเป็นนางแบบด้วย ซึ่งสุดท้ายทั้งคู่ก็คบกันยาวนาน จนถึงขั้นแต่งงานกัน มีลูกด้วยกันเรียบร้อย
ส่วนธีโบต์ กูร์กตัวส์ หลังจากเกิดเหตุการณ์ เขาก็ไม่ได้คบกับแคโรลีน แต่ไปคบกับนางแบบชาวสเปนชื่อ มาร์ธา โดมิงเกวซ มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ปัจจุบันเลิกกันแล้ว และกูร์กตัวส์ มีแฟนใหม่เป็นนางแบบชาวอิสราเอล ชื่อมิเชล เกอร์ซิก
ขณะที่ แคโรลีน ปัจจุบันก็ไม่ยุ่งกับคนในวงการกีฬาอีกเลย เธอคบกับนักธุรกิจชื่อ โยริส ลินเดอลอฟ ปัจจุบันมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนชื่อ แมรี่ ลู
เราจะเห็นได้ว่า ด้วยความที่เหตุการณ์มันผ่านมานานเกือบสิบปีแล้ว ทุกๆ คนก็ไปมีชีวิตใหม่ของตัวเอง มีความรักครั้งใหม่ มีลูกกันเรียบร้อยแล้ว
เรื่องทั้งหมดเป็นแค่อดีต ปัจจุบันเวลาเดอ บรอยน์ เจอกูร์กตัวส์ในสนาม ถ้ามีแมตช์ต้องปะทะกันเขาก็จับมือ พูดคุยกันตามปกติ เช่นเดียวกับในแคมป์ทีมชาติ ไม่เคยมีข่าวว่าทะเลาะหรืออะไรกันอีก
คือความรู้สึกลึกๆ จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ แต่ทั้งคู่ก็มีความเป็นมืออาชีพมากพอ สุดท้ายข่าวดราม่าระหว่างทั้งสองคนก็เลยจบลงแบบที่เล่นข่าวต่อไปไม่ได้อีก
อย่างไรก็ตาม แม้เรื่องจะจบแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่า นี่ก็ถือเป็นเหตุการณ์หักเหลี่ยมโหดอีกครั้งในวงการฟุตบอล และเป็นข่าวที่ฮือฮามากๆ ในช่วงนั้นจริงๆ
สุดท้ายเรื่องนี้ ก็เหมือนที่เขาบอกกันบ่อยๆ นั่นล่ะเนอะ ว่าถ้าไม่อยากให้ชีวิตยาก อย่าเอาตัวไปพัวพันกับ แฟนเพื่อน หรือ เพื่อนแฟน เลยดีกว่า มันปวดหัววววว
#BELGIANSCANDAL
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
