26 ก.ค. 2022 เวลา 12:28 • ปรัชญา
จะใช้ชีวิตให้มีความสุข ก็ต้องรักให้เป็นก่อน
2
ความรัก
มีหลากหลายรูปแบบแล้วแต่จะนิยาม
และความรักที่เกิดนั้นก็เป็นความรักที่ได้เกิดขึ้นจริงๆ
เมื่อได้มีความรักก็จะมีความงดงามเกิดขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เพราะความรักนั้นก็คือความสุข
เป็นความสุขที่เกิดมาจากหัวจิตหัวใจ
เป็นความสุขที่ได้มอบความรักให้กับคนที่รัก
และสุขที่ได้รับความรักจากคนที่รัก
หรือจะสุขใจ เพราะมีความรักที่ไร้เงื่อนไข
แค่ได้รักก็มีความสุขแล้ว
แต่ก็เพราะว่าความรักมีหลากหลายนิยาม
บ้างก็ว่า ความรักทำให้คนตาบอด
บ้างก็ว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์
แล้วบ้างก็ว่า ความรักคือการครอบครอง
แล้วแต่ว่า ใครจะมองว่าความรักเป็นเช่นไร
แต่หากว่าอยากมีความรัก
ที่มีแต่ความสุขนั้น
ตัวเราเองก็ต้องมาจัดการ
กับหัวจิตหัวใจของตัวเราก่อน
โดยที่เรานั้นจะต้องมีความรัก
มอบให้กับตัวเราเองให้ได้ก่อน
การที่เรารักตัวเองในที่นี้
ไม่ใช่การเห็นแก่ตัวนะคะ
หมายถึงว่า ต้องเห็นคุณค่า
ในตัวเราเอง
ต้องเคารพความรู้สึก
ของตัวเราเอง
เคารพตัวเราเอง
ไม่ทำให้ตัวเราเป็นคนไร้ค่า
ไม่มีคุณค่า
คนทุกคนมีคุณค่า
อยู่ในตัวเองกันอยู่แล้วนะคะ
เพียงแต่ว่าในแต่ละมุมมอง
ของคนเราจะมีการมองเห็นคุณค่า
ที่แตกต่างกันออกไป
เช่น ตัวเราเป็นคนที่ชอบร้องเพลง
และร้องเพลงเพราะซะด้วย
ไปร้องเพลงให้กับ
คนที่ไม่ชอบฟังเพลงได้ฟัง
ทำให้เขาไม่พอใจ
และไม่เห็นค่าความสามารถที่เรามี
นอกจากจะไม่เห็นคุณค่า
ในสิ่งที่เราทำแล้ว
ก็ยังเมินเฉยไม่สนใจอีกต่างหาก
แต่หากว่าเราไปร้องเพลง
ให้กับคนที่ชอบฟังเพลงได้ฟัง
คนที่ชอบฟังเพลงก็จะเห็นคุณค่า
ในตัวของเราและประทับใจ
ในความสามารถของเรา
และอยากจะสนับสนุน
ความสามารถของเรา
บนโลกใบนี้
มีความสัมพันธ์ของอาชีพ
ที่ยกตัวอย่างไปมากมาย เช่น
ผู้กำกับ vs นักแสดง
นักเขียน vs ท่านผู้อ่าน
คุณหมอ vs ผู้ป่วย
เจ้าของธุรกิจ vs ผู้บริโภค
นี่เป็นความสัมพันธ์ที่มีคุณค่า
ในกันและกันค่ะ
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า
ตนเองถนัดด้านไหน ชอบทำสิ่งใด
ลองค้นหาแบบทดสอบอาชีพ
ที่เหมาะกับตน ในเว็บไซต์ได้นะคะ
มีให้เลือกทำมากกมายเลย
อย่างแบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 แบบในเว็บไซต์คือดีมากๆทำให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้นเลยค่ะ
เมื่อทำแบบทดสอบนั้นแล้ว
รู้ใจตัวเองแล้วว่าตัวเราเป็นคนบุคลิกภาพแบบไหน
จากนั้นเราก็ลองเอาตนเองไปทำสิ่งนั้นๆ
สิ่งที่แบบทดสอบบอกมาว่าเรามีบุคลิกภาพอบบใด
แล้วก็ลองใช้เวลาทำสิ่งดูก่อน
ถ้าเราทำสิ่งนั้นนานๆเราจะทำได้ไหม
ถ้าทำแล้วรู้สึกว่า ทำได้เรื่อยๆ
เเละเวลาผ่านไปไวมากๆ
และรู้สึกสบายใจเวลาที่ทำ
ไม่มีความรู้สึกว่าขี้เกียจทำหรือหมดความหลงไหลแล้วล่ะก็
ท่านผู้อ่านมาถูกทางแล้วค่ะ
แล้วลองคิดทบทวนดูว่า
ถ้าต้องทำไปตลอดชีวิต
จะเป็นอย่างไร จะเบื่อไหม
ทำได้นานแค่ไหน ลองดูนะคะ
เมื่อเรารู้ความสุขและรู้ถึงคุณค่าของตัวเราเองแล้ว
ก็จงพาตัวเองไปอยู่ในจุดๆนั้น
จุดที่มีคนเห็นคุณค่าในตัวเรา
แต่หากยังไม่พบจุด
ที่จะมีคนมองเห็นคุณค่า
ในตัวเราแล้วละก็
ลองเปิดใจมองเห็นสิ่งต่างๆ
มองให้ลึก ลงไปในสิ่งต่างๆ
เอาใจของเราไปวางอยู่ตรงนั้น
ยังมีด้านอื่นๆอีกนะคะ
เพราะการใช้ชีวิตนั้นทำให้เราได้เรียนรู้ว่า ไม่มีอะไรที่มีเพียงด้านเดียวอยู่แล้ว
ทุกสิ่งนั้น มีอย่างน้อย สองด้านเสมอ
ถ้ามีด้านเดียวทุกอย่างก็คงไม่เกิดความแตกต่างได้หรอกใช่ไหมคะ
ทั้งนี้ก็จะทำให้เรานั้น
เกิดความเข้าใจตัวเอง
ว่าเจ้าหัวจิตหัวใจของเราเองนั้น
มีความสุข ที่อยู่ที่ตรงไหน
เเละจงคิดเสมอว่าเมื่อเรา
เป็นคนที่ดีไม่ทำให้ใครต้องเดือดร้อน เราก็เป็นคนที่มีคุณค่ามากๆแล้วค่ะ
เดือดร้อนที่ว่า
คือเดือดร้อนเพราะเราไปทำให้เขา
เดือดร้อนเป็นทุกข์กาย ทุกข์ใจ นะคะ
แต่การที่เขาเดือดร้อนเพราะ
เขาอิจฉาเราอันนี้ไม่ใช่
มันผิดที่ใจเขาเอง ตัวเราไม่ผิดนะคะ
ความจริงแล้วความรู้สึกอิจฉานี้
ไม่มีประโยชน์ต่อใจใครเลย
มีแต่จะทำให้ ใจเป็นทุกข์
กายก็ทุกข์ไปด้วย
เมื่อใจทุกข์จะคิดแต่เรื่องที่ทุกข์ใจเสมอ
และก็จะดึงดูดแต่เรื่อง
ที่ทำให้มีเรื่องทุกข์ใจเข้ามาตลอด
แต่เมื่อหัวใจเรามีความสุข
เราก็จะมีแต่ความสบายใจ
สบายกาย คิดแต่เรื่องดีๆ
เรื่องดีๆก็จะเข้ามาเสมอๆ
ท่านผู้อ่าน เชื่อเรื่อง
กฎแรงดึงดูดไหมคะ
ที่ว่าคนเราจะดึงดูดคนที่เหมือนกัน
ในด้านใดด้านหนึ่งให้มาได้รู้จักกัน
เช่นเราเป็นคนชอบเขียน
เราก็จะมีเพื่อนที่ชอบเขียน
หรือชอบอ่านเข้ามาให้เราได้รู้จักกันค่ะ
และในเวลาที่เราทุกข์ใจ
เราก็มองหาแต่เรื่องที่ทุกข์ใจ
ทำให้เราพบเรื่องทุกข์ใจมากมาย
แต่เรามองหาแต่เรื่องที่มีแต่ความสุข
ก็จะทำให้เราพบแต่เรื่องที่มีความสุข
ความจริงแล้วความสุขนั้นไม่เคยหนีจากเราไปและไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลเลย
เพราะเเท้ จริงแล้วความสุขอยู่ที่ใจของเราเอง
เพราะว่าก่อนนี้เรา
มองหาความรักจากที่อื่น
คิดว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้
นั้นทำให้เรามีความสุข
จึงทำให้เราไม่รู้ว่าความสุขนั้น
มันอยู่ตรงนี้ตรงที่หัวใจของเรา
สิ่งเดียวที่เราสามารถควบคุมได้
คือใจของเราเอง
แล้วแต่เราจะควบคุมให้ไปทางไหน
จะสุขหรือจะทุกข์
ลองแก้เชือกของความสุข
ที่เราได้ไปผูกไว้กับสิ่งอื่นสิ่งใด
แล้วนำมาผูกไว้กับใจเราเอง
แล้วเราจะรู้ว่าเชือกแห่งความสุขนี้
เมื่อได้อยู่กับเราเองไม่ได้ยึดไว้กับใครแล้ว
เราเองก็ไม่พบเรื่องที่เราต้องเจ็บ
หรือเสียใจเพราะสิ่งอื่นสิ่งใดอีกเลย
เพราะว่าก่อนนี้ตัวเรานั้นไปยึดติด
ว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ให้มาเป็นความสุขของเรา
เมื่อเสียสิ่งที่ผูกไว้ว่าเป็นความสุข
เราจึงคิดว่าเราเสียความสุข นั้นไปด้วย
จึงเกิดความทุกข์ ความเสียใจ
ความเศร้า ความผิดหวัง
แท้จริงแล้วความสุขอยู่ที่ใจของเราเอง
เพราะเมื่อใจเราสุขเราก็จะเกิดทั้ง
ความสบายกาย สบายใจ
แล้วสิ่ง สิ่งนั้น สิ่งนี้ สิ่งอื่น สิ่งใด สิ่งรอบตัวทั้งหลาย
ที่อยู่รอบตัวเรานั้น
ได้กลายเป็นส่วนร่วมใน ความสุข ไปด้วยค่ะ
จิ้นพุริ้นขอฝากข้อคิดดีๆนี้ให้ท่านผู้อ่านนะคะ
เพียงแก้เชือกของความสุขที่ได้ไปผูกกับสิ่งอื่นสิ่งใดเอาไว้ แล้วนำมาผูกไว้ที่หัวจิตหัวใจของเราเอง แล้วเราจะรู้ว่า ความสุขนั้นเกิดมาจากหัวจิตหัวใจเราเองไม่ใช่สิ่งอื่นสิ่งใด ที่ตัวเราไปคิดเอาเองว่าเป็นความสุข แต่แท้จริงแล้ว สิ่งอื่นสิ่งใดเหล่านั้นเป็นเพียงแค่ส่วนร่วมของความสุขเท่านั้น
JINNPUURINNจิ้นพุริ้น
1
ขอบพระคุณที่เข้ามาอ่านบทความนะคะ
ขอให้บทความนี้เป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย
หากมีสิ่งใดที่อ่านแล้วไม่สบายใจ
ทิ้งไว้ตรงนี้
หรือแสดงความคิดเห็นส่วนตัวได้นะคะ
ขอให้ทุกๆวินาทีนี้ท่านผู้อ่านได้พบความสุขที่แท้จริงนะคะ
รักให้เป็น และดูแลตนเองให้มากๆนะคะ
สุขภาพร่างกายแข็งแรงนะคะ
JINNPUURINN
จิ้นพุริ้น
4
🤍
โฆษณา