31 ก.ค. 2022 เวลา 07:17 • ประวัติศาสตร์
ศาสนาคริสต์โรมันคาทอลิกกับกรีกออร์โธดอกซ์ทะเลาะกันเรื่องอะไร ตอนที่ 4
ทุกวันนี้เราคุ้นเคยกันดีว่า ศาสนาคริสต์ในยุโรปจะมีความต่างกันระหว่างยุโรปตะวันตกและยุโรปตะวันออก คือ ชาวยุโรปตะวันตกมักจะนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ส่วนชาวยุโรปตะวันออกมักจะนับถือศาสนาคริสต์นิกายกรีกออร์โทดอกซ์
ในวันนี้เราจะมาดูกันว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เราจะมาดูกันว่าจุดแตกหักระหว่างโรมันคาทอลิกกับกรีกออร์โทดอกซ์มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
เรื่องราวมันอาจจะถือได้ว่าเริ่มต้นขึ้นจากจดหมายฉบับหนึ่ง
จดหมายฉบับนั้นเป็นจดหมายที่ Archbishop แห่ง Ohrid ที่มีชื่อว่า Leo เขียนบ่นถึงสิ่งที่เขาไปเห็นมาในพิธีมิสซาของโบสถ์ลาตินของชาวตะวันตก โดยในจดหมายเขาเขียนถึงสิ่งที่เขาไม่เห็นด้วยหลายอย่าง แต่ที่เน้นเป็นพิเศษคือ การที่โบสถ์ลาตินใช้ขนมปังที่ไม่ฟู หรือขนมปังที่ไม่ใส่ยีสต์ (ขนมปังไร้เชื้อ) ซึ่งเขาก็มองว่าวิธีการปฏิบัติแบบนี้มันผิดธรรมเนียมเพราะควรจะใช้ขนมปังที่ใส่ยีสต์
1
ในเวลาต่อมาจดหมายฉบับนี้ก็ไปตกอยู่ในมือของนักบวชคนหนึ่งที่มีชื่อว่าฮัมเบิรต์แห่งซิลวาแคดิดา (Humbert of Silva Candida) ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเลขาคนสนิทของพระสันตะปาปาลีโอที่ 9
ซึ่งเมื่อพระสันตะปาปาได้อ่านจดหมายฉบับนี้ที่ฮัมเบอรต์แปลเป็นภาษาลาตินให้ก็รู้สึกไม่พอใจมาก เพราะการวิจารณ์พิธีกรรมของโบสถ์ลาตินก็เหมือนเป็นการวิจารณ์พระสันตะปาปาผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนของพระเจ้าบนโลกมนุษย์
หลังจากนั้นก็มีการเขียนจดหมายโต้ตอบไปมาระหว่างพระสันตะปาปากับ Patriarch ของกรุงคอนสแตนติโนเปิล ที่มีพระนามว่า ไมเคิล เซรูลาเรียส (Michael Cerularius) แต่ยิ่งโต้เถียงด้วยเหตุผลว่าใครถูกก็ยิ่งทะเลาะกันมากขึ้น
จนในที่สุด Patriarch ของตะวันออกก็เลยสั่งปิดโบสถ์ที่ทำพิธีกรรมแบบตะวันตกหรือที่เรียกว่าโบสถ์ละตินที่อยู่ในกรุงคอนแสตนติโนเปิลทั้งหมด ทางพระสันตะปาปาเลยตอบโต้ด้วยการสั่งปิดโบสถ์กรีกที่อยู่ทางตะวันตกบ้าง
สำหรับท่านที่สงสัยตรงนี้ ผมขออธิบายเพิ่มนิดนึงครับ
แม้ว่าในช่วงเวลานั้นจะแยกเป็นทางฝั่งตะวันตกและตะวันออกแล้วก็ตาม แต่ทั้ง 2 ฝั่งก็จะมีโบสถ์ของอีกฝั่งกระจายอยู่ด้วย เช่น ทางยุโรปตะวันตกก็จะมีโบสถ์ของกรีก ทำพิธีกรรมแบบกรีกกระจายตัวอยู่บ้าง แต่จะไม่เยอะเท่าโบสถ์ทางลาติน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ายังคงอยู่ร่วมกันได้
แต่หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โบสถ์ลาตินจึงอยู่ทางตะวันออกได้ยากขึ้น เช่นเดียวกันโบสถ์กรีกก็อยู่ทางตะวันตกได้ยากเช่นกัน
เมื่อความขัดแย้งมันบานปลายมาถึงจุดนี้ ในที่สุดพระสันตะปาปาก็เลยส่ง Humbert of Silva Candida เดินทางไปเจรจากับทางตะวันออก ซึ่งการส่งฮัมเบิรต์ คนนี้ไปถ้าพระสันตะปาปาต้องการจะหาทางเจรจาเพื่อคืนดีกัน ก็ต้องบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะแม้ว่าฮัมเบิรต์ท่านนี้ จะเป็นคนที่มีความรู้แตกฉานเกี่ยวกับศาสนามาก โต้เถียงเก่ง พูดภาษากรีกได้ดี แต่นิสัยส่วนตัวเป็นคนที่ค่อนข้างแข็ง ไม่ค่อยประนีประยอม
1
หรือพูดง่าย ๆ คือไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีถ้าจะส่งคนไปเจรจาเพื่อสันติ
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ....
เมื่อฮับเบิรต์เดินทางไปที่กรุงคอนสแดนติโนเปิล ก็ได้รับการต้อนรับจากทางจักรพรรดิของอาณาจักร Byzantine เป็นอย่างดี แต่ Patriarch ไมเคิล เซรูลาเรียส (Michael Cerularius) ไม่ยอมมาพบ
และแม้ว่าจะรออยู่หลายวันท่าน Patriarch ก็ไม่มาพบสักที กว่าจะยอมให้เข้าพบก็ผ่านไปหลายสัปดาห์
ดังนั้นบรรยากาศเมื่อพบกันจึงไม่ค่อยดีนัก การพูดคุยจึงจบด้วยการทะเลาะกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นได้
1
เพราะวันหนึ่งขณะที่กำลังมีพิธีมิสซาในโบสถ์ฮาเกียโซเฟีย (Hagia Sophia) ซึ่งเป็นโบสถ์สำคัญที่สุดของกรุงคอนแสตนติโนเปิล ท่านฮัมเบิรต์ก็เปิดประตูเดินมุ่งตรงไปยังด้านหน้าที่กำลังมีพิธี จากนั้นก็โยนเอกสารฉบับนึงไปบนแท่นบูชาสำหรับทำพิธี แล้วก็ประกาศว่าท่านใช้อำนาจที่ได้รับจากพระสันะปาปาตามเอกสารนี้ขับไล่ (excommunicate) Patriarch ของกรุงคอนแสตนติโนเปิล ออกจากศาสนา
1
ซึ่งการกระทำนี้เทียบได้กับการประกาศสงครามแบบไว้หน้า ซึ่งแน่นอนว่าท่าน Patriarch เซรูลาเรียสโกรธมาก และให้ excommunicate ฮัมเบิรต์ออกจากศาสนาเช่นกัน
และนั่นก็คือจุดแตกหักระหว่างทางตะวันตกกับทางตะวันออก เพราะเท่ากับผู้นำระดับสูงของแต่ละฝ่ายต่างขับอีกฝ่ายหนึ่งออกจากศาสนา
แต่เป็นที่น่าสนใจว่าเหตุการณ์นี้กลับไม่ได้รับความสนใจหรือรู้สึกตื่นเต้นกับนักบวชในศาสนาหรือคนทั่วไปมากนัก คนทั้งสองนิกายยังเป็นมิตรกันเช่นเดิม ซึ่งจะต่างไปจากความแตกแยกที่เราเคยคุยกันไปก่อนหน้า คือเหตุการณ์ที่มีชื่อเรียกว่า Western schism ซึ่งเป็นการทะเลาะกันภายในนิกายโรมันคาทอลิกระหว่างพระสันตะปาปาหลายพระองค์ และต่างฝ่ายต่างก็ขับพระสันตะปาปาพระองค์อื่นออกจากศาสนา
1
เหตุการณ์นั้น คนส่วนใหญ่มองว่านี่เป็นปัญหาใหญ่มาก และสร้างความเดือดร้อนไปทั่วยุโรปตะวันตก ผู้คนก็รู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์เพราะกลัวจะเลือกข้างผิดแล้วจะตกนรก หลายประเทศทะเลาะกัน นักบวชในวัดเดียวกันยังเลือกข้าง
 
แต่เหตุการณ์ The Great Schism ในปี 1054 ที่เราคุยในตอนนี้ คนทั่วไปมองว่าเป็นเรื่องเล็กมาก ไม่น่าจะมีผลอะไร
แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่า Western schism ที่คนมองว่าเป็นเรื่องใหญ่กลับไม่ส่งผลกระทบระยะยาวมากนัก แต่เหตุการณ์ 1054 Schism สุดท้ายมันลากยาวมาเรื่อยๆ เป็นพันปี และมีผลให้เกิดความห่างกันมากขึ้นไปเรื่อยๆ
1
แม้ว่าในยุคปัจจุบัน คือในปี ค.ศ. 1964 ผู้นำทั้งสองนิกายจะสามารถสานความสัมพันธ์กันจนดีขึ้นได้ และในปี ค.ศ. 2003 ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายประกาศร่วมกันว่า Filioque จะไม่ใช่ปัญหาของทั้ง 2 ฝ่ายอีกต่อไป แต่ความแตกแยกที่ลากยาวมานาน ก็ทำให้ศาสนาคริสต์ของของจักรวรรดิ์โรมันตะวันกลายเป็น 2 นิกายที่แยกขาดจากกันอย่างสิ้นเชิง
ก็เป็นอันจบเรื่องนี้นะครับ สำหรับในซีรีส์หน้าที่ผมจะเล่าให้ฟัง เราจะไปดูหนึ่งในความพยายามจะคืนดีกันระหว่างศาสนาคริสต์ทางตะวันตกและตะวันออก จนนำไปสู่สงครามที่ปัจจุบันเรารู้จักกันในชื่อว่า ..... สงครามครูเสด
1
สำหรับใครที่อยากเชื่อมโยงเหตุการณ์เรื่องราวประวัติศาสตร์มากขึ้น สามารถย้อนกลับไปดูซีรีส์ที่เกี่ยวข้องตามลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
💻 Youtube [ซีรีส์รวม] ทำไมอาณาจักรโรมันจึงแตกเป็นสองส่วน
🔗 ตอนที่ 1-5 : https://bit.ly/3P0uwHt
 
🎧 Podcast ทำไมอาณาจักรโรมันจึงแตกเป็นสองส่วน
🔗 ตอนที่ 1 : https://bit.ly/3apN19f
 
🔗 ตอนที่ 2 : https://bit.ly/3c4kmHb
 
🔗 ตอนที่ 3 : https://bit.ly/3axov5R
 
🔗 ตอนที่ 4 : https://bit.ly/3nTyfL6
 
🔗 ตอนที่ 5 : https://bit.ly/3yVsqTD
💻 Youtube [ซีรีส์รวม] ศาสนาคริสต์จากลัทธิเล็กๆ กลายมาเป็นศาสนาที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร
🔗 ตอนที่ 1-7 : https://bit.ly/3IuBFNR
 
🎧 Podcast ศาสนาคริสต์จากลัทธิเล็กๆ กลายมาเป็นศาสนาที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร
🔗 ตอนที่ 1 : https://bit.ly/3asLmjb
 
🔗 ตอนที่ 2 : https://bit.ly/3NXSIsv
 
🔗 ตอนที่ 3 : https://bit.ly/3c685ll
 
🔗 ตอนที่ 4 : https://bit.ly/3IsMZd0
🔗 ตอนที่ 5 : https://bit.ly/3Is627k
 
🔗 ตอนที่ 6 : https://bit.ly/3OWWMuv
🔗 ตอนที่ 7 : https://bit.ly/3AFpxaE
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ใครชอบอ่านบทความคอมเมนต์บอกกันใต้โพสต์ได้เลยนะคะ
และสำหรับบทความซีรีส์นี้ แอดมินขอทิ้งท้ายไว้ด้วยการแแนะนำหนังสือ 2 เล่มนี้ของพี่หมอเอ้วสักหน่อยนะคะ
📖 ทำไมแฮมเบอร์เกอร์จึงไม่มีแฮม 🍔
📖 ทำไมเราเลี้ยง pig แต่กิน pork 🐷
ทำไมภาษาไทยเราพูดว่าเลี้ยงหมูแล้วเรากินเนื้อหมู แต่ทำไมภาษาอังกฤษเราเลี้ยง Pig แต่เราต้องกิน Pork ภาษาไทยเราเลี้ยงวัวแล้วเราก็กินเนื้อวัว ในภาษาอังกฤษเราเลี้ยง Cow แต่เราต้องกิน Beef ภาษาไทยเราเลี้ยงแกะแล้วเราก็กินเนื้อแกะ ในภาษาอังกฤษเราเลี้ยง Sheep แต่เราต้องกิน Lamb หรือ Mutton? คำถามเหล่านี้สามารถอธิบายได้ถ้าเราเข้าใจที่มาของคำศัพท์เหล่านี้ หนังสือ 2 เล่มนี้จะพาคุณย้อนเวลาเดินทางกลับไปในโลกอดีตเพื่อหาคำตอบเหล่านี้พร้อมกันในเล่ม!
กดสั่งซื้อแบบแพ็กคู่ได้เลย ที่
👉 Line My Shop : https://bit.ly/3b77FL5
โฆษณา