28 ก.ค. 2022 เวลา 21:47 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เปลือกผลมังคุดเป็นวัตถุดิบเหลือใช้ (by-product) จากโรงงานอุตสาหกรรมน้ำผลไม้ แต่สารสกัดจากเปลือกผลมังคุดมีคุณค่าทางการแพทย์และเภสัชมาก เนื่องจากสารสกัดจากเปลือกผลมังคุดอุดมไปด้วยสารกลุ่มแซนโทน (xanthone)
โดยเฉพาะสารแอลฟา-แมงโกสติน(a-mangostin) ซึ่งมักถูกใช้เป็นสารมาตรฐานในการควบคุมคุณภาพสารสกัดจากเปลือกผลมังคุดมีรายงานว่าสารสกัดจากเปลือกผลมังคุดมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยามากมาย เช่น ฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ ต้านการอักเสบ ต้านออกซิเดชัน และสมานแผลดังนั้น
เช่น ฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ ต้านการอักเสบ ต้านออกซิเดชัน และสมานแผลดังนั้น จึงนิยมนำสารสกัดจากเปลือกผลมังคุดมาใช้ในอุตสาหกรรมยาและเครื่องสำอาง มีรายงานว่า ไดคลอโรมีเทน (dichloromethane) เป็นตัวทำละลายที่ดีที่สุดในการสกัดสารแอลฟา-แมงโกสติน อย่างไรก็ตาม ในอุตสาหกรรมดังกล่าวไม่สามารถใช้ไดคลอโรมีเทนเป็นตัวทำละลายในการเตรียมสารสกัดได้ เนื่องจากมีความเป็นพิษต่อผู้บริโภค
ในปัจจุบัน “ตัวทำละลายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (green solvent)” จึงได้รับความสนใจในการนำมาใช้เตรียมสารสกัดสมุนไพร เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดพิษในขณะเตรียมสารสกัด และสารสกัดที่
ในการเตรียมสารสกัดเปลือกผลมังคุดโดยใช้องค์ประกอบในตำรับยาครีม ได้แก่ ไอโซโพรพิล เมอริสเทรต (isopropyl myristate) และ เซตทิล แอลกอฮอล์ (cetyl alcohol)เพื่อเป็นตัวทำละลายในการสกัดสาร และสกัดสารด้วยเครื่องไมโครเวฟ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการสกัดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สารทั้งสองชนิดนี้มีความมีขั้วใกล้เคียงกับไดคลอโรมีเทน แต่มีความปลอดภัยและมีราคาที่ถูกกว่า
สารสกัดที่ได้จากวิธีการนี้มีสารแอลฟา-แมงโกสตินความเข้มข้นไม่น้อยกว่า 2.0% w/w และสามารถนำมาใช้เตรียมยาได้โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการระเหยตัวทำละลายออก ทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิต
และได้นำสารสกัดดังกล่าวมาใช้เตรียมยาในรูปแบบยาเจลเพื่อใช้สำหรับรักษาแผลอักเสบในช่องปาก โดยยาเจลที่เตรียมได้มีความเข้มข้นของสารแอลฟา-แมงโกสติน 0.1-0.2% w/w และสามารถควบคุมคุณภาพของยาให้มีสารออกฤทธิ์แอลฟา-แมงโกสติน ในปริมาณคงที่เหมือนกันทุกครั้งที่ผลิต
โฆษณา