จากเด็กกำพร้าที่เกิดในคลองเตย ทำผิดพลาดซ้ำๆ ในชีวิตมาหลายครั้ง ในที่สุด เขาก็กลับตัว กลับใจได้ จนวันนี้ กลายเป็นนักเตะไทยคนล่าสุดที่ได้ย้ายไปเล่นในลีกยุโรป
นี่คือเรื่องราวของ โอลัคซอน เอ แทมบา เยาวชนทีมชาติไทยชุด u-19 ที่เคยมีข่าวฉาวมานับไม่ถ้วน และต้องเจ็บกับการกระทำของตัวเองมาหลายปี แต่ในวันนี้เขาปีนขึ้นมาจากหุบเหวได้แล้ว
เด็กไทยทำไมชื่อโอลัคซอน? คำตอบคือ คุณพ่อของเขาเป็นคนไลบีเรีย ส่วนคุณแม่เป็นคนไทย ตอนแรกทั้งคู่ก็รักกันดี แต่พอโอลัคซอนอายุ 12 ขวบ พ่อแม่ก็แยกทางกัน ทำให้คุณแม่ต้องกลายเป็นซิงเกิ้ลมัม เลี้ยงลูกด้วยตัวเองคนเดียว
บ้านของโอลัคซอน อาศัยอยู่ในเขตชุมชนคลองเตย คุณแม่ทำอาชีพมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต้องทำงานอย่างหนักทั้งวันทั้งคืน ได้เงินเฉลี่ยวันละ 500 บาท เพื่อเอามาใช้ชีวิตและเลี้ยงลูก
โอลัคซอน ไม่มีพ่อคอยให้คำแนะนำ ส่วนแม่ก็ไม่เคยได้คุยเป็นเรื่องเป็นราว เพราะแค่ทำงานก็เหนื่อยสาหัสแล้ว เขาจึงเติบโตมาด้วย 2 อย่าง นั่นคือ เพื่อนๆ ที่คลองเตย และ ฟุตบอล
ด้วยความที่เชื้อสายมาจากคนแอฟริกา ทำให้โอลัคซอนมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง และมีความเร็วที่จัดจ้านมาก เขาโดดเด่นจนได้รับทุนการศึกษาจากโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ (ป.5 - ป.6) ก่อนที่จะได้โอกาสย้ายไปโรงเรียนปทุมคงคา (ม.1) และไปคัดตัวเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (ม.2) เป็นรุ่น OSK 140
โอลัคซอนในช่วงหนึ่ง ถือว่าอนาคตสดใสมาก เขาได้เป็นกัปตันทีมชาติชุด u-16 และเตรียมกลายเป็นนักเตะไทยลีกในอนาคต ดูแล้วเส้นทางน่าจะไปได้สวยจริงๆ
ไอดอลของเขาคือโรนัลดินโญ่ ส่วนตำแหน่งที่ถนัดที่สุดคือมิดฟิลด์ตัวรุก แต่สามารถขยับไปยืนริมเส้นด้านซ้ายได้ดีด้วย โค้ชที่เคยร่วมงานด้วยบอกว่า เขาเล่นในสไตล์ของซาดิโอ มาเน่ มีความเร็ว และบอดี้แข็งแกร่งเกินเด็กรุ่นเดียวกัน
ถ้าดูถึงตรงนี้ ชีวิตของโอลัคซอน ก็เหมือนจะไปได้ดี แต่ปัญหาคือ ด้วยการที่เขาไม่มีใครคอยอบรมหรือให้คำปรึกษาใดๆ ทำให้การตัดสินใจต่างๆ จึงมักจะผิดมากกว่าถูก ยิ่งการรายล้อมด้วยกลุ่มเพื่อนที่เกเรแถวบ้าน ยิ่งทำให้เขาทำพลาดบ่อยขึ้น
โอลัคซอนเล่าว่า "ตื่นมา ผมก็มีเพื่อนมารอหน้าบ้านแล้ว แต่ละวันเราจะชวนกันไปทำอะไรสักอย่างอยู่ตลอด"
"อยู่คลองเตยถ้าคนมันรักดี มันก็ดีครับ แต่ต้องยอมรับว่าสิ่งจูงใจให้ไขว้เขวทำไม่ดีมันมีเยอะ เวลาอยู่ในกลุ่มเพื่อนถ้าเขาทำแบบนี้หมด แล้วเราไม่ได้ทำตาม มันก็ดูเชยในกลุ่มเพื่อน"
ด้วยความเป็นวัยรุ่นที่คิดน้อย ทำให้เขาเฮโลทำอะไรตามเพื่อน และสุดท้ายทำผิดกฎหมายไป 4 ครั้ง ครั้งแรก เกิดขึ้นในปี 2019 ตอนเขาอายุ 16 ปี โดยไปขโมยของที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง ร่วมกับเพื่อน ก่อนโดนทางร้านจับได้ แจ้งตำรวจมาจัดการ
ด้วยความที่ยังเป็นเด็กอายุ 16 ปี และเป็นความผิดครั้งแรก ศาลตัดสินให้เขาไปทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อชุมชน เป็นเวลา 30 ชั่วโมง โอลัคซอนเล่าว่า "ผมต้องไปลอกท่อน้ำ 3 วันเต็มๆ ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องมาทำอะไรแบบนี้"
เมื่อมีความผิดครั้งแรก ก็มีครั้งที่สอง เมื่อเขากับกลุ่มเพื่อนไปทะเลาะวิวาท ที่ร้านเหล้าแถวราชเทวี จนคู่กรณีบาดเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาล 20 วัน
จากนั้นตามด้วยครั้งที่ 3 ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2020 ตอนนั้นประเทศไทยประกาศเคอร์ฟิว เพราะโควิดระบาดหนัก ห้ามออกจากบ้าน 4 ทุ่ม ถึง ตี 4 แต่โอลัคซอนกับแก๊งเพื่อน 6 คน ฝ่าเคอร์ฟิวออกมาขี่มอเตอร์ไซค์เล่น จนโดนตำรวจจับตัวเอาไว้ได้
3 ครั้งแรก ก็ว่าหนักแล้ว มาเจอครั้งที่ 4 ที่เป็นข่าวใหญ่มาก ในวันที่ 11 เมษายน 2020 โอลัคซอนที่ไม่มีใบขับขี่ ขับรถยนต์ มากับเพื่อน 4 คน ที่ถนนสุขุมวิท และเขาขับรถฝ่าไฟแดง จนไปชนมอเตอร์ไซค์ที่ขับมาตามทางปกติ จนคู่กรณีกระเด็น
โอลัคซอนไม่ยอมลงมาดูคู่กรณี แล้วขับหนีไปเลย แต่สุดท้ายมาโดนจับได้ เพราะมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ชัดเจน
ผู้เสียหายเรียกร้องขอความรับผิดชอบ สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่พังเสียหายยับ และค่ารักษาอาการบาดเจ็บ แต่เรื่องยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่ เมื่อแม่ของโอลัคซอน ไปบอกผู้เสียหายว่า "อยากได้เงินก็ไปฟ้องเอาเอง"
เมื่อเกิด 3 คดีติดต่อกันในช่วงเวลาไม่ถึง 1 ปี ทำให้ชื่อเสียงของโอลัคซอน ฉาวโฉ่เป็นอย่างมาก และไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะเหตุนี้หรือไม่ แต่ทีมชาติไทยชุดเยาวชนก็ไม่เคยเรียกตัวเขาติดทีมอีกเลย
เมื่อมีเรื่องชนแล้วหนี โอลัคซอนโดนขุดคุ้ยถึงนิสัยส่วนตัวอื่นๆ ด้วย คนรอบตัวเล่าว่า เขาไม่ดูแลสุขภาพตัวเองเลย โอลัคซอนยังแอบสูบบุหรี่อยู่เรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ เป็นเรื่องต้องห้ามของนักกีฬา ขณะที่เรื่องโภชนาการก็ไม่เคยสนใจ ไม่เคยดื่มนม ไม่กินของที่มีประโยชน์ สารพัดข้อเสียที่โผล่ออกมาไม่หยุด
ขณะที่ผลการเรียนที่สวนกุหลาบ ก็ย่ำแย่มากๆ ได้เกรดเฉลี่ย 1 กว่าๆ โอลัคซอนเล่าว่า "ตอนนั้นการเรียนผมไม่เอาเลย เล่นแต่ฟุตบอลอย่างเดียว สุดท้ายผมเลยต้องออกจากโรงเรียนสวนกุหลาบมา แล้วเริ่มต้นเส้นทางอาชีพฟุตบอล ทั้งๆ ที่อายุแค่ 17 ปีเท่านั้นเอง"
ปลายเดือนเมษายน 2020 โอลัคซอนตามหาสโมสรฟุตบอลอาชีพลงเล่น แต่กลับไม่มีใครให้โอกาสเขาเลยสักทีม ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก เพราะตามหลักแล้ว ถ้าคุณมีดีกรีกัปตันทีมชาติเยาวชน ต้องมีสโมสรใหญ่ๆ พร้อมจะเซ็นสัญญานักเตะอาชีพอยู่แล้ว
สิ่งที่พอจะอธิบายได้ก็คือ การเกิด 4 คดีติดๆ กัน สโมสรจึงรู้สึกแหยงๆ กลัวว่าจะเป็นเด็กพฤติกรรมไม่ดี เกเร แล้วกลายเป็นพลังลบกับสโมสร ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยงเซ็นสัญญามาอยู่ด้วย
ตอนนั้นโอลัคซอนมืดแปดด้าน ไม่รู้จะทำยังไงดี เขาจึงไปปรึกษาบริษัทเอเยนต์นักกีฬา ชื่อ Pro24 Agency ซึ่งเป็นเอเยนต์ของ ศุภชัย ใจเด็ด, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ และ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะช่วยรับเขาเป็นลูกค้า และช่วยหาทีมลงเล่นให้ที
นพคุณ ทาทิพย์ ประธานบริษัท Pro24 Agency เล่าว่า "โอลัคซอนเป็นนักเตะที่มีคุณภาพอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือเรื่องภาพลักษณ์ ดังนั้นผมจึงแนะนำเขาไปว่า ถ้าหากร่วมงานกันจริงๆ ขั้นแรกสุดเลย ต้องยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำทุกอย่าง"
โอลัคซอน จึงยอมรับความผิดทุกข้อหา และขอชดใช้ค่าเสียหายให้ในคดีวิวาทเป็นเงิน 3 แสนบาท เขาสัญญาว่า ต่อให้วันนี้จะยังไม่มีเงิน แต่ก็จะค่อยๆ ผ่อนจ่ายชำระให้ครบแน่นอน
คดีนี้จบแล้ว ศาลไม่ได้ส่งเขา เข้าสถานดัดสันดาน แต่ให้ทยอยใช้หนี้จนครบ และต้องเข้ามารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่อย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ เพื่อตรวจสอบพฤติกรรม ว่าไม่ได้ทำอะไรที่เกเรอีก
ตามกลยุทธ์ของเอเยนต์ ทำให้ชื่อเสียงของโอลัคซอนดีขึ้นมาบ้าง และในที่สุดก็มีสโมสร ที่ลองให้โอกาสเขา นั่นคือ สุโขทัย เอฟซี โดยโค้ชอั๋น-สุรพงษ์ คงเทพ เห็นแววที่ซ่อนอยู่ จึงลองเซ็นสัญญาดู 2 ปี ถ้าหากปั้นเด็กขึ้น ก็อาจเป็นดีลที่คุ้มสุดๆ ก็ได้
แม้จะได้สโมสรเล่นแล้ว แต่ปัญหาคือ โอลัคซอน ก็ไม่มีวินัยอีกครั้ง เมื่อขาดซ้อมอยู่บ่อยๆ เจ้าตัวอ้างว่า ต้องมารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ ในคดีชนแล้วหนีที่กรุงเทพ
แต่บางครั้งก็หายไปดื้อๆ ซึ่งสโมสรก็ไม่รู้ว่าไปไหนกันแน่ สุดท้าย เมื่อไม่มาซ้อมตามกำหนด สุโขทัยจึงฉีกสัญญาทิ้ง โอลัคซอนกลายมาเป็นนักเตะไร้สังกัดอีกครั้ง
คดีติดตัวยังมี แถมยังไม่มีวินัย ชื่อเสียงฉาวไปทั่ว คราวนี้เอเยนต์เองก็จนปัญญาจะช่วยอะไรแล้ว ขณะที่เรื่องจ่ายหนี้ให้คู่กรณี โอลัคซอนก็ต้องจ่ายต่อไปทุกเดือน ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือก ต้องไปขับ Grab เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพก่อน
จากกัปตันเยาวชนทีมชาติ กลายมาเป็นคนขับ Grab Food เรียกได้ว่าชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ
จริงอยู่อาชีพ Grab ก็สุจริต และทำดีๆ ก็รวยได้เหมือนกัน แต่หลายคนก็รู้สึกเสียดายในฝีเท้าของโอลัคซอน คือคุณควรจะไปได้ไกลในเส้นทางกีฬามากกว่านี้นะ
จุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดในชีวิต ที่ทำให้โอลัคซอนเริ่มคิดได้ คือระหว่างขับ Grab ในช่วงปี 2021 เขาไปเจอแฟนสาวที่อายุมากกว่า 4 ปี ซึ่งเปิดร้านขายเฟรนช์ฟรายเล็กๆ ทั้งคู่รับออร์เดอร์กันไปมา หลายรอบ ก็เริ่มเปิดใจคุยกันแล้วคบกันในที่สุด
หลังคบกันไม่กี่เดือน ด้วยความที่ไม่ได้ป้องกัน ทำให้ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ นั่นแปลว่า โอลัคซอนกำลังจะกลายเป็นพ่อคนในช่วงอายุไม่ถึง 19 ปีด้วยซ้ำ
ถึงตรงนั้นเขาเลยได้สติขึ้นมา ว่าจะปล่อยให้ชีวิตไปเรื่อยๆ แบบนี้ไม่ได้แล้ว กำลังจะมีเด็กคนหนึ่งเกิดขึ้นมาบนโลก ดังนั้นเขาจะเรียกตัวเองว่าเป็นพ่อที่ดีได้หรือ ถ้ายังทำตัวไม่เอาไหนแบบนี้
มันยังไม่สายเกินไปที่จะกลับมาใช้ชีวิตอีกครั้งให้ดี เขายังมีฝีเท้าที่ดีอยู่ สิ่งเดียวที่ทำ คือต้องมีวินัยอย่างมากในสนาม ถ้าเขาได้โอกาสอีกครั้ง ก็สัญญาว่าจะไม่ทิ้งมันให้สูญเปล่า
โอลัคซอนกล่าวว่า "ผมรู้ว่าความลำบากมันทรมาน และเมื่อจะมีลูกแล้ว ผมก็ไม่อยากให้ลูกต้องมาลำบากเหมือนผม"
เมื่อรู้ว่าแฟนตั้งครรภ์ โอลัคซอน ไปขอร้องเอเยนต์ ให้ลองช่วยหาทีมให้ที เขาแค่อยากเล่นฟุตบอลอีกครั้ง เขาอยากมีเงินในการดูแลลูก ดูแลแฟน และ ใช้หนี้สินที่คั่งค้างไว้ ซึ่งบริษัทเอเยนต์ คราวนี้รับรู้ได้ถึงความตั้งใจจริงของนักกีฬา จึงลองช่วยหาทีมอีกสักรอบ
เดือนมิถุนายน 2021 โค้ชอั๋น-สุรพงษ์ คงเทพ อดีตผู้จัดการทีมสุโขทัย ได้เซ็นสัญญากับสโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งเลื่อนชั้นมาสู่ T1 ซึ่งทาง Pro24 Agency จึงแบกหน้าไปขอโค้ชอั๋นอีกครั้ง ว่าลองพิจารณาโอลักซอนอีกสักรอบได้ไหม
โค้ชอั๋นนั้น รู้ถึงความสามารถของโอลัคซอนดี แต่ก็ยังเจ็บใจจากความไม่มีวินัยของนักเตะในช่วงที่อยู่สุโขทัย เขาจึงคิดหนักมาก ก่อนสุดท้ายจะยื่นเงื่อนไขว่า ถ้านักเตะมาซ้อม 3 เดือนได้ โดยไม่ขาด ไม่สาย จะพิจารณายื่นสัญญาอาชีพให้
นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของโอลัคซอนแล้วจริงๆ ดังนั้นเขาจึงทุ่มเทสุดความสามารถ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว นี่คือ 3 เดือนเต็ม ที่เจ้าตัวทำงานหนักจริงๆ
นิติพงษ์ ยวนตระกูล ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด ของเชียงใหม่ ยูไนเต็ด เล่าว่า "สิ่งแรกที่เราเห็นน้องโอลัคซอน คือเป็นคนที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรงด้วยธรรมชาติ เขามีความพิเศษในตัว ที่แค่ดู คุณก็รู้ได้ว่าจะไปได้ไกลแน่ แต่พอน้องลงซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกจริงๆ เขาอ้วกออกมาเลย เหมือนร่างกาย ยังต้องใช้เวลาปรับตัวกับเกมฟุตบอลที่เข้มข้นอยู่"
ช่วงที่ซ้อมกับเชียงใหม่ สโมสรไม่ได้จ่ายเงินเดือนให้ เพราะยังไม่ได้เซ็นสัญญาอะไรกัน ในเวลานั้น แฟนของโอลัคซอนที่ท้องอยู่ เธอตัดสินใจไม่ยอมพัก แต่เปิดร้านขายเฟรนช์ฟรายต่อไป โดยได้เงินเท่าไหร่ ก็โอนแบ่งมาให้โอลัคซอนไว้ใช้ในช่วง 3 เดือนนี้
จุดนั้น ยิ่งทำให้โอลัคซอนรู้ว่า เขาต้องทำเพื่อใคร เพื่อแม่ เพื่อแฟน เพื่อลูกที่อยู่ในท้อง แม้จะซ้อมหนัก จนร่างกายรับไม่ไหว เขาก็ยืนหยัดสู้ จะล้มไม่ได้เด็ดขาด
และแล้ว 3 เดือนอันยาวนานก็ผ่านไป โอลัคซอนก็ทำได้ เขาซ้อมได้ดี โดยไม่สาย ไม่ขาด ทำให้สโมสรเห็นถึงความตั้งใจ รู้ว่าคราวนี้ไม่ได้ทำเล่นๆ ดังนั้นเชียงใหม่ ยูไนเต็ด จึงเซ็นสัญญาโอลัคซอน ทั้งหมด 4 ปีเต็ม ด้วยค่าจ้าง 10,000 บาท ต่อเดือน พร้อมด้วยโบนัสชนะ นัดละ 3,000 บาท แถมด้วยที่พักและอาหารฟรีทั้งหมด
10,000 บาทอาจจะดูไม่มากนัก แต่เอเยนต์แนะนำให้โอลัคซอนรับไปก่อน โดยอธิบายว่า สิ่งสำคัญสำหรับเขาตอนนี้คือโอกาสลงสนาม ถ้าเล่นดี เดี๋ยวเงินก็ได้เพิ่มเอง อย่าเอารายได้เป็นตัวนำชีวิต คว้าโอกาสลงเล่นไว้ก่อนดีกว่า สุดท้ายโอลัคซอนเชื่อเอเยนต์ จึงเซ็นสัญญา 4 ปีในที่สุด
นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 ชีวิตของโอลัคซอน กลับมาอยู่ขาขึ้นอีกครั้ง เขาถูกเรียกติดทีมชาติชุด u-19 ตามด้วยถูกเชียงใหม่ ส่งไปให้เชียงราย ซิตี้ (T3) ยืมตัวครึ่งปี และที่เชียงรายโอลัคซอนเล่นได้ดี สร้างความประทับใจให้ทุกคนที่พบเห็นอย่างมาก
การมาอยู่เชียงใหม่ และเชียงราย ทำให้เขาโฟกัสทุกอย่างที่ฟุตบอลอย่างเดียว พอไม่ต้องมีเรื่องอะไรให้ไขว้เขว ทักษะของเขาพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด จน "ซัลบา" เรียกตัวเขาติดทีมชาติ u-19 ไปลุยศึกชิงแชมป์อาเซียนที่อินโดนีเซียด้วย
แต่เขาจำใจต้องปฏิเสธการไปเล่นในรายการดังกล่าว เนื่องจากในเดือนมิถุนายน 2022 สโมสรเมตาลัค (Metalac) ทีมจากลีกเซอร์เบีย ที่เพิ่งตกชั้นจากลีกสูงสุด (SuperLiga) มาเล่นลีกรอง (Serbian First League) ติดต่อเข้ามา แสดงความ "สนใจ" ในตัวโอลัคซอน
สโมสรเมตาลัค ที่เพิ่งตกชั้น ต้องการหาตัวรุกดาวรุ่ง ที่มีค่าเหนื่อยไม่แพงเกินไปนัก และเมื่อมีโอกาสได้เห็นฟอร์มการเล่นของโอลัคซอน จากคลิปการเล่นทีมชาติ ก็เริ่มชอบฝีเท้า ก่อนจะไปไล่ดูฟอร์มกับสโมสรเชียงราย ซิตี้ และเมื่อดูแบบ Full Match จนแน่ใจแล้วว่า นี่เป็นเด็ก 19 ปีที่มีของ จึงติดต่อกับบริษัทเอเยนต์ ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะดึงตัวนักเตะมาร่วมทัพที่เซอร์เบียด้วย
ซวอนโก้ เยเรโมวิช ผู้อำนวยการสโมสรเมตาลัค บอกว่าโอลัคซอนมีคุณสมบัติจะเล่นในยุโรปได้ เพราะมีความเร็วจัด และกล้ามเนื้อแข็งแรง ดังนั้นจึงยื่นข้อเสนอขอยืมตัว 1 ปีกับเชียงใหม่ ยูไนเต็ด และมีอ็อปชั่นซื้อขาดอยู่ที่ 1 แสนดอลลาร์ (3.6 ล้านบาท)
ความจริง โอลัคซอนยังมีสัญญากับเชียงใหม่ ยูไนเต็ดอีก 3 ปีกว่า ถ้าเชียงใหม่จะเก็บนักเตะเอาไว้เพื่อช่วยให้เลื่อนชั้นไปเล่น T1 ก็เป็นสิทธิ์อันชอบธรรม แต่พิชัย เลิศพงศ์อดิศร ประธานสโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ด เมื่อเห็นโอกาสที่เด็กจะได้ก้าวไปเล่นยุโรป ก็ปล่อยให้ยืมตัวฟรีๆ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอะไรเลย
เมื่อเชียงใหม่ตกลง คราวนี้ เมตาลัค ก็ต้องมาเจรจากับตัวนักเตะเรื่องค่าเหนื่อย โดยสโมสรยื่นข้อเสนอว่า จะมีที่พักและอาหารให้โอลัคซอนกินอยู่ฟรี พร้อมกับให้ค่าจ้างเดือนละ 3,600 ดอลลาร์ (131,000 บาท) และมีโบนัสลงเล่น กับโบนัสยิงประตูแยกต่างหาก
เซอร์เบีย มีค่าครองชีพใกล้เคียงกับประเทศไทย ดังนั้นการได้เงินเดือนขนาดนี้ ถ้าหากเก็บหอมรอบริบดีๆ เขาก็สามารถมีเงินเก็บเป็นหลักแสนได้สบายๆ สามารถดูแลครอบครัวของตัวเองได้อย่างแน่นอน
จากคนที่เคยได้เงินเดือน 10,000 อยู่ๆ กระโดดมาได้รับ 131,000 บาท ในเวลาแค่ปีเดียว คือถ้าคุณได้เงินเดือนมากกว่าเดิม 13 เท่า มันแทบไม่มีอะไรต้องคิดเลย
แม้โอลัคซอนจะไม่รู้ภาษาเซอร์เบีย แถมในทีมเมตาลัคก็ไม่มีนักบอลเอเชียอยู่ด้วยแม้แต่คนเดียว แต่เขาตัดสินใจตอบตกลงอย่างรวดเร็ว จะดีจะร้ายมันก็เป็นเงินเป็นทอง และเป็นโอกาส ที่จะได้ทดสอบตัวเองดู ว่าดีพอไหม กับเกมฟุตบอลระดับยุโรป
โอลัคซอนกล่าวว่า "ชีวิตผมที่มืดมิดมานาน ตอนนี้เจอแสงสว่างแล้ว และผมจะไม่กลับไปอยู่จุดเดิมอีกครับ เมื่อก่อนผมเป็นเด็กไม่ดี อันนี้ยอมรับเลย และผมก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย แต่วันนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว"
ขั้นตอน ณ เวลานี้ โอลัคซอน รอวีซ่าการทำงานจากสถานทูตเซอร์เบียที่จาการ์ตา (เพราะที่ไทยไม่มีสถานทูตเซอร์เบีย) แต่ก็เชื่อว่า จะได้วีซ่าแบบไม่มีปัญหา ระหว่างนี้เขาก็เรียนภาษาเซอร์เบียทางออนไลน์ไปด้วย เพื่อให้พอสื่อสารพื้นฐานกับเพื่อนร่วมทีมได้
เรายังไม่รู้ว่าอนาคตของโอลัคซอนจะเป็นอย่างไร อาจจะแป้ก หรืออาจจะเปรี้ยงก็ได้ แต่การได้เห็นคนไทย ได้เซ็นสัญญากับสโมสรในลีกเซอร์เบีย แม้จะเป็นแค่ดิวิชั่น 1 ไม่ใช่ลีกสูงสุด แต่ก็เป็นอะไรที่น่าทึ่งพอตัวทีเดียว บางทีโอลัคซอนอาจจะไปบุกเบิกตลาดใหม่ๆ ให้กับนักเตะไทยคนอื่นก็ได้ ใครจะรู้
เรื่องราวของโอลัคซอน เอ แทมบา เด็กหนุ่มวัย 19 ปี จากคลองเตย ที่มีอดีตอันไม่สวยงามนัก ก็จบลงตรงนี้ ล่าสุดลูกสาวของเขาคลอดแล้วเรียบร้อย โดยตั้งชื่อว่าน้อง "ออเรนจ์" ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้เขาสู้สุดชีวิตมากกว่าเดิม
จริงอยู่ว่า จุดเริ่มต้นของเขาอาจจะไม่น่าประทับใจ ทั้งเกเร ทั้งมีคดี แต่อย่างน้อย เขาก็พยายามปรับปรุง เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น และเพื่อให้ตัวเองกลายเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพอย่างที่ควรจะเป็น
ผิดพลาดอย่างไรมา ถ้าสุดท้ายคิดได้ สำนึกในเรื่องที่ตัวเองทำจริงๆ มันก็ยังไม่มีอะไรสายเกินไป
ติดลบมาจากไหน ไม่สำคัญ แต่ถ้ากล้าพอที่จะนับหนึ่งใหม่ตั้งแต่วันนี้ โอกาสไปถึงความฝัน ก็ยังเป็นไปได้เสมอ
#EveryoneDeservesASecondChance
- 38
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
