Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Reporter Journey
•
ติดตาม
31 ก.ค. 2022 เวลา 14:18 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
‘บุพเพสันนิวาส 2’ กับกลยุทธ์ความสำเร็จ
หนังที่ทำมาเพื่อคนดูทุกเพศทุกวัยโดยไม่แบ่งแยก
ความกลมกล่อมของภาพยนตร์ผสมละคร
ออกตัวก่อนว่าเนื้อหาในบทความนี้จะไม่มีการสปอยด์เนื้อเรื่องในภาพยนตร์อย่างแน่นอน ฉะนั้นอ่านได้อย่างสบายใจตั้งแต่ต้นจนจบ
ต้องยอมรับว่านี่คือหนึ่งปรากฎการณ์ของสังคมไทยทั้งในด้านธุรกิจภาพยนตร์ และกระแสฟีเวอร์ของผู้คนที่ไม่ได้เห็นมานาน หลังจากที่ละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 สร้างบรรยากาศห้างแตก แต่งไทย โกยเรทติ้งถล่มทลาย และเห่อวัฒนธรรมกันมาแล้วเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งทำให้กระแสศิลปะวัฒนธรรมไทย ถูกพูดถึงและเรียนรู้ในสังคมวงกว้างเป็นอย่างสูง
มาวันนี้การกลับมาของ “บุพเพสันนิวาส 2” ในรูปแบบภาพยนตร์ ซึ่งอำนายการสร้างโดยค่ายหนังอันดับหัวแถวของประเทศอย่าง "GDH" และค่ายละครที่เป็นผู้สร้างปฐมบทตำนานบุพเพฯ อย่าง "บอร์ดคลาส ไทยเทเลวิชั่น" จับมือกันสร้างคอนเทนต์นี้ขึ้นมา และเรียกคู่พระนาง “โป๊ป ธนวรรธน์” และ “เบลล่า ราณี” ให้กลับมาคู่กันอีกครั้ง ซึ่งในแง่ของการแสดงก็ต้องยอมรับว่าฝีมือของทั้งสองคนนั้นไม่มีอะไรต้องกังวล
รวมทั้งนักแสดงคนอื่นๆ อีกมากมายที่มาร่วมสร้างสีสัน เต็มอิ่มจุใจตลอดเกือบ 3 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไทยที่ใช้เวลาฉายยาวมากเรื่องหนึ่ง
แน่นอนว่ากระแสตอบรับของภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็มีทั้งบวกและลบ แต่กระนั้นก็กำลังเร่งเครื่องเต็มสูบทั้งกวาด ทั้งโกย ทั้งรวบรายได้ใกล้จะแตะ 200 ล้านบาทเข้าไปเต็มที แม้จะเข้าฉายในโรงได้เพียงแค่ 3 วันเท่านั้น ซึ่งไม่เคยมีภาพยนตร์ไทยเรื่องไหนทำสถิติได้แบบนี้มาก่อน
กระแสของบุพเพสันนิวาส 2 กำลังเป็นที่ถูกพูดถึงแบบปากต่อปากว่า ไปดูเถอะ สนุกดี ไม่เสียดายเงินแน่นอน ทำให้รอบการฉายของโรงภาพยนต์ทั่วประเทศเต็มไปด้วยหนังเรื่องนี้ และหลายรอบ หลายโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศเก้าอี้เต็มเกือบทั้งโรงทุกรอบการฉาย ถ้าไม่เรียกว่าเป็นปรากฎการณ์จะให้เรียกว่าอะไรได้
ขณะที่สื่อสังคมออนไลน์มีการเล่าเรื่องราวของผู้ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าหลายบ้าน หลายครอบครัว หอบลูก จูงหลาน พาพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ที่ไม่เคยเข้าโรงภาพยนตร์มาเป็นหลายสิบปี ยกบ้านยกตระกูลไปดูกันหมด ซึ่งส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นกลุ่มคนดูที่เป็นแฟนละครบุพเพฯ เวอร์ชันละคร ซึ่งครองใจคนดูทั่วประเทศที่รอคอยการกลับมาของเนื้อเรื่องที่แสนคุ้นเคย ให้ได้ไปเสพความสนุกสนานอีกครั้ง
แน่นอนว่าตามเพจรีวิวภาพยนตร์ หรือเว็บไซต์ต่างๆ ก็มีการวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งในแง่บวกและลบ ซึ่งในแง่บวกก็คงมีคนพอรู้กันอยู่บ้าง โดยเฉพาะตัวละครต่างๆ ที่นักแสดงซึ่งไม่ว่าจะเป็นตัวหลักหรือตัวรองต่างเล่นได้อย่างเต็มที่ สมฝีมือหนักแสดงแถวหน้าของประเทศ และงานสร้างที่หยิบยกเรื่องราวในประวัติศาสตร์ สมัยรัชกาลที่ 3 มาเล่าอย่างง่ายๆ ให้คนเข้าใจว่าเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นมีเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างไร โดยในเรื่องนี้ผู้เขียนจะมาขยี้ประเด็นดังกล่าวให้ละเอียดในบทความต่อๆ ไป
แต่ในมุมที่อาจจะดูไม่สมบูรณ์ของภาพยนตร์ ก็น่าจะเป็นเรื่องของการให้น้ำหนักเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่น้อยเกินไป และมีบางส่วนที่คลาดเคลื่อนจากบันทึกทางโบราณคดีไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียหายใหญ่หลวงอะไร เพียงแต่ผู้ที่มีความรู้ในเชิงประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง ที่ศึกษาเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เป็นเส้นเรื่องของภาพยนตร์ อาจจะรู้สึกไม่เต็มอิ่มเต็มที่ เพราะจริงๆ แล้วช่วงรัชกาลที่ 3 ก็มีเหตุการณ์สำคัญมากมายที่น่าสนใจเจาะลึกไม่แพ้ช่วงอื่นๆ ของกรุงรัตนโกสินทร์
แต่ด้วยภาพยนตร์เรื่องนี้มิใช่ภาพยนตร์สารคดีประวัติศาสตร์ การไม่ลงรายละเอียดมากเกินไปก็คงจะทำให้เนื้อเรื่องไม่หนักจนเกินไป จนคนดูรู้สึกไม่สนุกหรือต้องจดจ่อจริงจัง ซึ่งทำให้ผู้คนเข้าถึงได้ง่าย หรือนัยหนึ่งคือดูเอาสนุก ดูเอาฟิน ดูเอาให้หายคิดถึงคู่พระนาง และได้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์มาบ้างนิดๆ หน่อยๆ เผื่อว่าจะเป็นแรงบันดาลใจจุดประกายให้เกิดอยากศึกษาต่อในอนาคตก็ได้
เพราะถึงอย่างไร หนังก็ต้องสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีคนดู ทำเงิน สร้างรายได้ และผลกำไรให้กับผู้ผลิต ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจภาพยนตร์
และหากใครได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว จะมีบางฉากที่มีความเป็นละครหลังข่าวแทรกอยู่ เช่น การกระทำของตัวละครที่ดูเวอร์ๆ ล้นๆ การเล่นกับจังหวะโบ๊ะบ๊ะที่แสนคุ้นเคย หรือการเชื่อมโยงบางช่วงบางตอนของภาพยนตร์ไปถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในละครโทรทัศน์ ทำให้คนดูรู้สึกว่า หนังเรื่องนี้ยังไม่ตัดขาดจากละครที่พวกเขาคุ้นเคย ไม่ทิ้งให้คนเคยดูละครรู้สึกประประติดประต่อกับเนื้อเรื่องเดิม และยังอยู่ใน “Multiverse” หรือจักรวาลเดียวกัน ซึ่งก็คือจักรวาลของบุพเพสันนิวาสนั่นเอง
การออกสตาร์ทเริ่มต้นของบุพเพฯ 2 ที่เพียงไม่กี่วันจะแตะ 200 ล้านบาทเท่ากับทุนสร้างรวมการโปรโมทโฆษณา ก็คงคาดหวังได้ไม่ยากว่านี่จะกลายเป็นหนังไทยอีกเรื่องที่รายได้จะทะยานสู่ 500 ล้านบาทในระยะเวลาเพียงครึ่งเดือน หรืออาจจะไปถึง 1,000 ล้านบาทเป็นเรื่องที่ 2 ของประเทศต่อจาก “พี่มากพระโขนง” หากกระแสการบอกต่อปากต่อปาก และการชวนทั้งบ้านไปดูหนังกันแน่นโรงแบบนี้ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง
ถือว่าเป็นการปลุกกระแสภาพยนตร์ไทยให้กลับมาฟีเวอร์ได้อีกครั้ง หลังจาก 3 ปีที่ผ่านมาโรคระบาดได้แทบจะทำให้วงการภาพยนต์ซบเซาลงไป การที่ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งจะไปถึง 100 ล้านบาทนั้นกลับมาเป็นเรื่องยากจนมีน้อยเรื่องที่ไปถึงได้
และถ้าหากบุพเพฯ 2 สร้างรายได้ทะลุ 500 ล้าน 700 ล้าน หรือ 1,000 ล้านบาทได้สำเร็จ ก็คงเป็นการพิสูจน์แล้วว่า หากอยากจะสร้างภาพยนตร์ที่โกยรายได้ระดับ Mass บางทีเราอาจจะต้องศึกษากลยุทธ์ของทาง GDH ในการสร้างภาพยนต์ที่ประสบความสำเร็จและเป็นกระแส มากกว่าเจ๊ง และก็น่าจะยกมาตรฐานของวงการภาพยนตร์ไทย วงการบันเทิงไทยขึ้นไปอีกระดับ เพราะแค่นี้บุพเพฯ 2 ก็จ่อคิวเตรียมฉายในหลายประเทศ เพื่อโกยเงินต่างชาติทั้ง ลาว กัมพูชา สิงคโปร์ และออสเตรเลีย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
╔═══════════╗
ไม่พลาดบทความสาระดีๆ ที่ Reporter Journey ตั้งใจสร้างสรรเพื่อผู้ติดตามทุกท่าน อย่าลืมกดติดตามเพจ ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
╚═══════════╝
.
ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
Website :
reporter-journey.com
Blockdit :
blockdit.com/reporterjourney
Facebook :
facebook.com/reporterjourney
Tiktok :
tiktok.com/@reporterjourney
Line : @reporterjourney
บันทึก
10
5
10
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย