เมื่อคนเราเกิดความรัก เรามักจะสร้างกำแพงปิดบังความจริงทุกอย่าง เหลือไว้เพียงความฝันที่ถูกสร้างจากความรักเท่านั้น
เราจึงตาบอดจากสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริง จมอยู่แต่ในภวังค์แห่งความรัก
จนกระทั่งกำแพงที่กั้นระหว่างความจริงกับความฝันค่อย ๆ ปริแยกแตกออก เพราะหลังกำแพงด้านความฝันมันมีแต่มวลแห่งความฝัน ซึ่งมันมีแรงดันไม่มากพอที่จะต้านแรงดันที่มาจากด้านความจริงที่อยู่ตรงข้ามอีกฝั่งของกำแพงได้
เมื่อกำแพงนั้นพังลง คนเรามักจะยอมรับความเป็นจริงที่ไหลทะลักเข้ามาท่วมพื้นที่แห่งความฝันไม่ทัน
จึงทำให้เกิดผลบางอย่างซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจทำอะไรลงไปโดยไม่มีสติไตร่ตรอง เพียงเพื่อต้องการพื้นที่ส่วนความฝันที่เกิดจากความรักนั้นคืนกลับมา
โฆษณา