2 ส.ค. 2022 เวลา 11:00 • อสังหาริมทรัพย์
เงินเดือนเท่านี้ พร้อมเป็น “หนี้บ้าน” แล้วหรือยัง?
หนี้บ้านถือว่าเป็นหนี้ก้อนใหญ่และจำเป็นต้องทยอยผ่อนชำระยาวนานที่สุดก้อนหนึ่ง โดยที่หนี้ก้อนนี้เป็นสิ่งที่แทบทุกคนจะต้องเจอ เพราะบ้านถือว่าเป็น 1 ในปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต และหากต้องการสร้างครอบครัว บ้านถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตก็ว่าได้
แต่ด้วยราคาของบ้านหลังหนึ่ง การเก็บเงินสดเพื่อซื้ออาจจะต้องใช้เวลานาน ทำให้ “สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย” เป็นที่ต้องการมาโดยตลอด แต่ด้วยภาระที่ยาวนาน ทำให้เราจำเป็นจะต้องมีวินัยทางการเงินที่สูง เรามาดูกันดีกว่าว่า ก่อนที่จะเป็นหนี้บ้านสักหลัง เราควรจะต้องรู้อะไรบ้าง
  • หนี้บ้านเป็นหนี้ที่มีมูลค่าสูงและเป็นภาระในระยะยาว
หนี้บ้านมีภาระการผ่อนชำระโดยทั่วไปอยู่ที่ 20-30 ปี สมมติว่า กู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 1,000,000 บาทก็ต้องผ่อนประมาณ 6,000 บาทต่อเดือน ยาว 30 ปี โดยเราจะต้องมีการเตรียมใจและเตรียมความพร้อมในการเป็นหนี้บ้านให้ดี เริ่มต้นจากการคำนวณดูว่าจำนวนเงินที่ผ่อนในแต่ละเดือนนั้น เราสามารถจ่ายได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ หากเราไม่สามารถจ่ายได้อย่างต่อเนื่อง อาจะทำให้เราถูกฟ้องหรือถูกยึดบ้านหลังนั้นก็เป็นไปได้
คำแนะนำในเบื้องต้น คือ เงินงวดที่ผ่อนชำระไม่ควรเกิน 20-25% ของรายได้ต่อเดือน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่เราจะไม่สามารถจ่ายได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยสิ่งที่สำคัญ คือ เราควรที่จะเตรียม “เงินสำรองฉุกเฉิน” เพื่อเป็นสภาพคล่อง และช่วยลดความเสี่ยงจากกรณีรายได้เราขาดหายไปได้อีกด้วย
  • ก่อนเป็นหนี้บ้าน ควรจำลองการเป็นหนี้ขึ้นมาล่วงหน้าก่อน 3-6 เดือน
วิธีนี้ถือว่าเหมาะสำหรับคนที่ยังไม่เคยเป็นหนี้บ้านมาก่อน เป็นการให้เราจำลองสถานการณ์เวลาที่เราเป็นหนี้จริงขึ้นมา โดยให้นำเงินส่วนที่ต้องผ่อนในแต่ละงวดหักออกมาแยกบัญชีก่อนยื่นกู้จริงและซื้อบ้านจริง เพื่อเป็นการจำลองสถานการณ์ว่า หากเราต้องผ่อนบ้านจริง ๆ เราจะสามาบริหารจัดการได้หรือไม่ มีสภาพคล่องเหลือเพียงพอหรือไม่ ถ้าหากสามารถบริหารจัดการได้ ก็แปลว่าเราสามารถเป็นหนี้ได้บ้าน
นอกจากจะเป็นจำลองสถานการณ์จริงแล้ว วิธีนี้ก็ยังช่วยทำให้มีเงินออมฉุกเฉินสำหรับการผ่อนบ้านมากขึ้นด้วย ซึ่งเงินที่ได้จากการจำลองสถานการณ์ เราก็สามารถเก็บเงินสำรองฉุกเฉินเพื่อใช้ในอนาคตได้อีกด้วย
  • การมีเครดิตช่วยทำให้การกู้ซื้อบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
นอกจากความพร้อมด้านสภาพคล่องที่เราจะต้องเตรียมเพื่อให้ผ่อนได้ในระยะยาวแล้ว ก่อนการไปขอใช้บริการสินเชื่อกับทางสถาบันการเงิน เราต้องเตรียมและตรวจสอบประวัติการเงินให้ดีด้วย เพราะการขอกู้สินเชื่อทุกครั้ง สถาบันการเงินเองก็ต้องตรวจสอบเราเพื่อให้มั่นใจได้ว่า เราจะเป็นลูกหนี้ที่ดี สามารถจ่ายชำระได้ตามที่ตกลงกัน
แน่นอนว่าเมื่อเราเข้าไปใช้บริการสินเชื่อ เราจะถูกเช็คสถานะ “เครดิตบูโร” ทุกครั้ง เพื่อดูว่าเราเคยผิดชำระหนี้ที่ไหน จ่ายหนี้ตรงตามกำหนดหรือไม่ จ่ายล่าช้าหรือเปล่า ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนเป็นคะแนนเพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้หรือระดับเครดิตของเราว่าอยู่ในระดับใดเสมอ
สำหรับใครที่ไม่ได้ทำงานประจำ การ “เดินบัญชี” ก็จะช่วยทำให้การพิจารณาสินเชื่อง่ายขึ้น เพราะคนที่มีรายได้เข้ามาประจำอย่างต่อเนื่องมักจะมีคะแนนที่ดีกว่าคนที่มีรายได้เข้ามาเยอะแต่ไม่สม่ำเสมอ เพราะมีความเสี่ยงว่าบุคคลนั้นจะขาดสภาพคล่อง และไม่สามารถชำระคืนหนี้ได้นั่นเอง
อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยทำให้เรากู้สินเชื่อได้ง่ายมากขึ้น คือ การลดปริมาณการผ่อนชำระสินค้าต่าง ๆ ในแต่ละเดือน โดยทั่วไปแล้วการเป็นผ่อนชำระในแต่เดือนไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ ถ้าหากเรามีภาระค่าใช้จ่ายเยอะแถมยังซื้อบ้านในราคาแพง บางคัรั้งวงเงินตรงนี้ก็อาจไม่เพียงพอ ดังนั้น ก่อนจะซื้อบ้านก็ควรตรวจสอบตนเองก่อนว่ามีภาระผ่อนสินค้าเยอะเกินไปหรือไม่ เพื่อให้ได้วงเงินที่ต้องการและไม่มีปัญหาในการพิจารณาขอกู้สินเชื่อ
หากเราได้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ครบถ้วนแล้ว เชื่อว่าจะทำให้ทุกคนตอบตัวเองได้ว่า เราพร้อมที่จะกู้ซื้อบ้านหรือเปล่า โดยการเลือกซื้อบ้านที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และไม่เกินตัวตามความสามารถในการชำระหนี้ที่เรามี นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ
เมื่อเราพร้อมแล้วก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติม อย่างการรีไฟแนนซ์และการบริหารหนี้สิน เพราะหากเรามีการจัดการหนี้สินอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยทำให้เราสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการบริหารนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรงของทุกคนนั่นเอง
โฆษณา