3 ส.ค. 2022 เวลา 09:17 • นิยาย เรื่องสั้น
เปรต
เปรต เป็นสัตว์พวกหนึ่งที่เกิดในอบายภูมิ เกิดด้วยอำนาจอกุศลกรรม ได้รับความทุกขเวทนามากมาย หิวโหย อดอยาก ร้อนที่สุด หนาวที่สุด ต้องกินสิ่งสกปรก กินเนื้อ เลือด และหนังของตนเอง
เปรตมีหลายชนิด มีรูปร่างที่แตกต่างกัน บางตนสูงเท่าต้นตาล ผอมโซเห็นซี่โครง ตาและจมูกกลวงโบ๋
ปากเท่ารูเข็ม มือเท่าใบตาล บางจำพวกสวยงามดั่งนางฟ้าเทวดา แต่ปากเหม็นเน่ารุนแรง มีหนอนไชเต็มปาก เพียงแค่อ้าปาก หนอนเหล่านั้นก็จะร่วงมาบนพื้น
ซึ่งความแตกต่างนี้ก็ขึ้นกับความหนักเบาของกรรม และลักษณะของกรรมที่ได้ทำไว้
ที่อาศัยของเปรตก็แตกต่างกัน บ้างอยู่บนเขา ในน้ำ ในป่า ตามต้นไม้ใหญ่
เปรตมีหลายชนิด โดยแบ่งเป็น 4 ประเภท 12 ตระกูล 21 ชนิด
"เปรตภูมิ เป็นหนึ่งในอบายภูมิ 4 เป็นสถานที่ที่สัตว์ต้องไปเกิดเพื่อชดใช้กรรม
ภูมิทั้ง 4 ได้แก่ นรกภูมิ ดิรัจฉานภูมิ เปรตภูมิ และอสุรกายภูมิ
เปรตแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่
๑. ปรทัตตูปชีวิเปรต คือ เปรตที่มีชีวิตอยู่ด้วยการรับอาหารที่ผู้อื่นให้ โดยการเซ่นไหว้ และเป็นเปรตประเภทเดียวเท่านั้นที่สามารถรับส่วนบุญส่วนกุศลที่มนุษย์อุทิศให้
๒. ขุปปีปาสิกเปรต คือ เปรตที่อดอยาก หิวโหย หิวข้าวหิวน้ำอยู่ตลอดเวลา
๓. นิชฌามตัณหิกเปรต  คือ เปรตที่ถูกไฟเผาไหม้ให้เร่าร้อนอยู่เสมอ
๔. กาลกัญจิกเปรต  คือ เปรตจำพวกอสุรกาย มีร่างกายใหญ่โต แต่กลับไม่มีเรี่ยวแรง มีปากเล็กเท่ารูเข็มอยู่บนกลางศีรษะ ตาโปนเหมือนตาปู
นอกจากแบ่งตามนี้แล้ว ยังได้แบ่งเปรตออกเป็น 12 ตระกูลและได้พูดถึงกรรมที่ทำให้ไปเป็นเปรตแต่ละตระกูล ดังนี้
วันตาสะเปรต
เป็นเปรตที่มีรูปกายวิปริตยิ่งนัก หิวโหยและหิวน้ำตลอดเวลา แม้อยู่กับน้ำก็มิอาจดื่มกินได้ เที่ยวกินแต่น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ และสิ่งสกปรกที่บุคคลทั้งหลายถ่มทิ้งไว้ เปรตเหล่านี้เมื่อเห็นมนุษย์ถ่มเสลด น้ำลายออกมา ต่างตื่นเต้นดีใจรีบตรงไปดูดกินเป็นอาหาร กินเสร็จแล้วก็ยังหิวโหยเช่นเดิม ทุกข์ทรมานยิ่งนัก วนเวียนใช้กรรมอยู่อย่างนี้ จนกว่าจะสิ้นกรรมที่ทำไว้ จึงจะได้ไปเกิดในภูมิอื่น
เหตุเพราะในชาติที่เป็นมนุษย์พวกเขาได้มีเจตนาอกุศล คือ เอาข้าวปลาอาหารที่เหลือกินแล้ว เข้าไปถวายพระสงฆ์ผู้มีศีลบริสุทธิ์
หรือเป็นคนตระหนี่ เห็นผู้ใดอดอยาก มาขออาหาร ก็พาลโกรธถ่มน้ำลายใส่ด้วยความรังเกียจ
หรือเข้าไปในสถานที่ที่ควรเคารพบูชา เช่น โบสถ์ วิหาร แต่ไม่มีความเคารพต่อสถานที่
ได้ถ่มเสลดน้ำลายลงพื้น เมื่อตายแล้วก็มาเกิดเป็นเปรตประเภทนี้
กุณปขาทกเปรต
เปรตประเภทนี้ เป็นเปรตประเภทชอนไช เที่ยวหากินซากศพ เช่น ซากมนุษย์ ซากเนื้อ ซากโคกระบือ ซากสุนัขอันเหม็นเน่า ด้วยความหิวโหย
ครั้นเห็นซากศพของสัตว์ที่ล้มตายลง กลายเป็นศพขึ้นอืด เน่าเหม็น เปรตเหล่านี้ ก็จะดีอกดีใจวิ่งเข้าไปกินซากศพอันเน่าเหม็นนั้น
ด้วยกรรมที่เคยถวายเนื้ออันมิสมควรแก่สมณพราหมณ์ และผู้ทรงศีล เช่น เนื้อราชสีห์ เนื้อเสือโคร่ง เนื้อหมี เนื้อสุนัข หรือเนื้อมนุษย์ ทั้งที่รู้ว่าเป็นเนื้อที่ห้ามฉัน ก็ยังคิดอุตริ กลั่นแกล้งท่านเหล่านั้น ด้วยใจที่หยาบช้า
ด้วยผลแห่งอกุศลกรรมนั้น เมื่อตายลง จึงมาเกิดเป็นกุณปขาทกเปรต เสวยทุกขเวทนาจนกว่าจะหมดกรรม
คูถขาทกเปรต
เปรตตระกูลนี้ มีรูปร่างน่าสะอิดสะเอียน น่าเกลียด กินมูตร กินคูถ หรืออุจจาระเป็นอาหาร เมื่อเปรตเหล่านี้เห็นอุจจาระจะดีใจ รีบเข้าไปที่กองอุจจาระ ดูดกินเป็นอาหาร แต่ก็ไม่เคยอิ่มเลย
ด้วยผลแห่งกรรม ครั้งที่เป็นมนุษย์ มีความตระหนี่จัด เมื่อหมู่ญาติที่ตกทุกข์ได้ยาก หรือผู้คนมาหาเพื่อขอความช่วยเหลือ ขอข้าว ขอน้ำดื่ม จะเกิดอาการขุ่นเคืองขึ้นมาทันที ชี้ไปที่มูลสัตว์พร้อมกับบอกว่า "ถ้าอยากได้ ก็จงเอาไปกินเถิด แต่จะมาเอาข้าวปลาอาหาร ข้าไม่ให้หรอก” แล้วก็ขับไล่ไสส่ง ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ตายแล้วจึงไปเกิดเป็นเปรตชนิดนี้
อัคคิชาลมุขเปรต
เปรตประเภทนี้มีปากที่ลุกโพลงไปด้วยเปลวไฟ ไฟจะไหม้ปากอยู่ทั้งกลางวัน กลางคืน ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน ก็จะมีเปลวไฟลุกไหม้ในปากตลอดเวลา ไม่มีทางดับทั้งกลางวันและกลางคืน ได้รับความทุกข์เวทนาอย่างแสนสาหัส
การที่ไฟลุกไหม้ปากของตลอดเวลานั้น ทำให้พวกเขาไม่อาจอยู่กับที่ได้ เปรตแต่ละตนจะแสดงอาการทุรนทุรายด้วยความทรมาน ปวดแสบปวดร้อน และร้องไห้วิ่งไปมา
ด้วยผลแห่งบาปอกุศลกรรม ที่เคยแกล้งเอาอาหารที่เผ็ดร้อน ให้แก่สมณพราหมณ์หรือผู้มีศีลได้บริโภค จากนั้นก็หัวเราะเยาะเล่นตามความคึกคนอง
หรือเป็นพวกที่ด่าว่า สมณพราหมณ์และบิดามารดา
ด้วยผลแห่งบาปอกุศลกรรมนั้น ย่อมไปบังเกิดเป็น อัคคิชาลมุขเปรต เสวยทุกขเวทนาต่าง ๆ และยังไม่ตาย จนกว่าจะหมดกรรม
สูจิมุขเปรต
เปรตประเภทนี้จะมีท้องและมือที่ใหญ่โต คอยาว ปากเท่ารูเข็ม ได้รับความทุกขเวทนาจากการหิวโหย กินอาหารไม่ได้ อด ๆ อยาก ๆ ทนทุกข์ลําบากยิ่งนัก
โดยพวกเปรตจะร้องไห้โหยหวนคร่ำครวญตลอดเวลา ด้วยความหิวกระหายอย่างน่าเวทนา ไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินไปไหนได้
ด้วยผลกรรม เปรตจำพวกนี้ จะได้ยินเสียงคนเรียกให้มากินข้าว ลุกขึ้นมากินข้าวเสียเถิด แต่พอลุกขึ้นมาได้ แล้วไม่พบว่ามีข้าวมีน้ำ เปรตจำพวกนี้จะร้องไห้รำพันอย่างน่าเวทนา
สาเหตุที่ต้องเสวยวิบากกรรมแบบนี้เพราะในชาติที่เป็นมนุษย์นั้นเป็นคนที่มักมีจิตใจริษยาคนอื่นอยู่เสมอ เห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้
หรือพูดจาดูถูกคนที่ฐานะยากจน ต่ำต้อยกว่าตนเอง
หรือเมื่อเห็นคนอื่นมั่งคั่งร่ำรวย มีทรัพย์สมบัติมากกว่า ก็อยากจะได้ทรัพย์สมบัติของเขามาเป็นของตน คิดหาอุบายชั่วเพื่อจะแย่งทรัพย์นั้นมาให้ได้
หรือบาปอกุศลกรรมของการเป็นผู้ตระหนี่ ไม่ทําทาน ซ้ำยังห้ามมิให้ผู้อื่นทําทานด้วย หรือวัตถุสิ่งของที่ผู้อื่นทำทาน แต่นำมาเป็นสมบัติของตน
ด้วยผลแห่งบาปอกุศลกรรมนั้น ย่อมไปบังเกิดเป็น สูจิมุขเปรต เสวยทุกขเวทนา จนกว่าจะหมดกรรม
ตัณหาชิตาเปรต
เปรตประเภทนี้กระหายน้ำ อดน้ำ ไม่ได้กินน้ำเลย แม้เห็นบ่อ สระ แม่น้ำที่มีน้ำอยู่เต็ม หรือแม้มหาสมุทรก็ไม่สามารถจะดื่มน้ำได้ แม้จะรีบวิ่งไปเพื่อจะดื่มน้ำ แต่น้ำนั้นก็หายไป
ด้วยผลแห่งบาปอกุศลที่ปิดบ่อ ปิดสระน้ำ หวงแหนน้ำ ไม่ให้สมณชีพราหมณ์ ผู้มีศีลทั้งหลายได้ใช้
หวงแหนน้ำแม้แต่ฝูงสัตว์ที่กระหายน้ำ ผลกรรมนั้นย่อมไปบังเกิดเป็น ตัณหาชิตาเปรต ลําบากด้วยการ กระหายน้ำ เสวยทุกขเวทนา จนกว่าจะหมดกรรม
นิชฌามกเปรต
เปรตประเภทนี้มีตัวอันผอมดํายิ่งกว่าถ่าน ร่างเปลือย เห็นช่องว่างระหว่างซี่โครง มือเท้าหงิกงอ เคลื่อนไหวไปมาด้วยความยากลำบาก เขี้ยวงอกออกมานอกปาก ตาถลนเหมือนถูกควักออกมา กลิ่นตัวเหม็นเน่า น่ารังเกียจ หิวน้ำตลอดเวลา เอาแต่ยืนร้องไห้ครวญคราง เพราะความอดอยากในอาหาร ไม่ว่าจะข้าวหรือน้ำที่ไม่ตกถึงท้อง เป็นอย่างนี้เรื่อยไป จนกว่าจะสิ้นกรรม
ด้วยผลแห่งบาปอกุศลกรรมที่เห็นสมณพราหมณ์ คนแก่ คนป่วย คนพิการ หรือคนตกทุกข์ได้ยาก ก็มิได้เมตตาสงสาร กลับล้อเลียน หรือแกล้งขู่ให้ตกใจ
เดิมที คนแก่ คนป่วย คนพิการ เขาย่อมมีลำบากในชีวิต ลำบากในสังขารของเขาอยู่แล้ว ยังต้องมาทุกข์ใจเพราะถูกกลั่นแกล้งต่างๆ นานาอีก
สัตถังคเปรต
เปรตประเภทนี้มีเล็บมือ เล็บเท้ายาว ดุจคมมีด กรีดข่วนเนื้อและอวัยวะของตนกินเป็นอาหารทุกวันทุกคืน ทั้งที่กินเนื้อตนเองทุกวันทุกคืน แต่ก็ยังไม่ประทังความหิวไปได้เลย เจ็บปวดโหยหิวอย่างแสนทรมาน
ด้วยผลแห่งบาปอกุศลที่เคยหยิกข่วนบิดามารดา หรือผู้มีพระคุณ ทําร้ายสมณพราหมณ์ผู้มีศีลจนเป็นบาดแผล
หรือสตรีใจร้าย ริษยา หยิกข่วนสามี หยิกข่วนคนรับใช้ บริวารบ่าวไพร่ของตนเอง
กรรมส่งให้มาเกิดเป็น สัตถังคเปรต เสวยทุกขเวทนา จนกว่าจะสิ้นกรรม
ปัพพตังคเปรต
เปรตประเภทนี้ มีร่างกายใหญ่โตเท่าภูเขา มีเพลิงไหม้เผากายตลอดเวลา นอนกลิ้งไปมาด้วยความร้อน ได้รับทุกขเวทนาแสนสาหัส ร้องไห้ปานจะขาดใจ
ด้วยผลแห่งบาปอกุศลที่เคยเผาวิหาร วัดวาอาราม สถานปฏิบัติธรรม และเผาพระพุทธรูป เผาบ้านเรือนของผู้อื่น เผาสบงจีวรและบริขาร เผาเครื่องใช้ของพระพุทธเจ้า พระสงฆ์
ผลกรรมนี้ ย่อมได้มาบังเกิด เป็น ปัพพตังคเปรต เสวยทุกขเวทนาจนกว่าจะหมดกรรม
อะชะคะระเปรต
เปรตประเภทนี้มีรูปกายคล้ายสัตว์เดรัชฉาน เช่น งูเสือ ม้า วัว ควาย
ร่างกายถูกไฟเผาไหม้ตลอดเวลา ทั้งกลางวัน กลางคืน เจ็บปวดน่าเวทนาที่สุด
กรรมที่ทำให้เกิดเป็นเปรตตระกูลนี้ เพราะเมื่อครั้งเป็นมนุษย์เคยตระหนี่ถี่เหนียว เมื่อเห็นสมณพราหมณ์ ผู้มีศีลมาเยือน ก็ด่าเปรียบเปรยท่านว่าเสมอด้วยสัตว์เดียรัจฉานต่างๆ เพราะไม่อยากให้ทาน หรือแกล้งล้อเลียนเป็นสัตว์ต่างๆ
ด้วยผลแห่งอกุศลกรรมจึงมาบังเกิดเป็น อชครังคเปรต เสวยทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส
เวมาณิกเปรต
เป็นเปรตจําพวกมีวิมานที่งดงามเหมือนวิมานของเทวดา สมบูรณ์ด้วยทิพยสมบัติ ได้เสวยสุขจากวิมานและสมบัตินั้น และยังมีนางฟ้าห้อมล้อมเป็นบริวารต่างจากเปรตจำพวกอื่น
บางพวกเสวยสุขไม่ต่างจากเทวดาในเวลากลางวัน แต่กลับเสวยทุกข์ดั่งนรกในเวลากลางคืน
บางพวกเสวยสุขไม่ต่างจากเทวดาในเวลากลางคืน แต่กลับเสวยทุกข์ดั่งนรกในเวลากลางวัน
บางพวกเสวยทุกข์ 7 วัน เสวยสุข 7 วัน
การที่เป็นเช่นนี้เพราะ ผลกรรมที่เคยทำไว้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ที่มีทั้งดีและชั่ว
มหิทธิกเปรต
มหิทธิกเปรต เป็นเปรตที่มีฤทธิ์มาก สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ อยู่ในป่าหิมพานต์ มีรูปงาม บริบูรณ์ด้วยอาหาร แต่แม้จะบริบูรณ์เพียงใด ก็มิสามารถบริโภคได้ เสวยทุกข์อยู่ในโลกเปรตนั้น
วิบากกรรมคือ เมื่อครั้งที่เป็นมนุษย์ เป็นผู้ที่ได้เคยบวชเป็นภิกษุ แต่รักษาศีลได้บ้างไม่ได้บ้าง หรือเกิดความโลภครอบงำ นำของที่คนอื่นถวายพระสงฆ์ หรือผู้ทรงศีลมาเป็นของตน
เหตุที่ทำให้เกิดเป็นเปรต
ได้แก่ อกุศลกรรมบถ 10 คือ ความชั่วที่ทำไว้ทางกาย วาจา ใจ ดังนี้
1. ฆ่าสัตว์
2. ลักทรัพย์
3. ประพฤติผิดในกาม
4. พูดเท็จ
5. พูดส่อเสียด
6. พูดคำหยาบ
7. พูดเพ้อเจ้อ
8. โลภอยากได้ของเขา
9. พยาบาทปองร้ายผู้อื่น
10. มิจฉาทิฏฐิ คือความเห็นผิด
เมื่อผู้ใดประพฤติอกุศลกรรมบถ 10 ประการนี้ ผู้นั้นชื่อว่าได้นำตนไปสู่ภพภูมิเปรตแล้ว
อบายภูมิที่ชื่อว่าเปรตภูมินี้ มีความเศร้าหมอง หิวโหย ทุกข์ทรมาน เปรตบางตนได้รับทุกขเวทนาไม่ต่างจากนรก
เมื่อได้อ่านเรื่องราวของเปรตภูมิแล้ว ผู้ที่เห็นภัย ขอจงปฏิบัติธรรมตามพระธรรม คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ซึ่งเป็นเครื่องรับประกันว่า เราจะไม่ก้าวล่วงลงสู่อบาย ปิดประตูอบายได้อย่างแน่นอน
#เปรต #วิบากกรรม #นรก #อบายภูมิ
#เปรต
โฆษณา