3 ส.ค. 2022 เวลา 10:46 • การเกษตร
แสงแดดแผดเผา….อากาศร้อนระอุ
ดินแตก…ระแหง….แห้งเหือด
สงสารดินจับใจ (ไม่ได้โม้) …. ผมรู้สึกเช่นนั้นจริงๆครับ
ทุกครั้งที่เข้าไป เห็นผินดินแห้งแตกระแหง และแข็งโป๊ก
นึกถึงสมัยเด็กๆ เคยขุดเอาดินเหนียวมาปั้นเป็นลูกกลมๆ ขนาดเท่าหัวแม่มือ ตากแดดไว้สัก 2-3 วัน ทำเป็นลูกกระสุนสำหรับ ยิงนก ยิงกิ้งก่า ยิงหมาบ้างบางที แล้วแต่สถานการณ์ ตอนออกล่า คว้าลูกกระสุนใส่กระเป๋ากางเกง ตุงทั้งสองข้าง บ่อยเข้าผ้าก็ขาด ลูกกระสุนร่วงกราว ต้องเอายางหนังสะติ๊กรัดไว้ ยังเป็นภาพที่ฝังใจตรึงไว้ในระดับเซเลบรั้มของสมอง
ก่อนออกล่ากับเพื่อนร่วมแก๊ง ก็ต้องมีการซ้อมมือด้วยการยิงกระป๋อง
ใครเคยเป็นเด็กบ้านนอกอย่างผม คงได้กลิ่นไอแดด กลิ่นโคลน ปลักควาย ขึ้นมาบ้างแล้ว
ตัดภาพกลับมาที่โคกหนองนา ที่เดิม
ด้วยความสงสารดิน เกรงจะแข็งเหมือนลูกหินที่ผมพูดถึง
ทำอย่างไรดี ถึงจะช่วยไม่ให้ดินแข็งแบบนี้
ถ้าฝนตกลงมาบ้างคงจะดี คงจะคืนความชุ่มชื้นให้แก่ดินได้
น้ำก็มี….แต่อยู่ในบ่อที่ขุดนั่นไง แล้วจะนำน้ำขึ้นมาได้อย่างไร
เครื่องสูบน้ำ…สิ
ใช่ครับ…เครื่องสูบน้ำ ผมจำได้ ชาวสวน ชาวไร่ เขาใช้สูบน้ำรดต้นไม้ รดพืชไร่ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน ขนาดเล็ก เวลาจะใช้งานต้องดึงกระตุกเชือกด้านข้าง กระชากอย่างรวดเร็ว เพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ทำงาน บางครั้งต้องกระชากอยู่เป็นนานกว่าจะติด เครื่องมันอาจเย็น ต้องดึงไปเรื่อยๆ เพื่อให้กระบอกสูบอุ่นขึ้น พี่คนหนึ่งได้บอกไว้ผมไม่รู้สาเหตุว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ ดึงเชือกไปสักพักเครื่องก็ติดแฮะ
ผมตัดสินใจซื้อเครื่องสูบน้ำยี่ห้อ Honda ขนาดท่อดูดและท่อส่ง 2” แบบ 4 จังหวะ หลังจากที่เทียบเคียงรุ่น 1 “ ที่ผมอยากได้เพราะน้ำหนักเบา หิ้วได้สบายแล้ว แต่หลังจากปรึกษากับคณะที่ปรึกษาส่วนตัวแล้ว พบว่าความคุ้มค่ากับเงินลงทุนอยู่ที่เครื่องขนาด 2” ครับ ได้ปริมาณน้ำมากกว่าในเวลาที่เท่ากัน ถ้าถามว่าแล้วขนาด 3” เป็นไง ก็ต้องบอกว่า มันใหญ่ไปสำหรับสวนเล็กๆ เนื่อที่ 2 ไร่ ของผมครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ
แล้วพบกันใหม่ตอนต่อไปครับ
โฆษณา