3 ส.ค. 2022 เวลา 12:10 • ไลฟ์สไตล์
ผมมีร้านประจำระหว่างปี ( 2563 -2564) มีชื่อว่า " ถึงคราวซวยศรีภรรยาตัดให้ " ตั้งอยู่ที่บ้านผมเอง ตัดฟรีไม่เสียตังค์ซักกะบาท ปัตตาเลี่ยนสั่งทาง shopee เก้าอี้พลาสติกเก่าๆ 1 ตัว และถุงพลาสติกดํา (ที่ใส่ขยะ) ห่อตัวกับรองที่พื้น หวี กรรไกร พร้อม ไม่มีทรงให้เลือกเพราะตัดเป็นอยู่ทรงเดียวคือไถๆๆๆๆแหลก ทรงหนูแทะ ตัดช่วงแรกๆผมมักจะแหว่งประจําเพราะกะระยะไม่ถูก และหล่อนไม่เข้าใจว่ารองหวีคืออะไร เอียง45 องศาคืออะไร แถมยังบอกด้วยว่าแต่งงานแล้วจะหล่อไปทำไม?
ก็จะทะเลาะกันเป็นประจำแล้วบอกว่า เก่งนักก็ไปตัดเองซิ โดยไม่เข้าใจว่าถ้าคนเราตัดผมของตัวเองได้ คงไม่มีอาชีพช่างตัดผมเกิดขึ้นมาบนโลกแน่ คนเราจะมองเห็นผมด้านหลังตัวเองแล้วตัดเองได้ไง
ช่วงหลังๆเริ่มดีขึ้น ค่อยดูเป็นทรงหน่อย เริ่มรู้จักว่ารองทรงเป็นอย่างไร เริ่มแยกออกว่าตัดให้หล่อกับตัดแล้วดูทุเรศเป็นอย่างไร สาเหตุที่มีร้านภรรยาตัดให้จําเป็นขึ้นมา ก็เพราะโควิท 2 ปี ที่ทําให้ผมไม่กล้าไปตัดข้างนอก จนผมยาวเป็นเหมือนสมัยวัยรุ่นย้อนยุค 60,70 รู้สึกรําคาญและทนไม่ไหว เพราะมันดูขัดกับอายุเกิน จึงตัดสินใจทันทีตัดเองก็ได้ว๊ะ ลองเสี่ยงดู คุณจะลองดูก็ได้ว่าให้แฟนที่ไม่เคยตัดผมมาก่อน มาตัดให้จะตื่นเต้น หวาดเสียวแค่ไหน เป็นความท้าทายของชีวิตอีกแบบหนึ่ง
ถึงผมจะแหว่งในครั้งแรก แต่แหว่งครั้งที่2 มันจะดีขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆไปจนไม่แหว่งแล้ว แต่จะเป็นตัดแล้วไม่เท่ากัน เบี้ยวทั้งซ้ายขวาแทน
โฆษณา