บทวิเคราะห์ของ German Kulikovskiy นักวิเคราะห์ทางการทหารและการเมือง ต่อศักยภาพกับการจัดการของจีนกับเหตุการณ์ลูปคมของอเมริกาที่เกาะไต้หวัน
Credit: DW
ผลจากการเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งโลก ทำให้ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดกับการเคลื่อนไหวของทั้งจีนและอเมริกา ที่ยังไงงานนี้จีนต้องเอาคืนแน่นอน ซึ่งต้องวิเคราะห์จากทรัพยากรทางทหารที่จีนมีด้วย
German Kulikovskiy นักวิเคราะห์ทางการทหารและการเมือง ทาง Telegram @vysokygovorit ได้เริ่มต้นวิเคราะห์ว่า จีนมีกองทัพที่แข็งแกร่งกว่ามาก แต่การยกพลขึ้นบกที่ไต้หวันไม่ได้ทำได้ง่ายนัก โดยเฉพาะการยกพลไปบุกกรุงไทเปที่อเมริกาเป็นผู้สนับสนุนการดำเนินการอย่างใกล้ชิด
หากเราลองตั้งสมมุติฐานกรณีการบุกไต้หวันของจีน ดูแล้วจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะนำกองทัพของจีนขึ้นฝั่งไต้หวันได้ ด้วยเหตุผลหลายประการคือ
1. เขตที่สามารถยกพลขึ้นบกได้คือทางทางตะวันตกเฉียงใต้และชายฝั่งทางเหนือ/ตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน พื้นที่นอกเหนือจากนี้การวางกองกำลังลงบนพื้นทำได้โดยใช้เฮลิคอปเตอร์เท่านั้น เป็นเรื่องยากมากที่กองทหารเรือจีนจะเคลื่อนทัพขึ้นชายหาดได้ เพราะจีนมีเรือจู่โจมสะเทินน้ำสะเทินบกเพียง 2 ลำ และเฮลิคอปเตอร์โจมตีผ่านช่องแคบ ไต้หวันก็มีมากกว่าของจีน
2. ต้องดูว่าอเมริกาจะตอบโต้อย่างไรหากเกิดการบุกขึ้นมาจริงๆ การช่วยเหลือการป้องกันทางอากาศยังไม่มีความชัดเจน แต่รับประกันได้เลยว่าจะได้รับการสนับสนุนในส่วนของการลาดตระเวน ด้วยเหตุนี้การปฏิบัติการของจีนในการรวบรวมกองกำลัง ทั้งเรือและเฮลิคอปเตอร์จะถูกจับตามมองอย่างใกล้ชิด ทำให้ไต้หวันสามารถเตรียมการรับมือได้
Credit: COLUMBIA POLITICAL REVIEW
3. กองเรือทะเลทางตะวันออกของจีนจะมีบทบาทสำคัญในปฏิบัติการยกพลขึ้นบก ทั้งกองกำลังของกองบินใต้และเหนือรวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบิน (กองเรือตะวันออกของจีนยังไม่มีเรือบรรทุกเครื่องบิน) แต่ทุกการเคลื่อนไหวจะถูกตรวจสอบจากหน่วยงานของอเมริกาตลอดเวลา
4. คาดว่าการยกพลขึ้นบกของกองทัพจีน จะมากับเรือรบที่มีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของจีน คือ
a. เรือเทียบท่าขนส่งสะเทินน้ำสะเทินบก Type 071 (ระวางบรรทุกเต็มที่ 25,000 ตัน)
b. เรือโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก Type 075 (40,000 ตัน)
5. ประเทศจีนมีเรือรบ Type 071 จำนวน 8 ลำและ Type 075 จำนวน 2 ลำ เรือเหล่านี้สามารถบรรทุกเฮลิคอปเตอร์และเรือเล็กได้
6. ในระลอกที่สองของการโจมตี จีนจะหันมาใช้เรือยกพลขึ้นบกแบบธรรมดามากขึ้น ประเทศจีนมีเรือประเภทนี้หลายสิบลำ ตั้งแต่ Type 074 ขนาด 700 ตัน ถึง Type 072 ขนาด 4,200-4,800 ตัน แต่คงไม่สามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมด เพราะต้องสำรองไว้ป้องกันประเทศด้วย
Credit: Naval Post
เมื่อมีการโจมตีเกิดขึ้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นของทั้ง 2 ฝ่ายก็คือการโจมตีระบบสื่อสาร และระบบโลจิสติกส์ที่ใช้ในการทหาร ทั้งเรื่องการส่งกำลังพล เสบียงอาหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ และสิ่งของต่าง ๆ ที่ต้องใช้
ปัจจัยสำคัญที่ทางกองทัพจีนต้องพิจารณาอย่างเข้มงวดก็คือ กองทัพเรือและกองทัพอากาศของไต้หวันใหญ่กว่าจีนอย่างเห็นได้ชัด การที่จีนจะโจมตีแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในครั้งเดียว จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลย ยิ่งการรบทางทะเลมีข้อจำกัดกว่าการโจมตีทางบกมาก เพราะไม่สามารถกระจายกองกำลังออกเพื่อเลี่ยงการโจมตี แล้วกลับมารวมกันภายหลังได้ ยิ่งมองไม่เห็นทางได้เปรียบของจีนเลย
นอกจากนี้แล้วการสู้รบในสมรภูมิของไต้หวันจะต่างกับยูเครน นั่นก็เพราะว่าอเมริกาอาจจะนำกองกำลังเข้ามาสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะผลประโยชน์ที่ได้จากไต้หวันนั่นเอง
นี่ก็เป็นบทวิเคราะห์ที่ดูเหมือนจะต่างออกแบบจากแหล่งข่าวอื่นๆ ที่ดูว่าจีนจะเล่นงานไต้หวันเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จากบทวิเคราะห์นี้ไม่ใช่เรื่อง่ายๆเลยที่จีนจะโจมตีไต้หวันได้ จึงอาจเป็นเหตุผลให้นางแนนซี เพโลซีกล้ายืนฉี่รดหัวมังกรยักษ์
Credit: USNI News - U.S. Naval Institute
แต่ก็อย่าลืมนะว่าอาวุธของจีนที่มีพลานุภาพรุนแรง สามารถสร้างความเสียหายให้อเมริกาได้แบบตายทั้งเป็นไดก็คืออาวุธทางเศรษฐกิจ ที่ตอนนี้ดูว่าจีนเหนือกว่าอเมริกาหลายช่วงตัวแล้ว เทื่อไหร่ที่จีนงัดออกมาใช้ได้ตายหมู่กันล่ะครับทีนี้
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Modernization Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
