8 ส.ค. 2022 เวลา 11:00 • สุขภาพ
โมโหหิว 😤 อาการปกติที่ต้องเข้าใจ หรือว่ามีความผิดปกติอะไรซ่อนอยู่ ❓
🍚อาการโมโหหิวเรียกอีกอย่างหนึ่งได้ว่า “ความหิวโหย” นี่เรื่องจริงนะไม่ได้พูดเล่น และใช่ว่าเรื่องนี้จะเป็นกันทุกคน ซึ่งที่มาที่ไปของอาการโมโหหิว นั้นเกิดจากน้ำย่อยและกรดในกระเพาะอาหารกระตุ้นให้รู้สึกปวดท้อง เริ่มมีระดับน้ำตาลในเลือดลดลง และมีความผิดปกติของฮอร์โมนที่ส่งผลต่อความเครียด โดยปกติแล้วถ้าเลยเวลาอาหาร แต่ไม่ยอมกินสักที ก็จะเกิดอาการโมโหหิวได้ทุกคน แต่คนที่เป็นบ่อย ๆ และมีอาการวีนเหวี่ยงมากกว่าปกติ อาจต้องหาทางปรับพฤติกรรม หรือปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ
เมื่อโมโหหิว คนที่หิวจัดมักจะรับประทานทุกอย่างแม้สิ่งนั้นไม่ได้ตั้งใจจะรับประทานตั้งแต่แรก และส่วนมากจะอยากรับประทานของที่มีรสหวาน ซึ่งของหวานที่มักอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล ก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เมื่อกินของหวานตอนหิว ๆ แล้วจึงรู้สึกดีขึ้น
แต่การรับประทานของหวานเยอะ ๆ นั้นไม่ดี เพราะจะทำให้สุขภาพแย่ลง มีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น มีการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ โดยหากว่าระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอยู่นาน จะทำให้เกิดการทำงานของเซลล์บุผิวหลอดเลือดที่ผิดปกติ และอาจเกิดเป็นโรคเบาหวานในอนาคต แถมพอต้องลดอาหารหวาน เมื่อหิวทีไรก็อยากกินแต่ของหวาน แต่ไม่ได้กิน ก็จะพาลให้โมโหหิวยิ่งขึ้นไปอีก
สำหรับใครที่สังเกตตัวเองแล้วพบว่า เป็นคนโมโหหิวบ่อย ๆ ลองทำตามขั้นตอนนี้ดู👇
1. ปรับพฤติกรรมสักนิด ส่งผลดีในระยะยาว ด้วยการรับประทานอาหารให้ตรงเวลา อย่าเลื่อนเวลารับประทานอาหารจนปล่อยให้ตัวเองหิวจัด
2. อย่ารับประทานแต่คาร์โบไฮเดรตและของหวานเพียงอย่างเดียว เมื่อรู้สึกหิว เพื่อไม่ให้ร่างกายเสพติดความหวาน ควรเลือกรับประทานทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีการแปรรูปและขัดสีน้อย เช่น ข้าวแป้งที่ไม่ขัดสี โปรตีนจากเนื้อปลา ไข่ ธัญพืช และผักผลไม้ชนิดต่าง ๆ ซึ่งเป็นอาหารที่ดีต่อการคุมระดับความหิวและช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงขึ้นเร็วเหมือนการกินน้ำตาล
3. ถ้าโมโหหิวมาก คิดอะไรไม่ออก ดื่มน้ำเปล่าก่อนเลย เพราะนอกจากจะทำให้ใจเย็นลงแล้ว ยังทำให้รู้สึกว่าท้องไม่ว่างเปล่าจนเกินไปอีกด้วย
หากโมโหหิวบ่อย ๆ อย่าชะล่าใจแล้วคิดว่า “ไม่เห็นเป็นอะไรเลย แค่หาอะไรมากินก็จบ” เพราะสิ่งที่น่ากังวล คือ คนที่โมโหหิว อาจกินแบบตามใจปากหรือตามใจตัวเองมากไป ทำให้เสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดสูง และอาจลุกลามไปจนถึงโรคเบาหวานได้ 😦
👩‍🔬 สาระน่ารู้โดย นพ.พีรดนย์ วิภาตะวัต อายุรแพทย์โรคต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสม บนแอปฯ หมอดี
🩺 หากคุณรู้สึกว่าตัวเองโมโหหิวบ่อย ๆ ปรับพฤติกรรมตนเองแล้วยังไม่ดีขึ้น จนกระทบชีวิตประจำวัน กระทบการทำงาน สุขภาพแย่ลง รวมถึงอาจมีอาการอารมณ์เสีย เหวี่ยงวีนคนรอบข้างบ่อยจนผิดปกติ หรือมีความเครียดเกิดขึ้นตอนหิว และแม้กินอิ่มแล้วก็ยังเครียดอยู่ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการบำบัดอาการโมโห
📲 5 ขั้นตอนง่ายๆ ในการปรึกษาหมอออนไลน์ ผ่านแอปฯ หมอดี
1. ดาวน์โหลดแอปฯ หมอดี คลิก>> https://mordee.app.link/mordee จากนั้นเลือกเมนูโปรไฟล์ เพื่อลงทะเบียนเข้าใช้งาน
2. ไปที่หน้าแรกของแอปฯ กดแถบค้นหา เลือกแผนกที่ต้องการปรึกษา ซึ่งสำหรับอาการโมโหหิวนั้น แนะนำแผนก “โรคทั่วไป” หรือแผนก “สุขภาพใจ” และแผนก “จิตเวช”
3. เลือกแพทย์ที่ต้องการปรึกษา แล้วทำนัดหมาย โดยเลือกวันและเวลาที่ต้องการ แล้วเลือกรูปแบบการปรึกษาเป็น วิดีโอคอล โทร หรือ แชต จากนั้นทำการชำระเงิน หรือกรอกโค้ดส่วนลด (ถ้ามี)
4. เข้าห้องสนทนาในแอปฯ เพื่อทำการปรึกษา เมื่อถึงเวลานัดหมาย
5. รอสรุปผลการปรึกษา พร้อมใบสั่งยาจากแพทย์ (หากมี) โดยสามารถสั่งซื้อยา แล้วรอรับยาที่บ้านได้
💬 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line ID: @mordeeapp
#หมอดี #MorDee #หมอประจำบ้านในมือคุณ #TrueHEALTH
#โมโหหิว #อารมณ์แปรปรวน #ความหิว
โฆษณา