5 ส.ค. 2022 เวลา 10:26 • ธุรกิจ
ร้านกาแฟฟีลอบอุ่นที่ไปเมื่อไหร่ก็เหมือนได้กลับบ้านไปหาคุณปู่กับร้าน Rustic Coffee House
หากใครเคยได้ยินเรื่องทฤษฎี 21 วันที่ว่ากันว่า ถ้าเราทำสิ่งหนึ่งติดต่อกันเป็นเวลา 21 วัน หลังจากวันที่ 21 เราจะเสพติดการกระทำนั้นๆ ก็คงจะเป็นเรื่องจริง เพราะเชื่อว่าหลายคนที่ไม่เคยดื่มกาแฟเมื่อได้ลองดื่มกลายเป็นว่ากาแฟก็เหมือนน้ำที่ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเบื่อ
เอพพิซเต้ ชวนรู้จักร้านกาแฟฟีลอบอุ่นที่ไปเมื่อไหร่ก็เหมือนได้กลับบ้านไปหาคุณปู่กับ Rustic Coffee House และเจ้าของร้าน คุณแจน- ธดา ตันเรืองพร ที่จะพาเราไปรู้จักกับคำว่า “Everyday Taking”
Rustic ที่แปลว่าชานเมือง
ร้านกาแฟถือว่าเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ยอดนิยมที่ไม่ว่าจะวัยรุ่นวัยทำงานก็มักจะเข้าไปแวะเวียนกัน บางคนเข้าไปทำงาน บางคนเข้าไปเพื่อลิ้มลองกาแฟ หรือบางคนไปเพื่อถ่ายรูป แต่กว่าร้านกาแฟร้านหนึ่งจะเป็นที่รู้จักก็คงต้องใช้เวลาอย่างคุณแจนเจ้าของร้านกาแฟ Rustic Coffee House เล่าให้ฟังว่า
“แรกเริ่มที่นี่ไม่ใช่ร้านกาแฟ เพราะธุรกิจหลักของพี่คือ รับจัดเลี้ยง รับทำโต๊ะจีน แล้วพอโควิดมาพี่เป็นธุรกิจแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบเพราะด้วยนโยบายของรัฐบาลคนก็เลยไม่สามารถจัดงานเลี้ยงพี่ก็จำเป็นต้องปิดร้าน ปรับจากรับจัดเลี้ยงมาเป็นร้านกาแฟ ร้านกาแฟที่เห็นตอนนี้เมื่อก่อนเป็นโรงอบตุ๊กตาตอนแรกไม่ใช่สภาพนี้แต่ตัวโครงสร้างบ้านมันเป็นแบบนี้แหละพี่ก็มาปรับปรุงรีโนเวทใหม่และ
ด้วยความที่ร้านเราตั้งอยู่นอกเมืองแล้วลักษณะร้านพี่เป็นแนวไม้ๆ วินเทจ พี่ก็เลยตั้งชื่อร้านว่า Rustic Coffee House เพราะคำว่า Rustic มันไม่ใช่แค่ "สไตล์การตกแต่ง" แต่มันแปลว่า นอกเมือง ชานเมืองได้ด้วย
เดินเข้าร้านแล้วเหมือนได้กลับบ้านคุณปู่
ดีไซน์ร้านกาแฟเป็นเสน่ห์ส่วนหนึ่งที่สามารถดึงดูดความสนใจของคนที่มา Rustic Coffee House ก็เช่นกัน คุณแจนบอกว่า พี่มีคอนเซปต์คือเราอยากให้มีความรู้สึกแบบเหมือนเดินเข้ามาแล้วได้กลับบ้านคุณตา คุณปู่ เหมือนได้กลับบ้านญาติ คือเข้ามาแล้วเป็นกันเอง รู้สึกอบอุ่นและ สบายใจ พี่อยากให้ร้านออกมาเป็นอย่างนั้นแล้วตอนนี้มันก็ออกมาเป็นนั้นจริงๆ
รถเก่าคือแพชชั่น
ใครเคยชอบอะไรมากๆ จนสิ่งที่ชอบนั้นกลายเป็นสิ่งที่เราหลงใหลบ้างก็คงเหมือนกับแฟนของคุณแจนที่ชอบรถเก่าชอบจนซื้อเก็บไว้ คุณแจนเผยว่า แฟนพี่เขาชอบรถเก่าอยู่แล้ว ส่วนตัวคือเขาชอบมานานละ ก็เลยซื้อเก็บไว้ ที่จริงก็ไม่ได้ตั้งใจเอามาตกแต่งที่ร้าน แค่เอามาจอดทิ้งไว้ที่นี่มันเลยกลายเป็นเสน่ห์ของร้านเรา
Everyday Taking
เราทุกคนจะมี Every Look เป็นของตัวเองเพราะว่าเป็นลุคที่เราสามารถแต่งได้ทุกวัน เน้นความเรียบง่าย แต่จะเป็นยังไงถ้าเกิดกาแฟกลายเป็น Everyday Taking ของเราในทุกๆ วัน คุณแจนบอกว่า พี่อยากให้กาแฟร้านพี่เป็น Everyday Taking คุณสามารถซื้อได้ทุกวัน กินได้ทุกวัน ไม่ใช่ราคาที่กินแล้ว โอ้ยจะกินอาทิตย์ละครั้งพี่อยากขายได้ทุกวัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ชนชั้นไหน หาเช้ากินค่ำ ทุกคนมากินได้ทุกวัน
ปรับสูตรเอง เทสเองจนเวียนหัว
ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ถ้าเราตั้งใจและมีเป้าหมายที่แน่วแน่ เพราะเมนูเครื่องดื่มในร้าน Rustic Coffee House มีจุดเริ่มต้นมาจากความไม่รู้ คุณแจนบอกว่า เอาจริงๆ นะ ตอนแรกพี่ไม่มีพื้นฐานไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับกาแฟแต่ด้วยความที่พี่เป็นทำคนรับงานจัดเลี้ยงเรามีเทสเรื่องอาหารอยู่แล้ว เราก็จะรู้ว่ารสนี้พอดีรึยังทุกเมนูพี่เทสเอง ปรับสูตรเอง คิดสูตรเองบางส่วน ในส่วนตัวพี่ก็คิดว่ามันไม่ได้อยากขนาดนั้นไง แต่เอาจริงมันก็ยากนะ
เพราะมันเป็นงานที่ละเอียดกว่าสูตรเครื่องดื่มจะนิ่งก็ใช้เวลากว่าสองถึงสามเดือน ทุกเมนูพี่กินแล้วอร่อย ดูดเข้าครั้งแรกมันต้องอร่อยเลยมันต้องรู้สึกแบบนั้น ถ้าสมมติว่ากินแล้วรู้สึกหื้มใช่รึป่าวเราก็จะไม่มีครั้งต่อไป ลูกค้าก็จะไม่รักเราไม่ติดเรา
เมล็ดกาแฟไทยต้องแน่นไว้ก่อน
คนไทยก็คือคนไทย ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนเราก็คงโหยหารสชาติความเป็นไทย อย่างเรื่องกาแฟทางร้านของคุณแจนเลือกใช้แค่เมล็ดกาแฟไทย คุณแจนให้เหตุผลว่า ตอนนี้คุณภาพของเมล็ดกาแฟไทยดีมากนะคะ เทียบเท่าและดีกว่าเมล็ดเมืองนอกบางตัวด้วยซ้ำอย่าดูถูกเมล็ดไทย เมล็ดกาแฟไทยดีนะ แล้วมันก็เป็นรสชาติไทยด้วย คนไทยชอบรสชาติแน่ เมืองนอกเขาชอบหอมบางแล้วอีกอย่างพี่สนับสนุนคนไทย คนไทยไม่รักกันแล้วเราจะไปรักใครพี่ก็ดูว่าสินค้าของเราก็ไม่ได้ด้อย เด่นด้วยซ้ำ เราต้องผลักดันกัน
ทุกอย่างอยู่ที่ความใส่ใจ
เรามักมองหาสิ่งที่อยู่ไกลตัวจนบางครั้งเราอาจจะลืมไปว่าสิ่งใกล้ตัวเรานี่แหละคือกุญแจสำคัญของทุกสิ่ง คุณแจนเล่าให้ฟังว่า กาแฟที่ดีต้องมีความใส่ใจ ไม่ต้องอะไรมาก จะเริ่มดูตั้งแต่บดเลยนะ บดดีไหม พอมาอัดเครื่องชง สายกาแฟดีไหม ครีมม่าออกไหม กาแฟเก่ารึยัง แก๊สเยอะไปไหม ทุกอย่างอยู่ที่ความใส่ใจแค่อย่างเดียวเท่านั้นก็ครอบคลุม
เราอาจจะคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำธุรกิจคือ “เงิน” ก็อาจจะจริงเพราะเราต่างมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน แต่สำหรับคุณแจนสิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำธุรกิจคือ “พันธมิตร มิตรภาพ” คุณแจนเล่าให้ฟังว่า ด้วยปกติพี่ทำอาหารถ้ามีลูกค้าชม พี่จะรู้สึกพี่มีความสุขแล้วพอมาทำกาแฟแล้วมีคนชมพี่ก็จะมีความสุข บางทีลูกค้าดีกว่าเพื่อนที่มีอีกนะบางทีเขาหวังดีกับเรามากกว่าที่เพื่อนบางคนอีก นี่แหละคือสิ่งสำคัญ พี่จะประทับใจลูกค้าเพราะว่าลูกค้าที่เข้ามาในร้านเขาให้พลังเรา เราเห็นเขามีความสุขพี่ก็มีความสุข
สุดท้ายนี้คุณแจนฝากแนวคิดดีๆ ให้พวกเราชาวเอพพิซเต้ “ ถ้าคุณชอบคุณทำเลย ไม่ต้องคิดมาก ทุกอย่างที่เราคิดไว้มันจะตามกันมาเลยนะ ถ้าเราชอบ เรามีความสุขแล้วมันจะไม่มีคำว่าท้อ มันก็ท้อที่ขายไม่ได้แต่มันมีความสุข อะไรที่เราทำเพราะความชอบ มันคัดสรรสิ่งดีๆ เข้ามาแล้วเราก็จะได้เจอคนดีๆ ”
ชีวิตเป็นของเราอย่าให้ใครมาเปลี่ยนตัวตนเพียงเพราะเขาไม่เห็นด้วยกับความคิดของเรา เอพพิซเต้เชื่อว่าเรามีความสุขกับสิ่งที่เราชอบได้ถ้าเรารู้จักคำว่าสมดุล เพราะทุกอย่างมันมีครอบเขต มากเกินไปก็ไม่ดี น้อยเกินไปก็ดี เพราะฉะนั้นเดินทางสายกลางคงจะเป็นทางออกที่ดี
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ จาก คุณแจน- ธดา ตันเรืองพร เจ้าของร้านกาแฟ Rustic Coffee House
สามารถติดตามร้านกาแฟ Rustic Coffee Houseได้ที่ https://www.facebook.com/Rusticcoffee.skp
โฆษณา