5 ส.ค. 2022 เวลา 22:45 • หนังสือ
เรื่อง เศรษฐีถนนสร้าง
เรื่องเล่าแห่งความทรงจำนายสุรกิจหนุ่มน้อยชาวยโสธรจบการศึกษาเพียงแค่ชั้นป. 6 ต้องเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ เพื่อหาเงินเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวเนื่องจากที่บ้านเป็นคนที่มีครอบครัวใหญ่และมีพี่น้องเยอะทำให้พ่อแม่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้หมดทุกคน
เขาจึงต้องเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ งานแรกของเขาคือการรับจ้างทำถนนเขาต้องทำหน้าที่ผสมปูนขนหินขนทรายนำมาเทถนนเขาสมัครงานกับบริษัทรับทำถนนมาตั้งแต่อายุ 13 ปีเนื่องจาก สุรกิจเป็นคนที่มีจิตใจดีและไม่ต้องเกี่ยวกับอบายมุขจึงทำให้เขาสามารถเก็บเงินส่งไปให้ครอบครัวพี่น้องที่ยโสธรกินอยู่ได้ทุกเดือน
อีกทั้งเขายังสามารถเก็บเงินส่วนหนึ่งเอาไว้ใช้เป็นทุนสำรองในการเลี้ยงชีพของเขาในแต่ละเดือนธุรกิจขยันทำงานในหน้าที่ของตนแล้วว่าตนจะศึกษามาน้อยแต่ก็ไม่เคยเปลี่ยนที่จะเรียนรู้งานยากๆสามารถทำงานในหน้าที่ยากๆแทนหัวหน้าที่หัวหน้ามอบหมายงานได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการอ่านแบบถนน การวัดอัตราส่วนผสมปูน การวางแบบเหล็ก เส้นการสร้างแนวถนน สุรกิจทำได้อย่างดี
สุรกิจต้องตระเวนไปทำงานข้างถนนทั่วประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นบนภูเขาหุบเขาริมทะเลริมแม่น้ำดินแฉะดินเปียก สุรกิจทำมาทั้งหมดแล้วจนมาวันหนึ่งสุกิจอายุได้ 27 ปีทางบ้านประสบปัญหาทุกคนเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯไม่มีใครดูแลพ่อกับแม่ที่แก่ชรา สุรกิจแล้วว่างงานในหน้าที่จะไปได้สวยได้รับไว้วางใจจากเจ้าของบริษัทให้เป็นผู้คุมงานและรับผิดชอบลูกน้องได้เหมือนวิศวกรเลยก็ตาม
สุรกิจรู้บุญคุณของพ่อแม่จึงขอเจ้าของบริษัทกลับไปดูแลพ่อแม่ที่ยโสธรในความกตัญญูของธุรกิจในครั้งนี้ ทำให้สุรกิจต้องทิ้งงานที่เขารักกลับไปที่ยโสธร สุรกิจมีเงินเก็บออมอยู่ก้อนหนึ่งสามารถเลี้ยงดูตนเองได้ถึง 2 ปีเป็นอย่างน้อยอีกทั้งยังสามารถดูแลพ่อแม่ได้อีกด้วย
สุรกิจจึงคิดแล้วว่าเขาน่าจะกลับไปอยู่ที่ยโสธรได้เมื่อไปถึงที่ยโสธรเขาก็ลงมือปรนนิบัติดูแลพ่อแม่เป็นอย่างดีจัดเรียงและบ้านให้สะอาดสะอ้านมีมูลค่าผ่อนให้พ่อแม่ อาหารการกินให้พ่อแม่อย่างดีแม้ว่าจะไม่มีเงินจ้างคนมาเลี้ยงดูในขั้นต้น สุรกิจก็สามารถทำการดูแลพ่อแม่ได้เป็นอย่างดีไม่นานนัก สุรกิจก็คิดไอเดียในการหาเงินได้
สุรกิจจึงตั้งป้ายหน้าบ้านว่ารับทำถนนในหมู่บ้านมีอบตต้องการสร้างถนนเส้นเล็กๆ 1 เส้นเข้าหมู่บ้าน แม้ว่ารักและทางจะไม่ไกลมากเพียงแค่ 3 กิโลเมตร แต่ก็ต้องใช้เงินทุนมากธุรกิจเข้าไปคุยกับนายกอบต. เรื่องความสามารถของตนเองและพร้อมที่จะรับผิดชอบในการทำถนนดังกล่าวอบตกล่าวว่าสุรกิจมีความสามารถก็จริงแต่ต้องมีหลักประกันที่จะทำงานนี้ให้สำเร็จด้วยไม่ใช่จะมีเพียงความสามารถอย่างเดียว เช่นเงินคน สิ่งของ และกำหนดระยะเวลาในการทำให้เสร็จอย่างแน่นอน
แม้ว่าธุรกิจจะกลุ้มใจเพราะตัวเอง นั้นไม่มีอะไรเลยสักอย่างมีเพียงความรู้และประสบการณ์เท่านั้นธุรกิจซื้อสมุดมา 1 เล่มพร้อมปากกา 1 แท่งค่อยๆเขียนรายละเอียดทั้งหมดที่เขาต้องการแล้วนำเอาไปคุยกับธนาคารธกส. เพื่อขอกู้เงินซื้ออุปกรณ์และเงินจำนวนหนึ่งเพื่อจะเอามาเป็นต้นทุนในการสร้างถนนกิโลเมตรแรกเพราะเขาคุยกับ อบต.ว่าจะขอแบ่งทำเป็น 3 ระยะ เมื่อทำระยะแรกเสร็จเขาให้อบตจ่ายเงินให้ก่อนเขาจะเอาเงินนี้ไปจ่ายคืนธนาคารและสร้างกิโลเมตรที่ 2-3 ต่อไป
ธนาคารเห็นรายละเอียดที่ชัดเจนในการนำไปซื้ออุปกรณ์สิ่งของและการจ้างงานและมีกำหนดการใช้เงินอย่างชัดเจนธนาคารจึงมอบเงินกู้จำนวนนั้นให้กับสุรกิจ เขาดีใจมากและได้นำเงินดังกล่าวมาใช้ทำถนนให้สำเร็จสุรกิจทำงานด้วยความตั้งใจคุมงานเองออกแบบ เองลงมือสอนลูกน้องเองลูกน้องของสุรกิจเป็นคนที่ขยันขันแข็ง
แม้ว่าจะไม่มีความรู้แต่เศรษฐกิจก็สามารถสอนและให้ความรู้พวกเขาได้อย่างมีเมตตาเหมือนกับเขาตอนสมัยที่เขาเป็นเด็กๆไม่มีความรู้ก็ได้รับความรู้จากพี่ๆที่เขาทำงานมาก่อนสอนงานให้สุรกิจจึงสามารถควบคุมทำงานทำถนน 100 เมตรแรก 200 เมตร 300 เมตรจนกระทั่งถึง 1 กิโลเมตรได้เป็นอย่างดีออกมาสวยงามแข็งแรงตามแบบอบต เห็นงานที่สุรกิจทำจึงมอบเงินดังกล่าวให้กับธุรกิจในระยะแรกเป็นจำนวนและอีกทั้งจ่ายในระยะที่ 2 ที่ 3 ทำให้ธุรกิจมีเงินเป็นทุนในการทำถนนให้สำเร็จ
อีกทั้งเขายังมีเงินไปใช้คืนธนาคารสุรกิจใช้เงินทองอย่างรู้คุณค่าเก็บหอมรอมริบสร้างถนนเส้นต่อไปโดยอบตต่างๆก็บอกกันให้ช่วยกันมาจ้างงานสุรกิจ เพราะเขามีฝีมือดีและทำงานได้อย่างมีคุณภาพสุรกิจจึงมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่องเขามีเงินทองมากมายสามารถดูแลพ่อแม่ ที่แก่ชราจ้างคนมาดูแลพ่อแม่สร้างบ้านให้แม่ใหม่อีกทั้งยังมีอาหารการกินให้พ่อแม่กินอย่างดี
เศรษฐี ถนนสร้าง
สุรกิจเป็นตัวอย่างของเศรษฐีรุ่นใหม่ที่ไม่ยอมแพ้อุปสรรคแม้ว่าจะมีการศึกษาน้อยในเวลาเริ่มต้นแต่สุดท้ายก็ฝ่าฟันอุปสรรคสร้างชีวิตสร้างตนเองดูแลครอบครัวให้เจริญรุ่งเรืองมีเงินทองมากมายจากน้ำพักน้ำแรงของตนเองเรื่องเล่าเรื่องสุรกิจคนสร้างถนนก็จบลง
โฆษณา