ผับเถื่อน และเพลิงไหม้ที่สัตหีบกับหลักการควบคุมดูแลและมาตรการเยียวยา
จากเหตุซานติก้า 14 ปีที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมันน่าหดหู่เหลือเกินกับบ้านเรา กับคำว่าแนวคิดวิชาการกับการปฏิบัติไม่สอดรับกัน
ผมสะเทือนใจและเจ็บปวดกับเหตุการณ์เพลิงไหม้ผับดังเมืองสัตหีบ "เมาท์เทน บี ผับ" ณ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยขณะเกิดเหตุมีนักเที่ยวราวๆ 100 ชีวิตในนั้น โดยมีการตรวจพบต้นเพลิงจากบริเวณหลังคาที่มีการฉีดพ่นโฟมสำหรับซับเสียงซึ่งเป็นวัตถุติดไฟได้ง่ายและลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั่วอาคาร เพิ่มเติมจากปากคำของผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ก่อนจะเกิดเพลิงไหม้ ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง บริเวณข้างบู๊ทดีเจ ก่อนจะเกิดประกายไฟ และไปติดชนวนโฟมซับเสียง จนลุกลามไปทั่วผับอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่พระเพลิงทิ้งไว้คือความสูญเสีย และน้ำตา
ในตอนนี้ที่ผมเขียนต้นฉบับมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 13 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 41 รายถูกส่งตัวรักษาไปยังสถานพยาบาลต่างๆ
ก่อน และหลัง
ตอนแรกที่ผมอ่านข่าวนี้ สิ่งแรกที่ผมคิดถึงคือเหตุการณ์ดังในอดีตคือซานติกาผับบนเอกมัยเมือ10 ปีที่แล้วที่เราอาจได้ยินมา และเหตุการณ์แบบนี้ที่ไม่ได้เป็นข่าว เลยอยากจะถอดบทเรียนมาตรฐานการตรวจสอบอาคาร ใบอนุญาติ และการกวดขันเข้มงวดภาครัฐในการดูแลคนไทยที่เสียภาษี แต่มาสะดุดใจเมือเห็นหัวข่าวเกียวกับภาคปฎิบัติการลงทะเบียนเยียวยาผู้ประสบภัยแล้ว
ก่อนอื่นผมจะเล่าเรื่องซานติก้าก่อนครับ
เมือไร? คืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 31 ธ.ค. 2551 เมื่อ 14 ปีก่อนที่มีตัวเลขผู้เสียชีวิต 67 คน บาดเจ็บสาหัส 45 คน และบาดเจ็บ 72 คน
จุดสังเกตและปัจจัยหลัก
1. ประตูหน้ามีความกว้างเพียง 2 เมตรครึ่ง ประตูหนีไฟถูกปิดแน่น เนื่องจากพนักงานในร้านกลัวมีคนแอบเข้ามา หรือออกไป
2. สเปเชียลเอฟเฟกต์ประกอบการแสดงบนเวทีเป็นต้นเพลิง ซึ่งลุกลามอย่างรวดเร็ว ไปถึงชั้นสองของผับ เนื่องจากวัตถุในอาคารเป็นเชื้อเพลิงไวไฟ รวมถึงผนังโฟมซับเสียง
3. นักท่องเที่ยวพยายามหนีออกมาทางประตูหน้า แต่เนื่องจากประตูมีขนาดเล็ก จึงเกิดการแออัด เบียดเสียด และการเหยียบกัน ผู้คนออกมาไม่ได้
บทสรุปคดีละ? ศาลฎีกาสั่งจำคุกผู้บริหารซานติก้าผับ 3 ปี ฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย บริษัทโฟกัสไลท์ฯ ผู้รับติดตั้งเอฟเฟกต์ พร้อมให้บริษัทชดใช้เงินให้ญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ
รู้สึกว่าเราเจาะเวลาหาอดีตอีกครั้ง กับ 3 ประเด็นข้างตน
ฟังแล้วรู้สึกไหมว่ามันคล้ายๆกันแต่เมาท์เทน บี หนักกว่าเพราะว่า เมาท์เทน บีผับ เป็นสถานบันเทิงที่ไม่ได้รับอนุญาต แม้จะขออนุญาตก่อสร้างเรียบร้อยเป็นร้านอาหารจำหน่ายสุรา แต่ภายหลังได้ดัดแปลงสถานที่
“การต่อเติมถือว่าผิดกฎหมาย เพราะต้องมีการตรวจ หรือเจ้าหน้าที่รับรองอีกที ร้านข้างหน้าข้างหลังเจ้าของเดียวกัน”
ประเด็นผับเถื่อนไม่ได้มีแต่เรื่องภาษี โครงสร้างอาคาร แต่มันมักมากกับมาตรการความปลอดภัยไม่รัดกุม พนักงานขาดความเข้าใจ การอบรมที่ถูกต้อง และสุดท้ายถ้าเกิดอะไรขึ้นจะเป็นโศกนาฏกรรมแบบ เมาท์เทน บี นำมาถึงความสูญเสียการของประชาชน ผมมองว่าปัญหาผับเถื่อนมาจากแนวคิดวิชาการกับการปฏิบัติไม่สอดรับกัน
ข้อมูลง่ายๆ เทียบความแตกต่างวีธีเลี่ยงบาลี
ตามกฎหมายถ้าคุณอยากประกอบกิจการผับ กฎหมายว่าด้วยอาคารสถานบันเทิงมีข้อกำหนดว่าสถานบันเทิงสำคัญเกียวกับความปลอดภัย 3 หัวใจหลักคือ
1. ต้องมีทางออกอย่างน้อย 2 ทาง และถ้าเป็นขนาดใหญ่ขึ้น สามารถรองรับคน 200-400 คน จะต้องมีอย่างน้อย 3 ทางออก และถ้าใหญ่ถึงขนาด 400-700 คน ต้องมี 4 ทางออก เป็นต้น
2. ทางเข้าออก - ทางเข้าออกหลักควรต้องมีความกว้าง สามารถให้ประชาชนอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของจำนวนที่รองรับได้ทั้งหมด ออกไปพร้อมกันได้
3. ป้ายกำกับและป้ายทางหนีไฟ – สถานบันเทิงต้องตั้งป้ายระบุให้ชัดเจนว่ารองรับประชาชนได้สูงสุดกี่คน และด้วยภายในอาคารค่อนข้างมืด ป้ายทางหนีไฟยิ่งต้องเห็นได้ชัดเจน
ประเด็นการบังคับใช้กฎหมายเพื่อดูแลประชาชน
ผมขอพูดว่าห่วงใยและกังวลใจมากกว่า เพราะไม่เคยเห็นการเปลี่ยนในจุดนี้เลย เอาแค่ครั้งนี้เชื่อไหมครับ น่าตกใจมากว่ามีเคยมีรายงานถึงภาครัฐว่าผับแห่งนี้ถูกร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่เรื่องเสียงดังมาก่อน และผับไม่มีประกันอัคคีภัย!
เมือวานวันที่ 5 สค, นายอำเภอสัตหีบโดนคำสั่งไปช่วยราชการที่กรมการปกครองเพื่อเซ่นไฟไหม้ผับคลอกดับ 14 ศพ มันซ้ำซากกับการโดนปฏิบัติแบบนี้
หนังสือย้าย!! แค่นั้น
มันหมดยุคแค่เด้งด่วนๆแล้วไหมครับในความคิดผมเพราะบทลงโทษแบบนี้ไม่ได้น่าเกรงขามอะไรเลย เพราะเจ้าหน้าที่รัฐมีหน้าที่ใช้กฎหมายเพราะเรามีกฎหมายแล้ว เราก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และ ต้องมีการกำกับดูแลโดยพวกเขาในการตรวจสอบอาคาร ไม่ว่าจะหลักการง่ายๆใบอนุญาตเปิดผับ ประเภทอาคาร หรือแม้แต่ว่าทางหนีไฟต้องใช้ได้จริงไหม ไม่มีวัสดุสิ่งของมากีดขวาง ระบบดับเพลิงต้องใช้ได้ และมีแผนฉุกเฉิน ถ้าคุณละเลย ลงโทษแค่ย้ายด่วนคงไม่พอทั้งหัวหน้า ลูกน้อง เพราะคุณไม่ทำงานที่พวกคุณได้รับมอบหมายจากภาษีประชาชน
ส่วนเราทุกคนก็ต้องช่วยกันตรวจสอบด้วยครับ เราจะไปใช้บริการที่ไหน หรือในระแวกบ้านของเรา ก็ต้องรู้ว่าอาคารแต่ละประเภทมีข้อกำหนดความปลอดภัยอย่างไร
ระหว่างเขียนผมอดตกใจไม่ได้หลังมาเห็นภาพผู้ประสบภัยมาลงทะเบียนรับความช่วยเหลือด้วยตนเองในสภาพที่เรียกว่ายังบาดเจ็บไม่หายดี แผลยังสดแต่ต้องมาเอง หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี (ปภ.) ตั้งศูนย์บัญชาการที่เกิดเหตุช่วยเหลือและเยียวยาวผู้ประสบเหตุ โดยทุกคนต้องไปเองทำเอง ตรงกับที่ผมพูดว่าแนวคิดวิชาการกับการปฏิบัติไม่สอดรับกัน
ลงออนไลน์ก็ได้นะครับลูกพี่ หรือบริการประชาชนสักนิดก็ดีนะ
ดูแลตนเองนะครับ เพราะ 14 ปี ผับเถื่อนยังมีอยู่ การประกาศช่วยเหลือก็ต้องให้ประชาชนพยายามมาเอง
เราคงหวังอะไรไม่ได้มากนัก…
สุดทัายขอแสดงความเสียใจต่อทุกคนที่สูญเสียครับ
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
