6 ส.ค. 2022 เวลา 20:17 • หนังสือ
เรื่อง เศรษฐีน้ำฝนเก็บ
บุษกรชายหนุ่ม รับผิดชอบเก็บน้ำใส่ตุ่มให้ครอบครัวมาตั้งแต่ยังเล็ก น้ำใส่ตุ่ม ที่บุษกรเก็บไว้นั้นใช้ประโยชน์ทั้งหมดภายในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นกินดื่มทำกับข้าวอาบน้ำล้างเครื่องใช้ทำความสะอาดบ้านล้วนมาจากน้ำที่บุษกรเก็บใส่ตุ่มมาทั้งนั้น
บ้านของเขามีตุ่มทั้งหมด 15 ใบเขาจะลองน้ำใส่ตุ่นเจ็บไว้จนเต็มแล้วเรียนใช้น้ำโดยเขาจะนำน้ำไปเติมลำเลียงน้ำไปเติมให้เต็มไว้ 15 ตุ่มอยู่เสมอโดยแบ่งไว้อย่างชัดเจนว่าตุ่มใปไหนน้ำนี้เอาไว้ ทำอะไร ทุกคนในครอบครัวก็จะรู้ดีว่าน้ำนี้ไว้ใช้ดื่มกินน้ำนี้เอาไว้ใช้อาบสามนี้เอาไว้รดน้ำต้นไม้รดผักงั้นนี้เอาไว้ทำกับข้าวหรือล้างจานอุปกรณ์
บุษกรจะวางแผนเอาไว้ ก่อนล่วงหน้าการใช้บุษกรต้องเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯเขาเรียนในวิชาที่เขามีความถนัดก็คือวิชาภาษาไทยเพราะเขาเป็นคนชอบอ่านหนังสือและแต่งกลอนกาพย์ยานีและการเขียนคำต่างๆ ในรูปบทกลอนร้อยแก้วมีการสัมผัสในรูปประโยชน์ต่างๆเมื่อใครได้อ่านแล้วก็จะรู้สึกประทับใจ
เมื่อบุคลากรเรียนจบก็สมัครมาเป็นครูอยู่นะจังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาสอนหนังสืออยู่ในโรงเรียนเล็กๆ โรงเรียนมีชั้นการศึกษาระดับประถมปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 เด็กๆนักเรียนก็ไม่มากนักเขาจึงสามารถสอนหนังสือได้อย่างดีและมีคุณภาพให้กับเด็กๆอีกทั้งยังมีเวลามากมายในการคิดและทำเรื่องที่ตนเองรับได้อีกหลายอย่าง
จนกระทั่งมาวันหนึ่งบุษกร เห็นเหมืองดินที่ร้างว่างเปล่า ไม่มีคนสนใจเนื่องจากเป็นบ่อดินใหญ่ลึกและคนไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้แล้วเนื่องจากขายดินไปเป็นจำนวนมากจึงทำให้บ่อดินนี้ลึกและใช้ประโยชน์ไม่ได้บุษกรเห็นเข้า
จึงคิดว่าอยากจะเอาบ่อดินนี้มาเก็บกับน้ำเอาไว้เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้คนและตนเองในภายภาคหน้าจึงขอซื้อที่แห่งนี้จากเจ้าของบ่อดินนี้มีขนาดกว้าง 5 ไร่เนื่องจากบุษกรทำงานเป็นครูมาแล้วเกือบ 10 ปีจึงมี ฐานเงินเดือนที่มากพอจะขอกู้สหกรณ์ครูเพื่อนำมาซื้อที่ดินดังกล่าวโดยไม่ต้องรบกวนใคร บุษกรตกลงกับเจ้าของที่ในราคาไร่ละ 150,000 บาทจำนวน 5 ไร่เป็นเงิน 750,000 บาท นับว่าเป็นเงินค่อนข้างมาก
คนเห็นที่ดินก็ตกใจว่าเป็นที่ที่เป็นเหวแบบนี้บุษกรจะเอามาทำไมปลูกต้นไม้ก็ไม่ได้ทำอะไรก็ลำบากจะสร้างอะไรก็ต้องถมดินเป็นจำนวนมากเสียเงินเสียทองอีกเยอะบุษกรได้แต่ยิ้มแล้วคิดในใจว่าเขาจะทำที่แห่งนี้ให้เป็นประโยชน์แล้วสร้างเม็ดเงินกลับมาให้เขาจนได้
หลังจากนั้นเมื่อบุษกรได้ที่ดินผื่นแผ่นนี้มาแล้ว เขาลงมือศึกษาวิธีการอุดรูบ่อดินให้สามารถเก็บกักน้ำได้และสำรวจตรวจตาว่าจุดไหนจะทำให้เกิดการรั่วซึมของน้ำเขาใช้เวลาในการดูอุดตามแนวรูแนวร่องต่างๆเป็นเวลานาน
ใช้เวลาถึง 6 เดือนในการปรับปรุงบ่อดินให้สามารถเก็บกักน้ำได้เขาใช้ความอดทนโดยการ เอาดินในส่วนที่เป็นดินเหนียวมาช่วยกันอุดตามรูที่เป็นร่องต่างๆแล้วปล่อยให้แดดเลียจนมันแห้งทุกมุมทุกขอบบางครั้งก็ให้นักเรียนมาช่วยทำกิจกรรมบ้างแต่ส่วนใหญ่แล้วอุปกรณ์ทำเองเกือบทั้งหมด
ไม่นานนักเขาก็ทำเสร็จอุปกรณ์มั่นใจว่าถ้าฝนมาในครั้งนี้บุษกรต้องเก็บกักน้ำไว้จนได้ ในปีแรกที่ฝนตกลงมาบุษกรตั้งใจว่าต้องสำเร็จดังที่ตั้งใจปีที่ 1 น้ำไม่อยู่ในบ่อเลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะอุดยังไงก็ตามน้ำยังคงแห้งมีขังอยู่ที่ก้นเพียงเล็กน้อยประมาณ 30 ซมเท่านั้นเขายังคงตั้งใจสอนหนังสือที่โรงเรียนไปตามเดิมและค่อยๆ ผ่อนใช้เงินสหกรณ์ไปตามปกติ
ในปีที่ 2 เขายังตั้งตารอน้ำฝน ให้เต็มบ่อเหมือนเช่นเดิมผลมีการเพิ่มปริมาณจากเดิมมาเป็นได้น้ำลึกประมาณ 1 เมตรซึ่งเขาก็รู้สึกดีใจมากว่ามีโอกาสเป็นไปได้เมื่อถึงปีที่ 3 น้ำฝนตกลงมาในปริมาณที่มากทำให้น้ำเข้ามาเต็มบ่อจนเต็มเปี่ยมของบ่อ 5 ไร่ของบุษกรบุษกรมีความสุขมากที่ มีน้ำเต็มเปี่ยมเป็นของตนเอง
บุษกรเริ่มบริการให้รถสูบน้ำมาสูบน้ำไปใช้ในการเกษตรการอุปโภคบริโภคอุตสาหกรรมต่างๆทุกวันจะมีรถมาขอซื้อน้ำจากอุปกรณ์วันละประมาณ 5-10 คันทุกๆวัน แม้ว่าบุษกรจะคิดค่ารถขนน้ำคันละไม่กี่บาทแต่เมื่อหลายๆคันเข้าก็เป็นเงินหลักพันบาทเลยทีเดียวในแต่ละวันคิดเป็นเดือนหนึ่งก็ได้เกือบ 30,000 บาท ต่อเดือน
ไม่นานนัก บุตรกรก็สามารถผ่อนที่ดินที่เขากู้เงินมาได้จนหมดอีกทั้งสามารถซื้อรถบรรทุกน้ำเป็นของตนเองเพื่อนำน้ำไปขายในโรงงานและอุตสาหกรรมที่ต้องใช้งานน้ำดิบได้อย่างสบายทำให้เขามีเงินทองมากมายต่อมาเขาได้ใช้เงินนี้มาทำเป็นโรงผลิตน้ำดื่มที่ถูกหลักสุขอนามัยอีกทั้งทำโรงน้ำแข็งควบคู่ไปด้วย
ทำให้บุษกรสามารถทำเงินได้จากหลายๆทางจากบ่อน้ำที่เริ่มต้นเพียงบ่อเดียวปัจจุบันเงินทองของเขามีมากมายจนเป็นหลักล้านสามารถปลูกบ้านใช้หนี้สินและดูแลครอบครัวได้เป็นอย่างดีชีวิตของบุคลากรอยู่ดีมีความสุขก็ต้องขอบคุณน้ำฝนที่ให้คุณค่ากับอุปกรณ์และอุปกรณ์ก็เห็นคุณค่าของน้ำฝนทำให้เขาเป็นเศรษฐีที่ยั่งยืนในพระเพชรบูรณ์จนมาถึงปัจจุบันเรื่องเล่าเรื่อง เศรษฐีน้ำฝนเจ็บก็จบลง
เศรษฐี น้ำฝนเก็บ
โฆษณา