รีวิว Prey 2022 รีบูตจักรวาลพรีเดเตอร์ที่ดีงามที่สุด
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือภาพยนตร์ทางสตรีมมิ่งออนไลน์ที่กำลังเป็นที่สนใจไม่น้อยกับเรื่อง Prey 2022 ตำนานแฟรนไชส์ที่ถูกรีบูตขึ้นมาใหม่ ซึ่งการรีบูตในครั้งนี้ต้องเรียกว่า เป็นการเดินมาถูกทางอย่างแท้จริง เพราะตลอดความยาว 1 ชั่วโมง 39 นาที มันอัดแน่นไปด้วยความสนุก ลุ้นระทึกตั้งแต่ต้นยันจบ
และไอ้เจ้าประโยคที่ผู้เขียนบอกว่าหนังเดินมาถูกทาง นั้นเป็นเพราะก่อนหน้านี้กระแสและคำวิจารณ์ของแฟรนไชส์ชุด Predator ค่อนข้างย่ำแย่จนน่าใจหาย ตั้งแต่เวอร์ชั่นปี 2010 ที่เรารู้จักกันในชื่อ มหากาฬพรีเดเตอร์ ที่ดูเหมือนจะดีแต่ก็ไปไม่สุดในด้านของเนื้อเรื่อง แถมตอนจบที่ดูเหมือนจะสานต่อได้ แต่กลับถูกทิ้งไว้กลางทางอย่างน่าเสียดาย
https://twitter.com/GeeklyGoods
และในปี 2018 การปลุกตำนานกลับมาอีกครั้งในชื่อของ The Predator นั้น ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรีแฟรนไชส์ชุดนี้ได้เลย ถึงแม้ The Predator จะมีการใส่ลูกเล่นตัวละครชนเผ่ายวตจา (Yautja) มามากมาย ที่มันก็ตกม้าตายในส่วนของเส้นเรื่องอยู่ดี
แต่พอแฟรนไชส์มาอยู่ในมือของผู้กำกับอย่าง แดน แทรคเทนเบิร์ก (Dan Trachtenberg) เจ้าของผลงาน 10 Cloverfield Lane และซีรีส์อย่าง Black Mirror ก็ดูเหมือนว่าตำนานแฟรนไชส์ชุดนี้ดูเข้าที่เข้าทางมากขึ้น คะแนนจากเว็บ Rotten Tomatoes ที่สูงถึง 92% บวกกับกระแสผู้ชมทางฝั่งบ้านเราที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าโครตมันส์
https://twitter.com/GeeklyGoods
ซึ่งเนื้อเรื่องหลักๆของ Prey ต้องบอกกับท่านผู้ชมว่ามันไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากมาย การเดินเรื่องที่เรียบง่ายเหมือนเราได้ย้อนกลับไปดู Predator ภาคแรกของ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (Arnold Schwarzenegger) นิยามของแฟรนไชส์ชุดนี้ ที่พูดถึง ผู้ล่ากับผู้ถูกล่า ได้อย่างชัดเจน
แถมการเล่าเรื่องที่ย้อนกลับไปในยุคโบราณของชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันอย่าง โคแมนชี (Comanche) ที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้ล่าโดยที่อาวุธยุทโธปกรณ์ของพวกเขามีเพียงแค่ ธนู หอก ขวาน เท่านั้น ไอเดียตรงนี้มันเลยเป็นจุดดึงดูดผู้ชมให้มาคอยลุ้นว่าพวกเขาจะรับมือกับอสูรกายที่ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีด้วยวิธีการใด
https://twitter.com/GeeklyGoods
ตัวหนังเดินเรื่องแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่ในความง่ายนั้นมันกลับเต็มไปด้วยความน่าสนใจหลายจุดไม่น้อยเลย ทั้งเรื่องของผู้ล่าที่ดูห่างชั้นกับมนุษย์อยู่มาก ทั้งสติปัญญา พละกำลัง อาวุธ แต่ในทางกลับกันผู้ถูกล่าอย่าง นูรา ก็ดูเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยไหวพริบและพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าเธอเป็นเหมือนมวยรองที่คนดูพร้อมเอาใจช่วยตลอดทั้งเรื่อง
อีกหนึ่งอย่างที่ผู้เขียนเองรู้สึกชอบเป็นพิเศษคือการดีไซน์ตัวละครของ Predator ภาคนี้ออกมาน่าสนใจ ดูเข้ากับยุคสมัยเวลานั้นได้ลงตัว อีกทั้งบรรดาอาวุธคู่ใจเองก็ทำออกมาน่าดูชมไม่น้อยทั้ง มีดสนับแขน(Wrist Blades) ปืนหัวไหล่(Shoulder Cannon) หน้ากากชีวภาพ(Bio Mask) ที่ดูไม่ล้ำอนาคตจนเกินไป ยังมีความดิบๆ เหมาะสมกับยุคโบราณอยู่
https://twitter.com/ErikDavis
ในส่วนของตัวละครนั้นต้องบอกว่านักแสดงอย่างคุณ แอมเบอร์ มิดธันเดอร์ (Amber Midthunder) ที่รับบท นารู เธอสามารถดึงผู้ชมได้อยู่หมัดตลอดทั้งเรื่องจริงๆ ด้วยคาแรคเตอร์ที่ถูกเซ็ตมาให้เป็นตัวละครที่ฉลาด เวลาเธอจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างมันเลยดูออกมาไม่ค่อยขัดใจคนดูมากนัก แถมตอนจบเองที่เธอดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับ Predator (สูตรสำเร็จที่มีเกือบทุกภาค) ก็ทำออกมาได้น่าทึ่ง ลุ้นแบบคนดูเท้าจิกพื้นยันตอนสุดท้ายกันเลยทีเดียว
https://twitter.com/GeeklyGoods
สรุป Prey เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การดูเป็นอย่างยิ่ง เนื้อเรื่องที่ดูสนุกแถมย่อยง่ายถึงแม้ใครที่ไม่เคยผ่านตาแฟรนไชส์ชุดนี้มาก่อน ก็สามารถบันเทิงไปกับความยาวตลอดทั้ง 1 ชั่วโมง 39 นาที ได้อย่างเพลินๆ ส่วนใครที่สนใจก็สามารถหาชมได้ทางสตรีมมิ่งออนไลน์ Disney+ Hotstar ได้เลย
ติดตามพวกเราได้อีกช่องทาง Youtube
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
