7 ส.ค. 2022 เวลา 12:07 • ไลฟ์สไตล์
อารมณ์เกิดง่าย สติต้องฝึกจึงจะควบคุมอารมณ์ได้ทัน ไม่เกิดความเสียหาย เปรียบสติ เป็นการสร้างสติจะยาก การทำลายคืออารมณ์จะเกิดได้ง่าย
คนฉลาดมักอารมณ์แรง
และธรรมดา
ยิ่งอารมณ์แรงมากขึ้นเท่าไร
ก็ยิ่งมีแนวโน้ม
จะหุนหันพลันแล่นมากขึ้นเท่านั้น
ภาวะหน้ามืดหุนหันพลันแล่น
คือแนวโน้มให้เกิดพฤติกรรมแบบคนโง่
ยิ่งพฤติกรรมแบบคนโง่
เกิดขึ้นบ่อยเท่าใด
ปมปัญหายิ่งซับซ้อน
เอาความฉลาดตามมาแก้
ในภายหลังได้ยากขึ้นเท่านั้น
1
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียว
ที่รวมเอาความฉลาดสุด
กับโง่สุดไว้ในตัวคนคนเดียวได้
สร้างชีวิตดีๆ
ด้วยความคิดอ่านชาญฉลาดได้
เสร็จแล้วก็ทำลายชีวิตดีๆนั้นด้วยอารมณ์โง่งมได้
หรืออีกทีก็ก่อปัญหาขึ้นมา
ด้วยความฉลาดแบบครึ่งๆกลางๆได้
เสร็จแล้วตอกย้ำซ้ำเติม
ด้วยความโง่แบบเต็มๆได้
ที่เป็นเช่นนั้น
เพราะธรรมชาติของจิต
จะถูกหุ้มห่อด้วยโมหะ
อันเปรียบเหมือนเมฆหมอกมืดดำ
ที่ปิดกั้นปัญญา
โมหะมีทั้งแบบปิดบัง
ให้มืดบอดตลอดชีวิต
เหมือนเช่นสัตว์นรก
และสัตว์เดรัจฉานบางพวก
ที่มีบาปหนาแน่น
โมหะมีทั้งแบบปิดบังให้มืดสนิท
แล้วเปิดโอกาสให้สว่างบ้าง
เหมือนเช่นเปรตและมนุษย์
ที่สะสมทั้งบาปทั้งบุญมาไม่น้อย
โมหะมีทั้งแบบเบาบาง
อย่างผู้มีธุลีในดวงตาเพียงน้อย
เหมือนเช่นมนุษย์ผู้มีสติที่เจริญขึ้น
รู้ความจริงตรงหน้ามากแล้ว
จัดการกับอารมณ์หยาบๆได้ดีมากแล้ว
ศาสนาพุทธมีขึ้น
เพื่อทำโมหะของมนุษย์ให้เบาบางลง
จนเกิดแสงปัญญาชำแรกโมหะ
กระทั่งสลายโมหะสิ้นเชิง
ดุจแสงจ้าของดวงอาทิตย์
ทำลายไอหมอกลงไม่เหลือ
คนฉลาดที่เจริญสติ
กระทั่งสติมีกำลังเกินอารมณ์
ในที่สุดจะฉลาดจริง
เพราะไม่มีอารมณ์ชนิดไหน
ทำให้หน้ามืดหุนหันพลันแล่นได้
ไม่เปิดโอกาสให้ฝากแผล
ไว้กับชีวิตแบบคนโง่ได้อีกเลย!
ดังตฤณ
โฆษณา