8 ส.ค. 2022 เวลา 04:18 • การ์ตูน
EP : 534 (Repost)
บริษัทสัมผัสกรรม
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้สำหรับผมคงเป็นเพราะผมเห็นการ์ตูนเรื่องนี้ลดราคาอยู่หน้าเวปของ Zenshu ครับและผมก็เห็นมันลดราคาอยู่นานแล้วระยะเวลานึงก็เลยสนใจ แต่ต้องบอกว่าด้วยหน้าปกที่มันไม่สามารถบอกให้ผมรู้ได้ว่ามันเกี่ยวกับเรื่องอะไร เลยใช้เวลาตัดสินใจนานมากกว่าจะหามาอ่านได้ และเมื่อได้มาก็ดองไว้อีกระยะนึงด้วยมีเรื่องอื่นที่หน้าปกเร้าใจให้อ่านก่อน เรื่องนี้เลยอยู่ในลิสไม่ว่างจริง หรืออารมณ์ไม่มาจะไม่ขอหยิบอ่านนะแหล่ะครับ
เอาละและตอนนี้อารมณ์ที่ว่ามันก็มาแล้ว และหยิบอ่านจนจบแล้ว อืมม.... ก็ต้องขอบอกไว้คร่าวๆว่า เฮ้ยเรื่องนี้มันดีกว่าที่คิดแฮะ มีอะไรหลายๆอย่างที่เกินกว่าที่ผมหวังไว้ คือจริงๆขอให้แค่มันมีอะไรให้ไม่น่าเบื่อ เพราะดูลายเส้นแล้วเรื่องนี้อยู่ในจำพวกลายเส้นไม่ช่วยให้อยากอ่าน เพราะฉะนั้นคงต้องมาเน้นที่เนื้อเรื่อง และถ้าเนื้อเรื่องไม่ดี นี่จบเลย เงินที่ลงทุนไป จบกัน... เพราะฉะนั้นผมหวังแค่ว่าขอให้มันมีตอนที่สนุกบ้าง อย่าแย่เกินไปแค่นั้นพอ ....
แต่อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้มันดีเกินกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย กลายเป็นว่า เป็น 10 เล่มที่ผมหยิบมาอ่านต่อเนื่องโดยไม่หยิบเรื่องอื่นเข้ามาแทรกระหว่างจบเล่มเลยซึ่งมีไม่บ่อยสำหรับผมนะ ที่จะอ่านต่อเนื่องแบบนี้ ปกติการ์ตูนระดับ 10 เล่มขึ้นถ้ามันไม่สนุกจริงๆ เวลาอ่านจบเล่ม จะขั้นด้วยเรื่องสั้นๆหรือเรื่องอื่นบ้างเพื่อปรับอารมณ์ แต่เรื่องนี้ทำไว้ได้ดีสำหรับผมมาก เลยได้อ่านต่อเนื่องยาวๆและจบโดยไม่มีเรื่องอื่นแทรกครับ
“บริษัทสัมผัสกรรม” เป็นเรื่องราวของ สถานที่ลึกลับแห่งนึงที่ใช้ชื่อว่า “ห้างหุ้นส่วนโซมะโท” สถานที่ลึกลับแห่งนี้จะปรากฏขึ้นมา ที่ใดที่หนึ่งในเมืองใดเมืองหนึ่งก็ได้ โดยมันจะอยู่ตรงหน้าใครคนใดคนหนึ่งถ้าตอนนั้นคนๆนั้นมีเรื่องกำลังลำบากใจ ดีใจ เสียใจ กำลังครุ่นคิดถึงเรื่องบางเรื่อง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด โซมะโท จะมาปรากฏต่อหน้าคนๆนั้น
พร้อมกับการออกมาต้อนรับคุณ โดย หญิงสาวที่ชื่อว่า “คามินุมะ” เธอคนนี้จะเข้ามาเชื้อเชิญคุณที่กำลังมีเรื่องกลุ้มใจอะไรบางอย่าง เข้าไปด้านในสถานที่แห่งนี้ ข้างในเป็นเหมือนอาคารที่แบ่งเป็นห้องๆเหมือนห้องคาราโอเกะ แต่บรรยากาศกลับเงียบสงบ เมื่อเธอพาคุณเข้าไปยังห้องใดห้องหนึ่งแล้ว เธอจะขอเพียงชื่อ และ วันเดือนปีเกิดของคุณ
เพื่อนำแผ่นหนังDVD จำนวนนึงมาให้คุณดู เพราะในห้องนี้มีเพียงโซพาและทีวีเครื่องนึงพร้อมเครื่องเล่นเท่านั้น และเมื่อคุณเปิดหนังที่เธอนำมาให้ คุณจะพบว่า ทุกๆแผ่นที่เธอเอามาให้คุณดูนั้น กลับกลายเป็นเรื่องราวของคุณเอง ตั้งแต่เกิด จนถึงปัจจุบัน โดยจำนวนแผ่นจะเท่ากับอายุของคุณในตอนนี้
นี่ไม่ใช่การถ่ายทำหรือแอบถ่าย เพราะเรื่องราวที่คุณได้เห็นจากแผ่น DVD นั้นมันใช่เรื่องราวของคุณแน่ๆ โดยมุมกล้องที่คุณได้เห็น เหมือนถ่ายทอดมาจากสายตาของคุณตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน แม้คุณจะมีข้อสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น เกิดขึ้นได้อย่างไร
แต่ภาพข้างหน้าของคุณเป็นชีวิตคุณอย่างไม่สามารถปฎิเสธได้ รอยยิ้มของพ่อและแม่ในวันที่คุณลืมตาดูโลก รอยแผลที่เคยเกิดขึ้นในวันใดวันนึงของคุณ รักแรกของผู้หญิงที่คุณชอบ หรือแม้แต่ sex ครั้งแรกกับใครซักคน ทุกเรื่องราวบันทึกอยู่ในแผ่นนี้หมดเลย “ห้างหุ้นส่วนโซมะโท” คืออะไร ทำอะไร และเพื่ออะไร นี่คือเรื่องราวที่ได้เปิดม่านให้เราเข้ามาค้นหา กับ “บริษัทสัมผัสกรรม”
ก่อนอื่นผมต้องบอกว่าโดยส่วนตัวผมชอบไอเดียเรื่องนี้มากๆนะครับ สิ่งที่ผมรู้สึกได้เลยก็คือ เรื่องนี้เล่นกับเรื่องที่มีความหมายกับมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้มากๆเรื่องนึงเลย ก็คือ เรื่อง “ความทรงจำ” ครับพวกเราทุกคนตั้งแต่เกิดยันตอนนี้ มีสิ่งที่เรียกว่าความทรงจำมาตลอด ไม่ว่าจะดีจะร้าย ไม่ว่าเราอยากจะจดจำหรืออยากลืม พวกนี้อยู่ติดตัวกับเรามาตลอดจนถึงวันตาย
สิ่งนี้ตัวผมเองถ้าอยู่ในช่วงวัยรุ่นผมคงรู้สึกประมาณนึง แต่พอเรามีอายุระดับนึงแล้ว เราจะรู้สึกเลยว่า ความทรงจำ ไม่ว่าจะดีจะร้าย มันคือสิ่งล้ำค่าของพวกเราเป็นอย่างมาก ความสนุกจากการได้เล่นกับเพื่อน คำดุด่าที่พ่อหรือแม่เคยว่าเราตอนเราทำความผิด น้ำตาจากการได้ดูหนังที่เราชอบ รอยยิ้มของผู้หญิงที่เราชอบ หรือแม้แต่ sex ครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับเรา ทุกๆอย่างไม่ว่าจะเรียกว่าจะเรื่องใดก็ตาม เมื่อเกิดขึ้นมันจะเป็นเรื่องส่วนตัวและความทรงจำที่มีเฉพาะของเราเท่านั้น
ไม่มีใครมีเหมือนเรา มันอาจดูเหมือนเรื่องปกติที่ทุกๆคนก็มี และเหมือนมันไม่มีค่าหรือไม่สามารถตีเป็นจำนวนเงินออกมาได้ แต่ผมรับรองเลยว่า หากมีคนกองเงินมหาศาลเพื่อขอแลกกับความทรงจำทั้งชีวิตของคุณ ผมว่าคงมีไม่น้อยที่จะปฎิเสธการแลกที่ดูเหมือนไม่เสียอะไรเลยแบบนี้ให้เกิดขึ้นแน่ๆครับ
และเมื่อเรื่องนี้หยิบเอาเรื่องความทรงจำมาเล่นในแง่มุมที่เปิดมากๆแบบในเรื่องนี้เลยเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆครับ วิธีที่ว่านั้นคือการสร้างเรื่องราวที่ต้องใช้ความทรงจำที่อยู่ในช่วงใดช่วงนึงของชีวิตคุณเอง มาช่วยตอบคำถามให้กับชีวิตของคุณในตอนนี้ครับ พร้อมกันนั้น ในเรื่องนี้ก็ผสมแนวของการนำเสนอให้เรื่องมีความหลากหลายและไม่ซ้ำให้เรารู้สึกเบื่อในการอ่านแต่ละตอน
เพราะเอาเข้าจริงๆเรื่องนี้มีการนำเสนอแบบ 2 หรือ 3 ตอนจบในแต่ละเคส ซึ่งแม้เรื่องราวจะน่าสนใจแต่หากมันวนลูปไปเรื่อยๆ ก็มีแนวโน้มว่าตอนใดตอนนึงจะเริ่มซ้ำและน่าเบื่อจนคนอ่านเดามุกออกว่าเรื่องราวจะเป็นแบบไหน แต่การที่นำหลากหลายแนวเข้ามาเล่นกับเมนหลักของเรื่องอย่างความทรงจำที่ต้องเข้าไปดูใน โซมะโท ก็ทำให้เรื่องราวที่เราควรจะเดาออกได้ว่าตอนจบแต่ละตอนจะเป็นแบบไหนนั้น เปลี่ยนไปอย่างที่เราคาดไม่ถึงในหลายๆตอนเลยครับ
สิ่งที่ผมชื่นชอบเอามากๆในเรื่องนี้นอกจากการหยิบเรื่องราวเกี่ยวกับความทรงจำมาเล่นแล้วนั้น และเรื่องราวเกี่ยวกับความหลากหลายของแนวเรื่องที่หยิบจับมาผสมแต่ละตอนให้มีรสชาติที่แตกต่างกัน ก็จะมีเรื่องการหักมุมตอนจบที่ทำได้ดีเอามากๆเลยในเรื่องนี้ครับ ถ้าเราคิดว่าการ์ตูนเรื่องนี้ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการดูความทรงจำของตัวเองเพื่อไปแก้ไข
หรือแก้ปัญหาที่ตัวเองเจอตอนนี้ให้ผ่านไปได้แค่นั้น ผมบอกเลยว่าคิดผิดมากๆ เพราะเรื่องนี้ชอบที่จะทำเรื่องราวให้หักมุมแบบที่เราคิดเอาไว้ว่าต้องจบแบบนี้ แบบนั้นแน่นอน เรื่องนี้ไม่ถนอมน้ำใจคนอ่าน ที่หวังจะให้ตอนจบ จบแบบ happy ending ซักเท่าไหร่ครับ มีหลายตอนมากจบแบบ เฮ้ย เอาแบบนี้เลยเหรอ จะจบแบบไม่แคร์โลกไปไหม ซึ่งเป็นบ่อยๆด้วยครับในเรื่องนี้ มันให้ความรู้สึกเหมือนผมอ่าน Happy people การ์ตูนแนวสะท้อนสังคมอันเน่าเฟะของมนุษย์เราอยู่กลายๆ และเล่นบทสะเทือนอารมณ์แบบไม่แคร์คนอ่านอย่างผมเลยครับ
“บริษัทสัมผัสกรรม” มีการวางพล็อตเรื่องแต่ละตอนไว้ได้ดีและหลากหลายเอามากๆครับ แนวที่ผมว่ามันก็มีทั้ง เหนือธรรมชาติ แนวฆาตกรรม แนวรัก แนวสะท้อนสังคม แนวเสียดสีสังคม แนวสอบสวน แนวนักสืบ และอื่นๆอีกหลายแนวที่มาผสมเรื่องราวแต่ละตอนให้มีแบบฉบับและความแตกต่างที่เป็นของตัวเองในแต่ละตอนครับ จริงๆ สำหรับผมแล้วเรื่องนี้เมื่อผมได้อ่านมันทำให้ผมรู้สึกถึงแนวการ์ตูนหลายๆเรื่องที่เคยได้อ่านมา ผมไม่รู้นะครับว่ามันใช่หรือเปล่า
แต่ผมว่าไอเดียหลายๆเรื่องในเรื่องนี้ได้หยิบจับผสมไอเดียเรื่องอื่นๆ มานำเสนอในรูปแบบเฉพาะของเรื่องนี้ครับ ไม่ว่าจะเป็น ห้างหุ้นส่วนโซมะโท ที่ทำให้ผมคิดถึง ร้านวีดีโอ ในเรื่อง Video Girl เรื่องราวด้านในที่มีการเสียดสีสังคมแบบ Happy People หรือ อิคิงามิ : สาส์น - สั่ง – ตาย และอีกหลายๆเรื่อง
ซึ่งหากดูจากตรงนี้แล้ว เรื่องที่ผมคิดถึงเมื่อได้อ่านในแต่ละตอนไปนั้น มันเป็นเรื่องที่ผมชอบมากทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นผมจึงรู้สึกสนุกในการอ่านเรื่องนี้เอามากๆเพราะเหมือนกำลังอ่านเรื่องนึงที่มีแนวคิดและการดำเนินเหมือนเรื่องที่ผมชอบนั่นเองครับ
ตัวเนื้อหาและวิธีการเล่าเรื่องในเรื่องนี้มีความหลากหลายอยู่นะครับ พอๆกับเนื้อเรื่องที่มีความต่างในแต่ละตอนพอสมควร แม้จะมีส่วนที่เหมือนกันอย่างการต้องเข้ามานั่งดูเรื่องราวในอดีตของตัวเองในสถานที่แห่งนี้ แต่เรื่องก็ยังฉลาดมากพอที่จะใช้ช่วงเวลาหรือคีย์ของเรื่องอย่างการเข้ามาดูเรื่องตัวเองแบบนี้ ให้อยู่ในจังหวะที่เหมาะสมในแต่ละตอนครับ คือเรื่องไม่ได้เดินให้เห็นชัดเจนทุกครั้งว่าโซมะโท แห่งนี้เป็นสถานที่จำเป็นหรือเริ่มต้นของทุกเรื่องราว
แต่กลายเป็นว่าหลายๆครั้ง เราอ่านแล้วรู้สึกว่า ตัวโซมะโท ไม่จำเป็นต้องใช้ในตอนนี้เลย เพราะเนื้อเรื่องเนื้อหาของมันในตอนนั้นๆ กำลังสนุกและไปได้ดีของมัน มันคงไม่แปลกถ้าในบางตอนจบโดยไม่มี โซมะโท สถานที่สำคัญในเรื่องนี้นั้นอยู่ในตอนนี้ เพราะบทของบางตอนมันสมบูรณ์โดยไม่ต้องมี โซมะโท ก็ได้ แต่เรื่องก็สามารถหาเหตุผล ว่าทำไม โซมะโท ถึงต้องมีอยู่ในตอนนั้นหรือในแต่ละตอนได้อย่าง ลงตัวมากๆ คือเราไม่รู้สึกว่าเขายัดเยียดให้เราต้องอ่านและต้องเจอกับ โซมะโท ในทุกๆตอน
ซึ่งมันเป็นเรื่องยากมากในการนำเสนอเนื้อหาแบบนี้ครับ การที่ผู้เขียนต้องดึงความรู้สึกของคนอ่านอย่างเราให้ไม่เบื่อ กับ โซมะโท ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเรื่องนี้ไปตลอดทั้งเรื่องนั้น เป็นเรื่องยากนะครับ แต่เรื่องนี้หาตำแหน่งการลง หรือใส่ความสำคัญของ โซมะโท ออกมาในแต่ละตอนได้ดีมากๆ มีชั้นเชิงจนเรารู้สึกว่า โซมะโท ทั้งสำคัญและไม่สำคัญ แต่ทุกตอนมันต้องมีครับ
อย่างที่บอกครับว่าเรื่องราวมันจะเล่าเนื้อหาที่แตกต่างกันไปโดยใช้ 2-3 ตอนในแต่ละเรื่องเล่า แม้แต่ละตอนจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันด้วยตัวละคร แต่ก็มีการผูกเนื้อหาบางเรื่องเข้ากับเรื่องราวหลักอีกอย่างที่สำคัญนั่นคือ แท้จริงแล้ว โซมะโท คืออะไร มีเพื่ออะไร และมันมาได้อย่างไร นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องสงสัยและอยากรู้แน่นอนใช่ไหมครับ
ซึ่งเรื่องแม้จะเล่าแยกของแต่ละตัวละครที่มีความต่างกันแต่ก็ไม่ทิ้งประเด็นนี้ครับ เพียงแต่เอาท้ายสุดและสุดท้ายประเด็นนี้ไม่ได้ถูกทำให้เคลียร์ว่ามันมาจากไหนและจากใคร แต่เขาเล่นประเด็นเรื่องตัวละครอย่าง“คามินุมะ” สาวแว่นที่เป็นเจ้าหน้าที่ต้อนรับอยู่ในนี้และขยายเรื่องเจ้าหน้าที่หญิงอื่นที่ต้องเข้ามารับหน้าที่นี้เพิ่มเติม ผสมกับตัวละครที่เป็นนักสืบที่ต้องเข้ามาพัวพันและเกี่ยวข้องกับ โซมะโท แห่งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยส่วนตัวผมเอง
แม้เรื่องนี้จะไม่ได้ตอบคำถามว่า โซมะโท คืออะไร จากที่ไหน จากใคร แต่ผมก็โอเคและสนุกกับประเด็นที่ว่ามาของ คามินุมะ นะครับ เพราะเขาสามารถสร้างเรื่องราวการสืบหาและความเกี่ยวข้องของตัวละครที่ผมกล่าวมาได้อย่างสนุกและน่าติดตามครับ จนผมคิดว่าประเด็นว่าโซมะโท คืออะไรนั้นมันไม่สำคัญสำหรับผมแล้ว ซึ่งเมื่ออ่านจบผมก็ไม่ติดค้างคำถามนะว่า โซมะโทคืออะไรครับ
เพราะด้วยความสนุกของการผูกเรื่องให้มีความหลากหลายทั้งแง่ของประเด็นที่ต้องการสื่อสาร กับ ความสัมพันธ์ของตัวละครกลุ่มนึงที่ต้องมาร่วมกันเปิดเผยบางเรื่องราวของ โซมะโท นั้นทำออกมาได้ดีและลงตัวครับ สำหรับผมแค่นี้เลยออกมาโอเคแล้ว เพราะในมุมมองผม ผมว่ามันยากที่จะดำเนินเรื่องราวทั้งหมดเลยออกมาให้ลงตัวและอยู่ในระดับที่ทุกคนพอใจ
เพราะฉะนั้นเพียงแค่เรื่องหลักอย่างการเดินเรื่องในแต่ละตอนที่ทำออกมาได้สนุก น่าติดตาม และหักมุมอยู่เสมอรวมถึงเรื่องราวของสาวแว่น คามินุมะ ให้ออกมาดีในระดับนี้ได้นั้น ผมพอใจสุดๆแล้วครับ นี่ก็แอบคิดว่าหากเรื่องพยายามคลาดปมของ โซมะโท ทั้งหมดให้ได้นั้นและผลที่ได้ออกมาไม่ดี ความรู้สึกของผมต่อเรื่องนี้จะลดลงไปหรือเปล่า ก็น่าคิดเหมือนกันนะครับ
แต่ที่ผมเขียนเยอะขนาดนี้แต่ไม่ว่าใช่ว่าเรื่องนี้ไม่มีสิ่งที่ผมไม่ชอบนะครับ ผมไม่เถียงว่าเรื่อง การนำเสนอและการเล่าเรื่อง ผูกเรื่องในเรื่องนี้ โดนใจผม แต่ปัญหาใหญ่ของเรื่องนี้มันเป็นปัญหาที่ผมพอเห็นแล้วว่าไม่น่าจะโดนใจผมตั้งแต่เห็นหน้าปกครับ นั่นก็คือเรื่องลายเส้นครับ ต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีลายเส้น ที่โดยส่วนตัวผมแล้ว ไม่โอเคนะครับ คือธรรมดามากเกินไป ทำให้หลายๆฉากหลายๆตอน ตัวเนื้อเรื่องมันเดินไปไกลลายเส้นพอสมควรครับ
ตัวลายเส้นไม่สามารถช่วยให้คนอ่านอย่างเราไปได้สุดๆอย่างเนื้อหาที่ไปรอล่วงหน้าไปแล้วครับ ผมไม่ได้หมายถึงว่าลายเส้นมันแย่เอามากๆนะครับ ผมแค่มองว่าลายเส้นในเล่มมันสื่อสารอารมณ์ออกมาได้ไม่ดีมากพอเท่ากับเนื้อหาที่โดดเด่นครับ รวมถึงมุมมองหลายๆอย่างที่ผมรู้สึกว่าใช้มุมมองมาตรฐานมากเกินไป จริงๆผมไม่ได้หวังให้มีมุมเวอร์ๆ อะไรหรอกนะครับ
เพียงแต่การมีมุมมองแบบแตกต่างและแปลกๆเข้ามาในบางฉากผมว่ามันเพิ่มอรรถรสในการอ่านได้ดีเพิ่มขึ้นครับ เลยเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เนื้อเรื่องดีๆแบบนี้ พอมาจับคู่กับลายเส้นที่ธรรมดาไป และไม่สามารถสื่อสารอารมณ์ของตัวละครได้เข้ากัน ทำให้หลายๆครั้งการเสริมรสชาติความสนุกของเรื่องนี้ไปไม่ถึงฝั่งตามที่ควรเป็นครับ
บริษัทสัมผัสกรรม เป็นผลงานของ อ. Keita Sugahara ซึ่งทั้งแต่งและเขียนด้วยตัวเองครับ มีทั้งหมด 10 เล่มจบ โดย สนพ Zenshu ครับ ซึ่งข่าวดีคือตอนนี้มือหนึ่งลดราคายังคงมีอยู่ในเวปของ Zenshu นะครับ ใครที่ยังไม่ได้อ่าน สมควรไปซื้อมาอ่านเป็นอย่างมากครับ อย่ารอให้เรื่องนี้หมดก่อนแล้วค่อนหาครับ เพราะการ์ตูนแบบนี้รับรองว่า หมดแล้วหมดเลยไม่มีพิมพ์ซ้ำแน่นอน เพราะมันไม่ใช่แนวตลาดที่จะมีคนซื้อเยอะหรอกนะครับแนวนี้
“บริษัทสัมผัสกรรม” เป็นการ์ตูนที่ผมต้องบอกว่าเป็นการ์ตูน ดี การ์ตูน สนุก ในหน้าปกที่ไม่ดึงดูดอะไรซักอย่างให้เราสนใจเลยครับ แต่ภายใต้ปกแบบนี้ดันมีเนื้อหาที่สนุกแบบสุดๆให้อ่านแบบไม่น่าเชื่อ เรื่องนี้เป็นการ์ตูนสายรวมฮิต เพราะมีเนื้อหาแนว ชีวิต สะท้อนสังคม เสียดสีสังคม แนวความรัก แนวนักสืบ ฆาตกรรมและอื่นๆ อีกหลายแนวผสมอยู่
เป็นการ์ตูนที่โดดเด่นทั้งประเด็นหลักที่นำมาเล่นอย่างความทรงจำและการนำเสนอเรื่องราวในแต่ละตอนที่ทำได้อย่างน่าจดจำ รวมถึงเป็นการ์ตูนแนวหักมุมในแต่ละตอนที่เรียกว่าปวดตับแบบเอาหัวโขกโต๊ะได้ไม่ยากครับ ในขณะเดียวกันประเด็นที่นำมาผูกเพื่อเป็นพล็อตใหญ่ที่ต้องเล่นนั้นก็ทำออกมาได้น่าสนใจ ผูกเรื่องได้น่าติดตาม จึงเป็นอีกเรื่องที่ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเล็กหรือใหญ่ในเรื่องทำออกมาได้ดีมากๆ อยู่ในขั้นวางไม่ลง เนื้อหาไม่ยากเกินทำความเข้าใจครับ
แม้จะมีปัญหาใหญ่ตามที่ผมบอกคือ ลายเส้นไม่สวย หน้าปกไม่ชวนอ่านก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะบอกว่าไม่ควรอ่านแน่นอนครับ เรื่องนี้ยังคงอยู่ในลิสที่สมควรอ่านซักครั้งในชีวิตครับ ชอบไม่ชอบค่อยว่ากันอีกที ที่สำคัญราคาหนังสือใหม่ลดราคาจนน่าอิจฉาสำหรับคนที่ได้ซื้อตอนนี้ครับ จึงไม่มีเหตุผลที่คุณจะมองข้ามหลังจากได้อ่านรีวิวในครั้งนี้จากผมไปแล้ว
อย่างน้อยผมก็มั่นใจว่าว่าจะมีซักตอนหรือหลายๆตอนที่ถูกใจคนอ่านอย่างคุณแน่นอน เพราะฉะนั้น จ่ายเงินให้กับเรื่องนี้ซะก่อนมันจะหมดและไม่มีให้ซื้อ เพราะอย่างที่บอกแนวนี้หมดแล้วหมดเลย ไม่มีทางพิมพ์ซ้ำแน่นอนครับ แล้วจะหาว่าผมไม่เตือนนะครับ
ภาพ 6.5/10
เรื่อง 10/10
ความประทับใจ 9.5/10(คือโดนเรื่องภาพดึงความประทับใจลง 0.5 นะครับ อันนี้ให้เกรียติแล้วคือถ้าภาพสวยจะประทับใจมากๆๆ จะให้ 11 คะแนนเลย 555 )
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #10เล่มจบ # Zenshu #การ์ตูนแนวดราม่า #การ์ตูนแนวลึกลับ #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวสะท้อนสังคม #9คะแนน #บริษัทสัมผัสกรรม #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
โฆษณา