11 ส.ค. 2022 เวลา 01:08 • ธุรกิจ
KIHA 183 บทพิสูจน์ความมุ่งมั่นที่ต้องฝ่าด่านนักวิจารณ์อย่างหนักของการรถไฟไทย ในการนำรถไฟมือสองจากญี่ปุ่นมาใช้งาน
ที่มา ไปรถไฟ
• รับเศษเหล็กจากเขามาใช้ยังต้องเสียค่าบำรุงรักษาอีก
• รับบริจาคมาแล้วต้องเสียค่าขนส่งถึง 42.5 ล้านบาท เอาเงินก้อนนี้ไปทำอย่างอื่นดีกว่าไหม
• ญี่ปุ่นได้คำชื่นชม ไทยขื่นชมนั่งชมคำแซะของชาวเน็ต
• รถไฟญี่ปุ่นมือสอง=ขยะส่งให้ประเทศด้อยพัฒนา
• ใช้มาแล้วสี่สิบปี เออดีนึกภาพย้อนไปสี่สิบปีที่แล้ว
• ถึงรถไฟเราจะเก่า แต่ รถถังเราใหม่เสมอครับ
• สภาพแบบนี้หมอปลามาแน่ผีเต็มรถ
• แล้วจะไม่คิดพัฒนาระบบขนส่งในประเทศบ้างเหรอถึงจะใช้ตั้ง 50 ปี
นี่คือบางส่วนของคำวิจารณ์จากชาวเน็ตที่กล่าวถึงรถไฟที่ได้รับบริจาค เมื่อการรถไฟไทยได้รับมอบขบวนรถไฟดีเซลราง รุ่น KiHa 183 จำนวน 17 คัน จาก Hokkaido Railway Company (JR HOKKAIDO) ประเทศญี่ปุ่น ที่ต้องออกเงินในการขนส่งมาเองจำนวน 42.5 ล้านบาท ในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา
ที่มา  LINE TODAY
การรับมอบครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย เพราะตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2540 ไทยเราได้รับบริจาครถไฟมือสองจากญี่เป็นมาแล้ว 7 ครั้ง คนไทยต่างได้รับประโยชน์อย่างมากจากการรับบริจาค เพราะการรถไฟได้ปรับปรุงแล้วนำมาใช้ในการให้บริการให้กับคนไทย มีการนำมาบริการสำหรับเช่าเหมาเป็นหมู่คณะ ทำเป็นรถไฟสำหรับนำเที่ยว ดัดแปลงเป็นรถไฟนอนปรับอากาศ
1
เพราะตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2540 ไทยเราได้รับบริจาครถไฟมือสองจากญี่เป็นมาแล้ว 7 ครั้ง
การนำเข้าครั้งนี้แม้ว่าจะต้องออกค่าขนส่งเอง แต่เมื่อคิดค่าใช้จ่ายต่อขบวนก็จะเหลือเพียงคันละ 2.5 ล้านบาท แต่หากเราหยิ่งจะซื้อขบวนใหม่ก็จะอยู่ที่ราคาคันละ 80 ล้านบาท ถึงแม้ว่าจะมีการใช้งานมากว่า 40 ปีแล้ว แต่เมื่อนำมาตรวจสภาพก็พบว่าสภาพยังใหม่พร้อมใช้ เนื่องจากญี่ปุ่นดูแลบำรุงรักษาเป็นอย่างดี คาดว่าน่าจะใช้งานได้ถึง 50 ปี เก่าเขาก็จริงแต่ก็ยังดีกว่าขบวนที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน
จากวันที่รับมอบมา 8 เดือนกว่าๆ การรถไฟก็ได้เผยโฉม KiHa 183 ที่ได้ผ่านการปรับปรุงและดัดแปลงเพื่อนำมาใช้งานกับคนไทยโดยเฉพาะ ที่ทำออกมาอย่างสวยสดงดงามด้วยฝีมือช่างไทยล้วนๆ
Facebook: Adisorn Singhakarn
มีการปรับปรุงทำสีใหม่ในโทนขาวม่วงอ่อนพร้อมแถบเขียวอ่อน ทำการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์เล็กน้อย ความกว้างรางก็มีการปรับให้เหมาะกับรางของไทยเป็นที่เรียบร้อย ภายในทำความสะอาดและปรับปรุงสภาพใหม่ทั้งหมด ทำให้ได้รถไฟเหมือนใหม่ที่ใช้ได้อีกหลายปีโดยไม่ต้องซื้อใหม่
อดใจรออีกไม่นาน ปลายปี 2565 นี้คนไทยก็จะได้ใช้บริการกันแล้ว
เราลองมาอีกมุมกันว่าจะมีอะไรดีๆมาหักล้างกันบ้าง
1. การปรับปรุงในครั้งสร้างประหลาดใจในฝีมือของช่างไทยให้กับคนญี่ปุ่น หนังสือพิมพ์ Hokkaido Shimbun ถึงกับยกทีมมาทำข่าวในไทยเพื่อนำไปเผยแพร่ต่อด้วยความชื่นชม
2. คนญี่ปุ่นมีความผูกพันมากกับรถไฟรุ่นนี้ เพราะมีการใช้มานานกว่า 40 ปีนั่นเอง ทั้งเป็นรุ่นที่มีรูปทรงเฉพาะที่โดดเด่น ทำให้คนญี่ปุ่นอยากมาเที่ยวเมืองไทยและกลับมานั่งรถไฟที่เคยเป็นของเขา เป็นการนำรายได้เข้าประเทศ รวมถึงจะดึงดูดทำให้นักท่องเที่ยวชาติอื่นๆหรือกระทั่งคนไทยเองก็อยากไปใช้บริการด้วย
คนญี่ปุ่นมีความผูกพันมากกับรถไฟรุ่นนี้
3. เพิ่มขบวนรถไฟบริการให้กับคนไทยได้มากขึ้น ใช้ทดแทนรุ่นเก่าๆที่ใกล้ปลดระวาง (บางขบวนที่ใช้งานอยู่เราอาจจะไม่ได้มีโอกาสเจออุบัติเหตุจากรถไฟไทย แต่อาจจะเป็นบาดทะยักตายก่อนก็ได้)
4. นอกจากจะสร้างรายได้เข้าประเทศไทยได้แล้ว ยังทำให้สร้างงานให้กับคนไทยอีกจำนวนมากในเส้นทางที่รถไฟผ่าน ทั้งพ่อค้าแม่ค้าทั้งธุรกิจโรงแรมร้านอาหาร เป็นการเดินทางในราคาประหยัดและปลอดภัยให้กับคนไทยด้วย
เส้นทางที่จะเปิดให้บริการคือ
1. อุดรธานี - หนองคาย – เวียงจันทน์
2. นครราชสีมา – ขอนแก่น
3. กรุงเทพ – หัวหิน – สวนสนประดิพัทธ์
4. ขบวนรถท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคกลางและจังหวัดใกล้เคียง เช่น อยุธยา ลพบุรี สระบุรี เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปากช่อง นครปฐม ฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี
Facebook: Adisorn Singhakarn
การรถไฟไทยก็ยังมีโครงการที่จะรับบริจาครถไฟจากญี่ปุ่นอีก 50 ขบวนด้วยในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยมีชื่อรุ่นว่าอุลตร้าแมน เพราะเป็นรุ่นที่มีโทนสีขาวแดงเหมือนอุลตร้าแมนนั่นเอง
ไม่ว่าจะทำสิ่งไหนล้วนแล้วแต่ต้องพบกับนักวิจารณ์ นักนินทา นักแซะเสมอ แต่หากเรามุ่งมั่นตั้งใจต่อสิ่งที่ทำ ว่าจะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับส่วนรวมได้ ก็อย่าได้รีรอที่จะลงมือทำสิ่งนั้นๆ แม้ว่าจะเจอคำวิจารณ์ต่างๆนาๆในเชิงลบก็ตามที
อย่าให้น้ำลายราคาถูกมาทำลายความฝันราคาแพง และ สิ่งที่สำคัญก็คือการกระทำเสียงดังกว่าคำพูดเสมอ
1
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Modernization Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
โฆษณา