เศรษฐีไส้อั่วขยัน
มนัสเกิดมาก็อยู่ในตลาดมาตั้งแต่เด็กๆเขาเห็นการค้าขายของพ่อค้าแม่ค้าอยู่ทุกวันเป็นเรื่องปกตินิสัยแม่ของเขารับจ้างทำไส้อั่วโดยจะนำวัตถุดิบต่างๆมาใส่ไส้อั่วและได้และปลูกให้สวยงามเป็นชิ้นๆแล้วนำมาย่างขายในตลาดแต่แม่ของเขาก็รับจ้างไม่ได้ทำเป็นของตนเอง แม้ว่าขยันเท่าไหร่ก็จะได้แค่เงินจำนวนที่เจ้าในแต่ละวันเท่านั้น
มนัสจึงมีเงินใช้จ่ายในครอบครัวไม่มากนักส่วนพ่อของมานะก็รับจ้างเป็นรปภดูแลตลาดทำให้รายได้ส่วนใหญ่ก็ไม่มากแต่ที่อยู่กันสบายเพราะว่านำเงินที่ได้มาซื้อของในตลาดกลับไปทานที่บ้านทำให้มีหมูไก่ไข่เนื้อกินอยู่ตลอดเวลาอีกทั้งผักข้อหาซื้อง่ายเพราะอยู่ในตลาดอยู่แล้ว ทำให้บ้านของเขาไม่ลำบากเรื่องการกินอาหารสนใจเรื่องการทำงานทำการอยู่แล้วก็เลย
อาสาช่วยแม่ทำไส้อั่วช่วยกันระหว่างนั้นมานัดก็เห็นวิธีการทำไส้อั่วการใส่สมุนไพรการเลือกคัดเนื้อและวัตถุดิบอย่างดีมาใส่ลงไปในไส้อั่วเขาสะสมความรู้และวิธีการผลิตการปลูก ผูกให้ไส้อั่วแน่นหน้ารับประทานการย่างไส้อั่วและเขายังแอบดูวิธีการนึ่งข้าวเหนียวให้น่ารับประทานอีกด้วย และน้ำพริกหนุ่มที่จะต้องนำมาย่างแล้วฉีดทำเป็นน้ำพริกให้กินคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆอันแสนอร่อย
เขาก็แอบดูวิธีทำแล้วก็นำกลับมาทำที่บ้านให้พ่อกับแม่ทานอยู่เป็นประจำเมื่อมานัดโตขึ้นเขาก็คุยกับแม่ว่าเขาอยากจะลองทำไส้อั่วขายดูเองบ้างแม่ก็ไม่กล้า รับปากว่าจะทำแล้วขายได้เพราะแม่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรส่วนมนัสเองก็อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นบ้านก็ยังต้องเช่าข้าวของก็มีใช้ก็เก่าแล้วอยากจะมีทีวีดีๆดูก็ไม่มีต้องอดทนอยู่ไปเรียนหนังสือก็ไม่ค่อยมีสตางค์ต่อไปในอนาคต
ถ้าจะเรียนระดับอุดมศึกษาก็คงจะยากเลยขอแม่ทำไส้อั่วขาย แม่ก็ไม่ได้ห้ามอะไรก็เลยให้มารับลองทำดูมานัดนำเงินเก็บที่แม่กับพ่อให้ไปโรงเรียนมาซื้อวัตถุดิบมาทำไส้อั่วและขอแม่ซื้อเตาถ่านย่างไส้อั่วและซึ้งนึ่ง ข้าวเหนียวและให้แม่สอนทำน้ำพริกหนุ่มใส่กระปุกเล็กๆเพื่อนำมาขายที่ตลาดตอนนั้นแม่ยังคงรับจ้างทำไส้อั่วอยู่ที่ร้านเดิมแต่มานัดได้ไปขอวางแผงเล็กๆตั้งโต๊ะขายไส้อั่วย่างเตาถ่านอยู่ที่ข้างหน้าตลาด
เนื่องจากเขาเป็นเด็กผู้ใหญ่แถวนั้นก็เอ็นดูให้เขาวางโต๊ะ ขายโดยคิดค่าวางแผนถูกๆเดือนละ 300 บาทมนัสก็ดีใจมากจึงตั้งใจทำไส้ถั่วเพื่อจะนำไปขายช่วงแรกก็ทำเพียงแค่ 3 กิโลกรัมเท่านั้นขายช่วงหลังเลิกเรียนเขาตั้งใจทำอย่างดีแม้ว่าจะมีแค่ 3 โลแต่ก็เลือกวัตถุดิบในตลาดอย่างดีไม่เอาเปรียบลูกค้า เลือกที่มีเนื้อสันอย่างดีรับประทานอร่อยสดใหม่ ไม่มีของที่เน่าเสีย ไม่ต้องกังวลเรื่องใส่สารกันบูดพริกกกระเทียมเครื่องเทศสดใหม่ทั้งหมด
เพราะเขาเลือกเองจากตลาดทำให้ไส้อั่วของเขาย่างออกมาแล้วหอมน่ารับประทานมากกว่าร้านอื่นๆโดยเฉพาะเมื่อเครื่องเทศแล้วเนื้อเริ่มสุกก็จะส่งกลิ่นหอมเรียกลูกค้า โดยไม่ต้องออกมาเชื้อเชิญแต่อย่างใดความหอมของอาหารเป็นเครื่องเชื้อเชิญเรียกลูกค้าก็พูดกันปากต่อปาก ทำให้ไส้อั่วของมนัสเริ่มเป็นที่รู้จักของทุกๆคนมนัสขายไส้อั่วในวันธรรมดาวันละ 3 กิโลกรัมวันเสาร์อาทิตย์วันละ 8 กิโลกรัมอีกทั้ง นึ่งข้าวเหนียวขายห่อละ 5 บาทและน้ำพริกหนุ่มอีกกระปุกละ 10 บาท
แม้จะขายของเพียงแค่ 3 อย่างแต่ของทั้ง 3 อย่างนี้มีคุณภาพดีข้าวเหนียวรสชาติอร่อยนุ่มปั้นแล้วไม่ติดมือทานร้อนๆอร่อยมากส่วนน้ำพริกหนุ่มก็มีแต่เผ็ดธรรมดาและเผ็ดจัดให้ลูกค้าแล้ว แต่ก็ทำให้ทานกับไส้อั่วแล้วเพิ่มรสชาติได้เป็นอย่างดีมานะแม้ว่าจะทำไม่มากแต่ใช้ความใส่ใจในรายละเอียดทำให้ผมที่ออกมาค่อนข้างดีราคามารับก็ไม่แพงมาก
เพราะวัตถุดิบหาได้ง่ายจากในตลาดเขาเริ่มมีเงินมีทองในแต่ละสัปดาห์ได้กำไรถึง 3,000 ถึง 5,000 บาทต่อสัปดาห์ทำให้เขาสามารถขอเช่าแผงค้าขายในตลาดได้เอง มนัสได้แบ่งเงินที่ได้จากกำไรในการค้าขายออกเป็น 3 ส่วนคือ
1 ส่วนที่ใช้ทำวัตถุดิบในการขายในวันต่อๆไป
2 วันนี้แบ่งมาให้เป็นค่าใช้จ่ายในบ้านช่วยเหลือแบ่งเบาพ่อแม่
3 เก็บไว้ใช้เป็นเงินที่จะลงทุนซื้ออุปกรณ์และพัฒนาร้านให้ดีขึ้น
ต่อมามนัสได้ขายดีมากจนเขาย่างด้วยเตาถ่านไม่ทันเขาจึงนำเงินที่เก็บไว้มาซื้อเตาอบที่ช่วยย่างไส้อั่วให้สุกทั่วทั้งอันหอมอร่อยไม่แพ้การย่างเตาถ่านซึ่งจะมีราคาสูงแต่เอาข้อตั้งใจซื้อเพราะอยากจะให้ลูกค้าได้ทานไส้อั่วที่มีรสชาติอร่อยและสุกทั้งชิ้นอย่างดีเหมือนในภัตตาคารเขาซื้อเตาอบเป็นเจ้าแรก ในตลาด
แม้จะมีราคาสูงแต่เขาก็ซื้อเพื่อเป็นการพัฒนาและเป็นการลงทุนแม่เห็นกิจการของมนัสไปได้ด้วยดีจึงเลิกจากการเป็นลูกจ้างของร้านไส้อั่วเดิมแล้วมาช่วยมารับทำอย่างเต็มตัวทำให้ร้านของมนัส มีหลักและมีพื้นฐานมีความแม่นยำในเรื่องของสูตรและปริมาณซึ่งแต่ก่อนมานัดก็ทำไม่ค่อยได้เนื่องจากปริมาณน้อยๆทำไหว
แต่ปริมาณเยอะๆก็ทำไม่ได้จากแต่ก่อนวันละ 3 กิโลกรัมเดี๋ยวนี้วันละ 10 โล 20 โลก็ขายหมดในทุกๆวันมานัด จึงได้แม่มาช่วยกิจการร้านของมานะเป็นไปได้ด้วยดีมนัสจึงตั้งชื่อและหากล่องใส่ไส้อั่ว ที่สวยงามและดูน่ารับประทานยิ่งขึ้นมารับขายได้วันละหลายๆกล่องบางวันได้ถึง 100 กล่องให้เผื่อของมนัสจึงเป็นที่รู้จักตลาดอื่นๆก็เลยมาซื้อสูตรของมนัสเอาไปทำขายบ้าง
มนัสก็ไม่ได้หวงแต่อย่างใดได้สอนถูกและร้านที่มาขอซื้อถูกก็ให้เงินมานะและขอซื้อกล่องเพื่อเอาไปทำขายด้วยมนัสขายไส้อั่วและถูกไปหลายเจ้าในภาคเหนือทำให้เขายิ่งมีเงินมากมาย จากแต่ก่อนต้องเช่าบ้านอยู่ปัจจุบันให้ผัวข้าวเหนียวและน้ำพริกหนุ่มทำให้เขาได้มีชีวิตที่ดีขึ้นสามารถซื้อบ้านเป็นของตนเองมีเงินเก็บเป็นจำนวนมาก สามารถเก็บไว้ใช้เลี้ยงดูแม่และพ่อในยามที่แก่ชรา
อีกทั้งตัวเขาเองก็มีเงินสามารถไปเรียนในระดับอุดมศึกษาและสามารถเปิดร้านเป็นของตัวเองได้โดยไม่ต้องเช่าเขาอีกมานะเป็นเจ้าของร้านอาหารเหนือที่มี ไส้อั่วเป็นของตนเองและขายไปทั่วปัจจุบันมารับได้เป็นเศรษฐีและมีชีวิตที่ดีจากความขยันหมั่นเพียรและคิดที่จะพัฒนาอยู่เสมอจึงทำให้เขาเป็นเศรษฐีในที่สุดเรื่องเล่าของมนัสเศรษฐีไส้อั่วขยันก็จบลง
เศรษฐี ไส้อั่ว ขยัน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
