12 ส.ค. 2022 เวลา 02:00 • กีฬา
" ฮูเปีย ดีลสุดคุ้มของลิเวอร์พูล "
มีนักเตะหลายคนในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ ลีก ที่ย้ายตัวด้วยราคาไม่แพง แต่กลับสร้างผลงานยอดเยี่ยม กลายเป็นการเซ็นสัญญาสุดคุ้มค่า
หนึ่งในนั้นคือกรณีของลิเวอร์พูลในซัมเมอร์ปี 1999 เมื่อพวกเขาคว้าตัวกองหลังร่างยักษ์ชาวฟินแลนด์นามว่า ซามี่ ฮูเปีย มาร่วมทีม
เชราร์ อุลลิเย่ร์ ได้รับการแต่งตั้งมาคุมทีมร่วมกับ รอย อีแวนส์ ในปี 1998 แต่ไม่นาน อีแวนส์ ก็อำลาไป ทำให้ อุลลิเย่ร์ กลายเป็นผู้จัดการทีมคนเดียวแบบเต็มตัว
ดังนั้นหน้าร้อนปี 1999 เป็นครั้งแรกที่ อุลลิเย่ร์ จะได้ปรับโครงสร้างและตบแต่งทีมด้วยตัวเอง
ร็อบ โจนส์, สตีฟ แม็คมานามาน, ออยวิน ลีออนฮาร์ดเซ่น, บยอร์น ทอเร่ ควาร์เม่, เดวิด เจมส์, พอล อินซ์, คาร์ล ไฮน์ซ รีดเล่ อำลาทีมไป
แน่นอนว่าต้องมีพวกขาเข้า ติตี้ กามาร่า, สเตฟาน อองโชซ์, ซานเดอร์ เวสเตอร์เฟลด์, วลาดิเมียร์ ชมิเซอร์, ดีทมาร์ ฮามันน์ ทุกคนพาเหรดเข้าสู่ทีม
ยังมีอีกหนึ่งตำแหน่งที่ถือว่าสำคัญมาก และจริงๆ แล้ว ลิเวอร์พูล ตามดูมานาน นั่นก็คือเซนเตอร์แบ็กระดับท็อป
แมนฯ ยูไนเต็ด มี ยาป สตัม, เชลซี มี มาร์กแซล เดอไซญี่, อาร์เซน่อล ก็ได้ โอเล็กซ์ ลุซนี่ ที่ผลงานดีกับ ดีนาโม เคียฟ เข้ามาเสริม
ลิเวอร์พูล จัดการจ่ายเงิน 2.6 ล้านปอนด์ให้กับสโมสรเล็กๆ ในลีกฮอลแลนด์อย่าง วิลเล่ม ทเว เพื่อเซ็นเอาเซนเตอร์แบ็กทีมชาติฟินแลนด์นามว่า ซามี่ ฮูเปีย มาร่วมทีม
นี่เป็นนักเตะที่ลิเวอร์พูลซื้อถูกสุดในหน้าร้อนนั้น ไม่นับ เอริค ไมเยอร์ กองหน้าดัตช์ที่ได้มาแบบฟรีเอเยนต์
เรื่องราวที่ลิเวอร์พูลไปสนใจ ฮูเปีย เกิดขึ้นหลายเดือนก่อนหน้านั้น มันเป็นช่วงกลางฤดูกาล 1998/99 อยู่ดีๆ ก็มีช่างภาพวีดีโอรายหนึ่ง เข้ามากระซิบชี้เป้าให้พวกเขา
1
จากปากคำของ ปีเตอร์ โรบินสัน ซึ่งขณะนั้นเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารของสโมสร
"มันเป็นช่วงกลางฤดูกาล 1998/99 ตอนที่มีเสียงเคาะประตูออฟฟิศของผมที่แอนฟิลด์"
"ผมไม่เคยเจอหนุ่มคนนี้มาก่อน เขาเข้ามาและแนะตัวเองว่าเป็นช่างกล้องวีดีโอ ที่ไปถ่ายงานฟุตบอลมาทั่วยุโรป เขารู้ว่าเรากำลังมองหากองหลังแข็งแกร่งอยู่ และก็แนะนำว่าให้เราไปเช็กฟอร์ม ซามี่ ซึ่งตอนนี้กำลังเล่นอยู่ที่ วิลเล่ม หนึ่งในทีมเล็กของลีกดัตช์"
"นั่นคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง ผมส่งต่อข้อความนี้ไปให้ เชราร์ (อุลลิเย่ร์) และ 5 เดือนต่อมา ทีมสต๊าฟฟ์ของเราก็เดินทางไปฮอลแลนด์เพื่อดูเขาเล่นหลายต่อหลายครั้ง"
"เรารู้ว่าซันเดอร์แลนด์ก็สนใจในตัวเขา และมีมุมมองทั่วๆ ไปที่มีต่อเขาด้วยรูปร่างของเขา ซามี่ อาจจะช้าเกินไปสำหรับเกมฟุตบอลอังกฤษ แต่นั่นไม่ใช่ความเห็นของทีมงานเรา"
รอน เยทส์, ฟิล ธอมป์สัน และทอม ซอนเดอร์ ที่เสียไปแล้ว รวมถึง ปาทริซ แบร์ชส์ ทุกคนคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่เรากำลังตามหาอยู่ และเมื่อ เชราร์ ยืนยันเรื่องนี้ เราก็เลยเริ่มเจรจาเพื่อคว้าเขามายังแอนฟิลด์"
ตอนที่ ฮูเปีย ย้ายมาลิเวอร์พูล ก็กลายเป็นข่าวใหญ่ เพราะถือว่ายุคนั้น ไม่ได้มีอินเทอร์เน็ตแพร่หลาย ไม่ได้มีวิกิพีเดีย ไม่ได้มี ยูทูบ
นักเตะชาวฟินแลนด์ ที่เล่นให้ทีมเล็กๆ ในลีกดัตช์ คนทั่วไปไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
ไม่ใช่แค่เมืองไทย แต่สื่อและแฟนบอลอังกฤษก็ด้วยในตอนนั้นที่อ่านชื่อเขาไม่ถูก Sami Hyypia
ซามี่ น่ะอ่านได้ แต่นามสกุลนี่สิ จะอ่านว่าอะไร มีทั้ง "ไฮเปีย", "ฮีเปีย" ก่อนที่จะมาถูกแก้ไขให้ถูกต้องตามหลักภาษาฟินแลนด์ว่า "ฮูเปีย" ซึ่งใกล้เคียงที่สุดแล้ว
ย้ายมาปุ๊บ ฮูเปีย ใช้เวลาไม่นานก็ปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้
เขาสูงถึง 193 ซม. แน่นอนว่าไม่ใช่กองหลังที่มีความเร็ว แต่ ฮูเปีย เข้าสกัดหนักหน่วง แม่นยำ ทางบอลดี มีความเก๋า และโดดเด่นที่สุดคือลูกกลางอากาศ และมีความเป็นผู้นำ
ไม่นาน เขาก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองกัปตันทีมต่อจาก เจมี่ คาร์ราเกอร์ และ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ซึ่งสองคนนี้บางครั้งเจ็บ บ่อย ทำให้ ฮูเปีย ก็ได้สวมปลอกแขนลงสนาม
ปี 2001 เขากับ ฟาวเลอร์ สลับกันเป็นกัปตันทีม ช่วยลิเวอร์พูลคว้า 3 แชมป์บอลถ้วย ทั้ง เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ และยูฟ่า คัพ
ต่อมาในปี 2002 เมื่อ เร้ดแน็ปป์ ย้ายทีมทำให้ ฮูเปีย ในวัย 29 ปี ได้รับปลอกแขนเป็นกัปตันทีมถาวร แต่มันกลับทำให้ฟอร์มของเขาไม่ดีอย่างเก่า
1
เดือนตุลาคม 2003 สโมสรตัดสินใจให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด รับปลอกแขนไปแทน ฮูเปีย กลับมาเป็นรองกัปตัน และมันเหมือนยกความกดดันออกไปทำให้ ปราการหลังฟินแลนด์ กลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง
ปี 2004/05 เมื่อ ราฟา เบนิเตซ เข้ามาคุมทีม ปรับเอา เจมี่ คาร์ราเกอร์ จากแบ็ก มาเป็นเซนเตอร์ เข้าคู่กับ ฮูเปีย มันคือการค้นพบครั้งสำคัญ เพราะเคมีของทั้งคู่ลงตัวมาก
คาร์ร่า จะเป็นตัวชนพร้อมหวด ฮูเปีย คอยดักเก็บ ทั้งภาคพื้นและบนอากาศ
ปีนั้นเอง ลิเวอร์พูล ก็พลิกล็อก สร้างปาฏิหาริย์ที่อิสตันบุล คว้าแชมป์ ชปล. มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่
แม้อายุเริ่มเยอะ แต่ ฮูเปีย ก็ลงสนามให้ลิเวอร์พูลมาโดยตลอด ข้อดีคือเขาไม่เคยบาดเจ็บหนักเลย ลงเล่นเกือบครบทุกนัดในพรีเมียร์ ลีก แทบทุกฤดูกาล
กระทั่งปี 2006/07 ลิเวอร์พูล มีการเปลี่ยนแปลง แดเนียล แอ็กเกอร์ ย้ายมา แล้วก็มี มาร์ติน สเคอร์เทล เข้ามา ทำให้ ฮูเปีย ในวัย 34-35 ได้ลงสนามน้อยลง
กระนั้น ราฟา เบนิเตซ ก็ยังยืนยันว่าประสบการณ์ของ ฮูเปีย จะสอนน้องๆ ได้ และต่อสัญญาออกไปจนปี 2009
หลังจากจบฤดูกาล 2008/09 ด้วยวัย 37 ปี ซามี่ ฮูเปีย ก็อำลาลิเวอร์พูล ย้ายไปเล่นให้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
รวมแล้ว ฮูเปีย รับใช้ลิเวอร์พูล 10 ปีเต็ม ลงเล่นทุกรายการ 464 นัด และทำได้ถึง 35 ประตูจากตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก
เขาช่วยให้หงส์แดงคว้าแชมป์ ยุฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า คัพ 1 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ อีก 2 สมัย
แม้จะไม่มีแชมป์พรีเมียร์ ลีก เพราะเป็นยุคที่ลิเวอร์พูล ยังไม่มีความสม่ำเสมอมากพอ แต่สิ่งที่ ฮูเปีย ได้แสดงออกมาตลอดการเล่นให้ลิเวอร์พูล คือการเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีสุดของพรีเมียร์ ลีก ในยุคนั้น
ด้วยค่าตัวเพียง 2.6 ล้านปอนด์ที่ลิเวอร์พูลจ่ายให้ วิลเล่ม ทเว มันคุ้มค่าทุกเพนนี อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ร่วมรับชมคลิปความสุดคุ้มของ ฮูเปีย กันได้ที่ :: https://citly.me/nt8bT
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา