สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง
สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง .. ตั้งอยู่ที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา บนระดับความสูง 2,038 ฟุต จากระดับน้ำทะเล เป็นอาคารโครงสร้างเหล็ก มีความสูง 45 เมตร มีบันไดให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปชมวิว และลิฟต์ให้บริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ
เราออกเดินทางจากที่พักตั้งแต่เช้ามืด ด้วยหวังว่าคนที่ใจเดียวกับเราที่ตั้งใจมาชมทะเลหมอกจะยังน้อยอยู่ ..
.. รถของเราแล่นผ่านทิวเขาและถนนคดเคี้ยวมาได้ระยะหนึ่ง พอถึงลานจอดรถจะต้องเปลี่ยนพาหนะมาเป็นรถสองแถวของผู้ให้บริการในท้องถิ่น ไม่อนุญาติให้นำรถส่วนตัวขึ้นไปบริเวณสกายวอลค์เพราะมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด
แม้เราจะมาถึงค่อนข้างเช้า แต่พบว่ามีนักท่องเที่ยวต่อแถวเข้าคิวรอขึ้นสกายวอล์คฯ อัยเยอร์เวง กันยาวเหยียด สร้างบรรยากาศทางการท่องเที่ยวในเมืองเบตงให้คึกคัก
.. โดยเฉพาะที่ตำบลหมอกอัยเยอร์เวงนั้น คึกคักเป็นอย่างยิ่ง เพราะดูเหมือนว่า ถนนทุกสายมุงสู่อัยเยอร์เวง และน่าดีใจที่ชุมชนได้ประโยชน์ จากโครง การสามเหลี่ยมเศรษฐกิจเต็มๆ แม้ช่วงที่เราไปเยือนการเปิดพรมแดน เบตง เพิ่งจะเริ่มดำเนินการ และนักท่องเที่ยวจากประเทศใกล้เคียงยังเข้ามาน้อย
การขึ้นไปชมทิวทัศน์บนสกายวอร์ค นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามกฎขั้นต้นที่วางไว้ เช่น ต้องสวมถุงหุ้มรองเท้าตามแบบที่กำหนด เพื่อป้องกันพื้นกระจกที่ระเบียงชมวิวเสียหาย ..
… ว่ากันว่า ถุงเท้าดังกล่าวชุมชนในพื้นที่ทำการผลิต สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านอีกทางหนึ่ง
นักท่องเที่ยวที่ต่อคิวรอขึ้นไปชมทิวทัศน์บนสกายวอร์คมีเยอะมาก .. แต่ขณะที่รอก็มีรูปปั้นนกเงือกให้ชมและถ่ายภาพ ด้วยพื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกเงือกหลายชนิด
อาคารสกายวอล์ค มีสถาปัตยกรรมที่แปลกตา .. หลายคนจึงเลือกเป็นจุดเช๊คอิน ส่งภาพสวยๆไปบอกกล่าวเพื่อนฝูงและคนใกล้ชิดผ่าน Social medias ต่างๆให้ฮือฮาเล่น
ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ณ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกยอดฮิตของเบตงที่เดินทางสะดวกรถเข้าถึง และมีทะเลหมอกให้ชมตลอดทั้งปี
อาคารสกายวอล์ค มีความสูงจำนวน 6 ชั้น ... สามารถชมวิวทะเลหมอกในมุมสูงเหมือนกำลังยืนเหนือทะเลหมอก และขุนเขาเขียวที่เรียงรายสลับซับซ้อน … มีทางเดินลอยฟ้าทอดยาวไปจนสุดระเบียงกระจกวงกลมที่กลายเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามแปลกตา
สกายวอล์คเป็นหอคอยสูง .. เราเลือกที่จะชมวิวที่ชั้น 4-6 ก่อน .. เป็นจุดชมวิวแบบสี่เหลี่ยมที่มีที่กระจกยกสูงเป็นระเบียงชมวิวสำหรับกันไม่ให้ตกลงไป
เราขึ้นมาที่จุดชมวิวสูงสุด ชั้น 6 ก่อน .. มองลงมาจะเห็นทางเดินสกายวอลค์พื้นกระจกอยู่ข้างล่าง แต่วันที่เราไปเยือนนั้น ในช่วงก่อน 7 นาฬิกา หมอกหนามาก ด้วยมีฝนตกในคืนก่อนหน้า ทำให้หมอกบดบังวิวทิวทัศน์เกือบจะทั้งหมด
ผู้เขียนจึงเดินลงมาที่ชั้น 4 อันเป็นชั้นที่สามารถถ่ายภาพเพื่อนๆที่ลงไปชมวิวที่ชั้น 3 ได้ดี … แต่ในช่วงก่อน 8 โมงในวันที่เราไปเยือน แม้พระอาทิตย์จะขึ้นไปสูง แสงก็ยังไม่สามารถเจาะทะลุความหนาขอบหมอกได้ .. ทำให้มองไม่เห็นทิวทัศน์อันเป็นฉากหลัง
เราเลือกที่จะรอให้แสงทะลุผ่านม่านหมอกอีกสักเล็กน้อย
ไฮไลท์สำคัญของสกายวอร์ค .. คือ ระเบียงทางเดินที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นที่มีทางเดินทอดยาวไปยังระเบียงวงกลม ยื่นออกไปจากฐานมีความยาวรวม 63 เมตร
.. ส่วนปลายเป็นระเบียงชมวิวพื้นกระจกใส ที่สามารถมองทะลุลงไปได้ถึงพื้นเบื้องล่าง สามารถชมวิวทิวทัศน์ของทะเลหมอกอัยเยอร์เวงอันสวยงามสุดอลังการได้รอบทิศทาง รวมถึงวิวพระอาทิตย์ขึ้น
Credit ภาพ : Niyada K Augsulee
Credit ภาพ : Niyada K Augsulee
ว่ากันว่า .. ในวันที่ฟ้าสดใส ในช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว จะเห็นสกายวอร์คได้ชัดเจนมากที่สุด และหากถ่ายภาพจากมุมที่สูงกว่าชั้นที่ 3 ทิวทัศน์ของสกายวอร์คที่มีฉากหลังเป็นแนวเขาเขียวครึ้ม มีหมอกขาวเหมือนปุยนุ่นคลอเคลียไล่ระดับเป็นเลเยอร์สวยงาม เหมือนโอบกอดผืนป่าและภูเขา จะเป็นภาพที่อลังการ ประทับใจ ชวนให้กดชัตเตอร์กล้องแบบไม่ต้องยั้งมือเลยทีเดียว
.. พระอาทิตย์ขึ้นสูงไปพอสมควร แต่ความอลังการของทะเลหมอกยังคงอยู่ และได้ความสดใสของท้องฟ้าสีฟ้าเข้ามาช่วยเสริมให้สวยงามยิ่งขึ้น
ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง .. เป็นความพิเศษในการชมทะเลหมอก บนสกายวอล์คที่สามารถเห็นทะเลหมอกแบบปังๆได้ทั้งปีในแบบพิเศษที่ไม่เหมือนที่ไหน เพราะเป็นการชมบนที่สูงเหมือนเราขึ้นไปชมบนยอดเขา ..
… อีกทั้งไม่จำเป็นต้องรอฤดูหนาว จึงเป็นความประทับใจของการชมทะเลหมอกที่ยากจะลืมเลือน
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
