12 ส.ค. 2022 เวลา 03:42 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เงิน ... พิมพ์ได้ไม่จำกัด? 💵💵💵
คำตอบ คือ ใช่! แต่มันจะมีผลกระทบที่เลวร้ายตามมาถ้าประเทศนั้นพิมพ์เงินออกมาเรื่อยๆแบบไม่ระมัดระวัง
แต่เคยได้ยินมาว่า ต้องมี 🪙🪙 ทองมาค้ำถึงจะพิมพ์เงินออกมาได้?
EatUP money talk. Bretton Woods
ใช่ ถ้าพูดกันอย่างกว้างๆก็ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง เพราะหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้ที่ชนะสงครามและเป็นประเทศที่มีทองมากถึง 2 ใน 3 ของโลกในขณะนั้น จึงประกาศออกตัวว่าจะให้เงินดอลลาร์สหรัฐเป็นตัวแทนทองคำ
กล่าวคือ เป็นสกุลเงินเดียวที่ผูกกับทองคำ โดยคิดที่อัตราแลกเปลี่ยน USD 35 = ทอง 1 ออนซ์ ประเทศอื่นๆจะได้สะดวก ไม่ต้องหาทองคำมาสำรองเงินตราของตน ซึ่งจะง่ายต่อการสำรองเงินและการค้าระหว่างประเทศ โดยมีเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินสกุลหลักของโลก
ซึ่งจากการประชุมเรื่องระบบการเงินใหม่ของโลกที่เมือง Bretton Woods ประเทศสหรัฐอเมริกา เหล่าประเทศต่างๆพากันเห็นด้วยจนเกิดระบบการเงินโลกใหม่ขึ้น เรียกว่า “ระบบ เบรตตัน วูดส์” (Bretton Woods system)
โดยคนที่ถือเงินดอลลาร์ สามารถเอามาแลกเป็นทองคำได้
แรกๆก็ไปได้ด้วยดี แต่หลังจากนั้น เศรษฐกิจของยุโรปและญี่ปุ่นก็เติบโตขึ้นมาก ในขณะที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯเริ่มถดถอยจากต้นทุนค่าใช้จ่ายในการทำสงครามเวียดนามและการขาดดุลการค้าที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ประเทศทั่วโลกเห็นว่ามูลค่าดอลล่าร์สหรัฐฯที่ผูกติดกับทองคำนั้นสูงเกินความเป็นจริง จึงทยอยนำเงินดอลลาร์มาแลกทองคำ ทำให้เกิดการไหลเวียนของทองคำออกอย่างมหาศาล
และยังมีข่าวลือว่าสหรัฐฯพิมพ์เงินออกมาโดยไม่ได้คำนึงว่าต้องมีจำนวนทองคำมาค้ำตามสัดส่วนที่ตกลงกัน ซึ่งวิกฤติความเชื่อมั่นนี้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่อสหรัฐ
ในยุคของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน จึงประกาศยุติ Bretton Woods System โดยคนที่ถือเงินดอลลาร์จะไม่สามารถนำมาแลกเป็นทองคำได้อีกต่อไป เป็นยุคที่หลายคนพูดกันว่า สหรัฐฯ reset หนี้ของตัวเองแบบดื้อๆ จากการที่เป็นพี่ใหญ่ของโลก
และหลังจากการยุบ Bretton Wood system ในทางเศรษฐศาสตร์ เงินดอลลาร์ของสหรัฐ ไม่ใช่เงินสด ถ้าดูในธนบัตรดีๆจะเห็นคำว่า Legal Tender ซึ่งก็คือ Promissory note หรือ ตั๋วสัญญาใช้เงิน เงินดอลลาร์มีค่าขึ้นมาเพราะคนส่วนใหญ่เชื่อมั่นและให้ค่า ก็ไม่ต่างอะไรกับ Bitcoin คริปโตเคอเรนซีชื่อดังที่มีมูลค่าขึ้นมาจากความเชื่อมั่นของคนถือว่าจะเป็นเงินของอนาคต รวมถึงแหล่งลงทุนด้านการเงิน
อ้าว? … แล้วทำไมเราไม่พิมพ์ออกมาเยอะๆไปเลยล่ะ ประชาชนจะได้รวยๆ อยู่ดีกินดี?
ถ้าถามว่าทำได้ไหม ขอตอบว่า “ทำได้” แต่ “ไม่ควรทำ” เพราะจะส่งผลเสียอย่างมหาศาล ดูอย่างเวเนซูเอล่าที่รัฐบาลใช้นโยบายประชานิยม เอาใจประชาชนในระยะสั้น โดยไม่คำนึงถึงผลในระยะยาว สุดท้ายประเทศก็พังพินาศ ถ้าประเทศไทยผลิตเงินออกมาเยอะๆ ให้ประชาชนมีเงินล้านถือกันทุกคน ตอนนั้นกระดาษทิชชู่ม้วนหนึ่งคงมีมูลค่าหลักพันบาท เนื่องจากผลของเงินเฟ้อ ที่มีเงินบาทเยอะเกินไปและตามกฎ demand & supply เมื่อsupply มากเกินไป (oversupply) มูลค่าก็ถูกด้อยลงไปด้วย
แล้วทำไม สหรัฐฯ ถึงพิมพ์เงินดอลลาร์ออกมาได้ตลอด มีปัญหาเศรษฐกิจก็ทำ QE หรือ Quantitative Easing พิมพ์เงินใส่เข้ามาในระบบเศรษฐกิจอย่างมหาศาลแต่ค่าเงินดอลลาร์ไม่เห็นเปลี่ยนแปลง
นั่นเป็นเพราะ โลกเรายังมีความต้องการเงินดอลลาร์จำนวนมาก เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ พันธบัตร ซื้อขายระหว่างประเทศ ชำระค่าน้ำมันพลังงาน(petrodollar) ก็ต้องเป็นเงินดอลลาร์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงที่เกิดวิกฤติโลกหรือขาดความน่าเชื่อถือของระบบเศรษฐกิจ ประเทศที่ไม่ใช่สกุลหลักของโลกหรือนักลงทุนก็จะเน้นถือครองเงินดอลลาร์มากกว่าเพราะมีเสถียรภาพสูงกว่า เพราะโลกมองเงินดอลลาร์เป็น safe heaven เหมือนพวกทองคำ ยังไงก็ต้องถือเงินสักสกุลหนึ่ง เขาก็เลือกถือเงินดอลลาร์ เงินของพี่ใหญ่ของโลกเพราะมั่นใจว่า ไม่ล้มแน่นอน
แต่ในยุคปัจจุบันที่ความยิ่งใหญ่ของสหรัฐฯกำลังถูกสั่นครอน สหรัฐฯยิ่งอยู่เฉยๆก็ไม่ได้ ต้องไปแวะนั่นเวียนนี่ ไปข้องเกี่ยวกับประเทศหรือองค์กรต่างๆตลอด เพราะต้องการสร้างชื่อของตัวเองในฐานะพี่ใหญ่ไว้ เพื่อคงมูลค่าของเงินดอลลาร์ของตัวเอง
โฆษณา