13 ส.ค. 2022 เวลา 03:03 • การ์ตูน
EP : 443 (Repost)
บุปผามรณะ กับ มาดามกู้โลก
หากพูดถึงงานของ อ. ทาคาฮาชิ ชิน แล้วละก็ผลงานที่จะถูกหยิบยกมาพูดถึงและเป็นเสมือนเรื่องที่ทำให้ชื่อของ อ. เป็นที่รู้จักกันก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง “Saikano อาวุธสุดท้ายคือเธอ” แต่สำหรับผมแล้วเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องแรกที่ผมได้อ่านงานของ อ. แต่ก็ไม่ใช่งานที่ประทับใจผมซักเท่าไหร่ (ความเห็นของผมนะครับ)
ถ้าพูดถึงในแง่ของไอเดีย ผมชอบนะ แต่สไตล์การเล่ามันไม่ลงตัวสำหรับตัวผม แต่ยังไงเรื่องนี้ก็ยังน่าหยิบยกมาพูดในเรื่องของไอเดียที่ใส่ไปในเนื้อเรื่อง และสามารถพูดว่าเป็นอีกการ์ตูนที่มีเนื้อหาน่าสนใจเกินกว่าจะมองข้ามไปได้ครับ
ผลงานของ อ. ชิน ในบ้านเราต้องเรียกว่ามีเข้ามาเป็นระยะๆ นะครับ ไม่เคยขาด เพียงแต่ส่วนใหญ่ ออกมาไม่ครบเล่มตามญี่ปุ่นครับ ด้วยความแรงของภาพบ้าง ด้วยเรทติ้งบ้าง เพราะเอาเข้าตามจริงผมว่างานของ อ. เขามันไม่ใช่ทางสายหลักซักเท่าไหร่ คนชอบก็ชอบไม่ชอบนี้ก็ไม่ชอบกันไปเลยครับ
ทำให้ยอดขายในบ้านเราผมว่ามันไม่เยอะพอเลยถูกลอยแพกันอยู่หลายต่อหลายเรื่องเลยนะครับ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผมอาจด่วนสรุปไปก็ได้ว่าอยู่ในลิสที่ถูกลอยแพจาก สนพ ในไทยแล้วอีกเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นผลงานในยุคหลังๆ ของ อ. ชิน กับเรื่องนี้ครับ “บุปผามรณะ กับ มาดามกู้โลก”
มังงะที่เป็นผลผลิตของ อ. ชิน มักมีสิ่งที่คล้ายๆกันอยู่หลายเรื่อง อย่าง ตัวเอกต้องเป็นผู้หญิง และผู้หญิงนั้นต้องมีชีวิตรันทด หรือไม่ก็มีชีวิตอันเลวร้ายไม่เป็นตัวละครผู้หญิงที่มีความสุขซักเท่าไหร่ และจะมีความเงอะๆ งะๆ ในตัวเองให้ดูเป็นผู้หญิงนิ่มๆ ซะส่วนใหญ่ครับ อ. เป็นอีกคนนึงที่ชอบทรมานตัวเอกที่เป็นผู้หญิงอยู่ทุกเรื่องเสมอ
กับเรื่องนี้ก็ใช่ครับ “บุปผามรณะ กับ มาดามกู้โลก” ก็เป็นการ์ตูนอีกเรื่อง ที่ อ. ยังคงเรียกใช้บริการตัวเอกตัวเดินเรื่องเป็นสาวๆ เงอะๆงะๆ เพียงแต่ว่า หากเราอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ในช่วงหน้าแรกๆ จะพบว่าพล็อตเรื่อง การเลือกธีมในการนำเสนอ วิธีการเล่าเรื่องราวจะมีความอบอุ่น มีความสดใสเจืออยู่ค่อนข้างมาก บรรยากาศแห่งความรักอบอวนไปหมด โดยสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเช่นนั้นก็คือ การนำบรรยากาศของการใช้ชีวิตของแม่บ้านคนนึง ซึ่งต้องทำงานบ้าน เตรียมอาหารเอาไว้ให้สามีทีกำลังจะกลับบ้าน
และเธอก็คาดหวังให้เมื่อสามีเธอมาเห็นกับข้าวบนโต๊ะต้องรู้สึกดีใจในสิ่งที่เธอเตรียมไว้ให้ เพราะฉะนั้นเรื่องในช่วยแรกๆที่เราเห็นจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศของความรักการใส่ใจในสิ่งที่กำลังทำของเธอ
เรื่องนี้ใช้การเล่าเรื่องผ่านตัวละครหลักที่เป็นกระต่ายครับ เสมือนว่าเรากำลังได้ยินกระต่ายตัวนี้เล่าเรื่องราวที่เขาเห็นอยู่ตรงด้านหน้าของเขา ซึ่งมันก็คือการใช้ชีวิตของเขาและเจ้านายของเขา โดยกระต่ายตัวนี้ชื่อ พีตัน และ ตัวพีตันเองจะเรียกหญิงสาวที่เป็นตัวละครหลักในเรื่องนี้ ว่า “คุณผู้หญิง” และทั้งเรื่องก็จะเรียกเธอว่า “คุณผู้หญิง” ตลอดไม่มีการเรียกชื่อจริงครับ
สิ่งแรกๆที่ผมรู้สึกแปลกมากๆในงานของ อ. ชินในครั้งนี้ก็คงเป็นบรรยากาศอย่างที่บอกนะแหล่ะครับ แม้ผมจะอ่านงานของ อ. มาจำนวนนึงแล้ว แต่การเริ่มต้นด้วยความสุขของการทำอะไรให้อย่างนี้มักไม่ค่อยเจอในงานของ อ. ซักเท่าไหร่ จะว่าไปส่วนใหญ่ อ. จะเริ่มด้วยความอึนๆ ทึมๆ ก่อนที่จะแนะนำตัวละครหลักของเรื่องให้เรารู้จักครับ บรรยากาศของเรื่องนี้จึงแตกต่างจากเรื่องอื่นๆของ อ. เป็นอย่างมากแบบรู้สึกได้เลย
ความแปลกใหม่อีกอย่างของงานชิ้นนี้ของ อ. ก็คือ การนำเรื่อง “อาหาร” เข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศอันอับอุ่นในเรื่องนี้ครับ ด้วย “คุณผู้หญิง” มีอาชีพเป็นแม่บ้านตั้งแต่เริ่มต้นที่เราเห็น และภารกิจแรกๆ ที่เราเห็นเธอทำก็คือการเตรียมอาหาร และ ทำอาหาร โดยภาพจะทำให้เราเห็นว่า เธอเตรียมวัสถุดิบในการทำส่วนนึงจากในสวนหลังบ้าน และสิ่งที่ไม่สามารถหาจากหลังบ้านก็จะเป็นการออกไปซื้อหาจากนอกบ้านครับ
เพราะอย่างนั้นเรื่องนี้ในแต่ละตอน อ. จะใช้ภาพ อาหารที่ทำเสร็จแล้วในแต่ละวันเป็นภาพเปิดพร้อมกับบอกพวกเราว่า อาหารที่ทำเสร็จแล้วนั้นมีอะไรบ้าง ด้วยภาพสีอันสดใส มันทำให้หน้านี้สามารถสร้างความรู้สึกผ่อนคลายเสมือนเรากำลังจะได้กินอาหารอร่อยๆในไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้ว เพียงแค่รอใครบางคนกลับมาตามเวลาในแต่ละวัน
และจากภาพอาหารที่เปิดเรื่องมาแต่ละตอนนั้น ก็จะตามด้วย ภาพของคุณผู้หญิงที่กำลังเตรียมวัตถุดิบตามที่บอก และทำอาหาร พร้อมกับคำบรรยายจาก พีตัน ที่จะทำให้เราเข้าใจในบางส่วนของชีวิตของเธอจากมุมมองของพีตัน ซึ่งในตอนแรกของเรื่องนี้ก็ใช้เวลาไม่นานที่จะบอกเล่าเรื่องราวของเธอและสิ่งที่เธอต้องทำและกำลังทำ พร้อมกับทำให้เราเห็นว่านิสัยของเธอนั้นเป็นอย่างไร เรื่องของนิสัยก็ทำให้ผมเข้าใจและมั่นใจได้เลยว่า
เธอคนนี้ สมกับเป็นตัวละครของ อ. ชิน เพราะจะมีความรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงที่เงอะๆงะๆ ในหลายๆจุด ซึ่งเป็นปกติมากในตัวผู้หญิงของ อ. เสมอมา เพียงแต่ตัวละครผู้หญิงของ อ. ที่เป็นตัวหลักจะเป็นคนที่ถูกกระทำอย่างรุนแรงไม่ทางใดก็ทางนึง แต่ในเมื่อมันเปิดเรื่องมาแบบนี้ ให้บรรยากาศอบอุ่นซะขนาดนี้ มันทำให้ผมคิดเองในใจว่า เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องแนวทรมานสาวๆตามที่ อ. ชอบมั้ง
อาจเป็นเรื่องราวของการทำอาหาร เมนูอันอับอุ่น หรืออาจเป็นเรื่องที่ อ. ต้องการทดลองเนื้อเรื่องแบบใหม่ๆก็ได้นะ ถ้าผมมองย้อนความคิดของผมตอนนั้นไป จากตอนที่ได้อ่านจบแล้ว ผมก็จะบอกตัวเองว่า ผมกำลังพลาดอย่างแรง เพราะเรื่องนี้ยังไงคนเขียนก็คือ อ. ชิน นักวาดที่ชอบนำตัวละครหญิงสาวมาปู้ยี้ปู้ยำเก่งและหนักๆ เสมอมา อย่าเพิ่งคิดอื่นไปว่า อ. จะเปลี่ยนแนวทางนะ ........
.
.
.
เนื้อหาต่อจากนี้จะมีการสปอยเข้ามาเกี่ยวข้องนะครับ ซึ่งผมต้องบอกก่อนว่า หากใครคิดว่าต้องการหาเรื่องนี้อ่านเองแน่ๆ ผมแนะนำให้อ่านถึงแค่ตรงๆนี้นะครับ เพราะเรื่องนี้ด้วยวิธีการเล่ายิ่งในช่วงแรกๆมันทำออกมาได้ดีมาก หลอกผมได้ซะอยู่หมัดเลยครับ ผมสนุกกับการเปิดเรื่องและวิธีการเล่าของเรื่องนี้มาก ทำให้รู้สึกเลยว่าเรื่องนี้สนุกเพราะวิธีการเล่าแบบนี้ครับ เพราะฉะนั้นเลยแนะนำว่า ไม่ต้องอ่านต่อ ถ้ามีและยังไม่ได้อ่าน หรือ คิดว่าจะหามาอ่านแน่นอน ปิดเลยครับ เพราะความสนุกมันจะหายไปเยอะพอควรครับ
ถ้าใครจะปิดเลิกอ่านเพราะทำตามคำแนะนำที่ผมบอก สรุปคร่าวๆเลยว่าเรื่องนี้สนุกครับ แต่คาดว่าแพนะเพราะที่ญี่ปุ่นจบแล้ว น่าจะจบเล่ม 3 หรือ 4 นี่แหล่ะครับแต่บ้านเรา ออกมาแค่เล่มเดียวครับ แต่ก็แนะนำให้หามาอ่านอยู่ดีครับสนุกดีมากเรื่องนี้ ไปหาอ่านนะครับ ขอบคุณครับ
.
.
เอาละครับคนที่ยังอ่านมาถึงตรงนี้ผมถือว่าโอเคที่จะรับทราบการสปอยนะครับ ถ้าอย่างนั้นผมเล่าต่อนะครับ
.
.
.
.
.
.
ตามที่ผมบอกไว้ว่าตอนแรกเลยที่ได้เปิดอ่านช่วงแรกๆในตอนที่ 1 ผมจะเข้าใจไปเองว่าเรื่องนี้ อ. อาจเปลี่ยนแนว เปลี่ยนโทน ไม่เหมือนงานเก่าๆ เพราะมันมีบรรยากาศความอบอุ่นอยู่ ด้วยรูปอาหาร การทำอาหาร การหาวัตถุดิบในสวน อะไรแบบนั้น แต่พอมาถึงซีนที่ คุณผู้หญิงเรา ต้องไปหาวัตถุดิบ อย่างเช่นเนื้อปลา ที่มันไม่มีอยู่หลังบ้านเหมือนพวกผักต่างๆแล้ว หลังจากฉากนี้ไป ทุกอย่างก็เริ่มทำให้ผมรู้สึกทีละนิด ทีละนิด ทีละนิด ว่า นี่มันก็คืองานของ อ. ชิน เหมือนเดิมจริงแท้แน่นอนครับ
คุณผู้หญิงและพีตัน ต้องออกเดินทางไปซื้อเนื้อปลาตามโฆษณาของร้านขายปลา แต่เมื่อไปถึงและไม่มี ทำให้เธอ ต้องหาทางไปหาซื้อเนื้อปลาจากที่ใดที่หนึ่งให้ได้ เพราะเมนูวันนี้คือเนื้อปลา และเธอต้องทำให้สามีเธอได้กินเนื้อปลาตามนี้ให้ได้ เธอเดินไปเรื่อยๆ ตามทางที่ไม่มีผู้คน
ก่อนจะขึ้นรถบัสคันนึงที่เดินทางไปยังอีกที่ที่ไกลบ้าน ก่อนจะทำตัวเหมือนเด็ก ตั้งแต่หลับบนรถโดยพิงกับคนอื่นข้างๆโดยที่ไม่รู้จัก หรือเมื่อลงจากรถก็หาที่นั่งกินข้าวกล่องที่เตรียมเอาไว้อย่างสบายใจ พร้อมทั้งเก็บผักที่โตอยู่แถวๆที่เธอนั่งทานข้าวเพื่อเอาไปทำกับข้าวที่บ้าน
และเมื่อมื้อนี้ผ่านไปด้วยดี คุณผู้หญิงก็สังเกตเห็นทางรถไฟสายนึงและเธอก็เดินไปตามทางรถไฟสายนั้นอย่างตั้งใจ จนสุดทางรถไฟที่ทำให้เธอกับกำแพงรั้วหนามที่จะกั้นไม่ให้คนสามารถเดินผ่านเข้าไปได้ ในพื้นที่ต้องห้ามที่แห่งนี้ พื้นที่ที่มีแต่ตึกใหญ่โต พื้นที่ที่เคยเรียกว่า เมืองโยโกฮาม่า และ โตเกียว เมืองใหญ่ที่ตอนนี้เป็นเมืองที่ไร้ผู้คนที่มีชีวิตอยู่...
ใช่ครับ ตัวเนื้อหาใจความและสไตล์ เรื่องนี้ยังคงมีความเป็น อ. ชินเหมือนเดิม ตัวผมเองถูกทำให้ไขว้เขวด้วยเนื้อหาที่ดูสบายๆ และภาพที่บ่งบอกถึงความอบอุ่นของครอบครัวที่ภรรยากำลังรอคอยสามีกลับมาทานอาหารที่เธอตั้งใจที่จะทำให้กับเขากลับมากินอย่างเอร็ดอร่อย การทำอาหารที่เต็มไปด้วยความรักและความคาดหวังเพื่อตอบสนองกับความรักที่เธอได้จากคนที่เธอรัก
นั่นเป็นความรู้สึกในช่วงแรกที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้ดีและเนียนมากๆ จนทำให้ผมไม่คิดว่า อาหารแสนอร่อยที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของการสร้างสรรค์เซ็ทนี้ในแต่ละวัน มันจะจบลงด้วยการรอคอยตลอดไป และตลอดมาด้วย
ตัวการ์ตูนฉลาดมากๆที่เลือกใช้ซีนหรือฉากแบบนี้ในการสร้างความประทับใจเพื่อให้เรารู้สึกว่ามันจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ และเมื่อเราคิดว่ามันเป็นการ์ตูนรัก อบอุ่น และ อาหาร เรื่องก็จะค่อยๆคลายตัวช่วยในฉากต่างๆ มาให้เราเห็น ซึ่งหากเราสังเกตดีๆตั้งแต่ทีแรกเราก็จะเริ่มเห็นความแปลกในฉาก
หรือซีนต่างๆ ที่ อ. ใส่ใบ้เอาไว้ให้เราอ่าน ไม่ว่าจะเป็นคำพูดของเหล่าแม่บ้านที่พูดถึงความหายากของเนื้อสัตว์ต่างๆ พูดถึงสิ่งที่ราชการจัดหาให้บ้าง หรือพูดถึงสิ่งนั้น ที่ “บาน” ออกมา รวมถึงฉากการเดินทาง เส้นทางที่คุณผู้หญิงเดินผ่านไปเรื่อยๆ นั้นก็รู้สึกไม่มีผู้คนอย่างที่ควรจะเป็น เห็นถึงความโดดเดี่ยว และเงียบเหงาที่เริ่มขัดแย้งกับความมีพลังและชีวิตชีวาของตัวละครอย่างคุณผู้หญิงในช่วงต้นๆ
จวบจนมาถึงฉากที่เธอเดินมาถึงรั้วที่ห้ามเข้าไปยังเมืองใหญ่ๆที่อยู่ตรงหน้าเธอ รวมถึงคำประกาศในการห้ามเข้าอย่างเด็ดขาด นั่นทำให้เราแน่ใจถึงความรู้สึกเล็กๆ สงสัยน้อยๆ ในฉากหน้าสองหน้าที่เห็นก่อนหน้านี้ว่ามันกำลังยืนยันกับตัวเราที่เป็นคนอ่านว่า ตั้งแต่ตอนต้น “เรา” อยู่ในโลกของ “อ. ชิน” หรือ โลกของ “คุณผู้หญิง” ไปเรียบร้อยตั้งแต่ตอนต้นแล้ว
อ. ชิน ยังคงใส่เอกลักษณ์ของ อ. เข้ามาอย่างเหนียวแน่นเช่นเดิม นั่นคือการเล่นกับความรักของผู้หญิง และการทรมานผู้หญิงเหล่านั้น โดยเรื่องนี้ได้ให้สิ่งนึงกับเหล่าตัวเอกที่เป็นผู้หญิงทั้งหลายในเรื่องนี้ สิ่งที่เป็นทั้งกำลังใจให้พวกเธอมีชีวิตต่อไป และ ในขณะเดียวกัน ก็สามารถทำให้ชีวิตที่ผ่านมาของเธอพังทลายได้เช่นกัน สิ่งนั้นคือ “ความหวังครับ”
โดยความหวังในเรื่องนี้ ออกมาในรูปแบบของการรอคอยของ คุณผู้หญิงทุกคนในเรื่องนี้เลย จากตอนแรก การรอคอยที่ถูกสร้างและบิ้วให้เรารู้สึกว่ามันกำลังจะมาถึงเวลานั้น ด้วยการกลับมาของ สามี ที่คุณผู้หญิงได้รอคอยมาทั้งวัน ความสุขที่เกิดจากการรอคอยในช่วงเวลานี้ ถูกสื่อสารให้กับเราได้รับรู้ในฐานะคนอ่านแบบเต็มๆ แต่เมื่อมาถึงช่วงที่เรารู้ความจริงว่า การรอคอยนี้ไม่มีจุดสิ้นสุดหรือมันสิ้นสุดไปนานแล้ว ก็สร้างความปวดร้าวได้มากมายเกินกว่าความสุขช่วงที่รอคอยมากเช่นกัน
ในโลกของคุณผู้หญิงนี้ มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น อยู่ๆก็มีต้นไม้ขนาดยักษ์โผล่ขึ้นมากลางใจเมืองใหญ่ในระหว่าง ชม การทำงานธรรมดาของคนเรา และด้วยการบานของดอกไม้ยักษ์มันทำให้ผู้คนที่อยู่ในนั้นตอนนั้น ได้ตายลงไปอย่างรวดเร็ว รัฐบาลจึงต้องทำการกั้นเขตเมืองใหญ่ๆ ที่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้เอาไว้ โดยห้ามคนเข้าไปข้างในเด็ดขาด และแม้หน่วยงานของ รัฐบาลจะส่งคนเข้าไปสำรวจมากมาย แต่ไม่มีใครได้ออกมาจากพื้นที่เมืองเหล่านี้เลย
แต่.... เหล่าแม่บ้าน และคนที่กำลังเฝ้าคอยให้คนที่รักกลับออกมาจากเมืองเหมือนปกติในทุกวัน พวกเขายังรอคอย ยังเชื่อมั่นว่า ในเมืองเหล่านั้น ยังคงมีคนที่พวกเขารักติดอยู่ด้านใน พวกเขายังมีชีวิตอยู่ และในฐานะของ ภรรยา เธอจึงต้องเตรียมอาหารไว้ต้อนรับคนรักของเธอในแต่ละวัน เพราะมันจะมีอะไรดีกว่าการกลับบ้านมาเจออาหารอร่อยๆ บนโต๊ะอาหารละ ... ใช่ไหม .....
อย่างที่เห็นครับ เรื่องนี้เล่นกับการรอคอยอย่างไม่มีความหวัง อาจจะมองว่าเป็นการหลอกตัวเองก็ได้นะครับ ซึ่งในเรื่องนี้ยิ่งสร้างฉากต่างๆให้เราเห็นว่า คุณผู้หญิง ทำสิ่งเหล่านี้ด้วยความสุขมากเท่าไหร่ เราก็มั่นใจว่าการจบในแต่ละวัน ด้วยการนอนแล้วตื่นมาเพื่อพบว่ากับข้าวยังคงตั้งอยู่ที่เดิมนั้น มันก็คงทำให้เจ็บปวดมากไม่แพ้กัน
นอกจากจะใส่เรื่องการรอคอยและความหวัง มาให้เต็มๆแล้ว ตัวเนื้อหาก็ใส่ ปัญหา และสาเหตุเข้ามาในเรื่องนี้เช่นกับเรื่องอื่นๆของ อ. ชิน อย่างที่บอกไปครับ เรื่องนี้ใส่เรื่อง ต้นไม้ยักษ์ที่โผล่ขึ้นมาในเมืองใหญ่ๆ มาให้เราเห็นเป็นปัญหาใหญ่ในเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน ตัวรายละเอียดก็ยังใส่อะไรหลายๆอย่างที่เปลี่ยนไปในโลกของเราเข้ามาให้เราสังเกตเห็นและตั้งข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นหลายประเด็นมากๆครับที่น่าสนใจ
อย่างปัญหาพื้นที่ ที่ติดกับเมืองที่ต้องกั้นห้ามเข้านั้น ทางราชการก็พยายามให้คนที่อยู่อาศัยย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่พวกเขาไม่ย้ายเพราะนี่คือบ้าน และหากคนที่เขารักกลับมาไม่เจอครอบครัวอยู่ที่บ้านจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้สื่อสารออกมาได้ง่ายๆมาก แต่ละเอียดอ่อนโครตๆ มันทำให้เราเข้าใจในปัญหาแนวๆนี้ที่เกิดในโลกของเรานะ บางจุดบางพื้นที่ ที่อันตราย ทำไมยังมีคนอยู่อีก ไม่ย้ายไปอยู่ที่ปลอดภัยและสะดวกแทนละ ก็เพราะมันเป็น บ้าน นั่นแหล่ะครับ
ผมชอบวิธีการสื่อสารในเรื่องนี้ให้เห็นถึงความขัดแย้งของ ราชการ และ ประชาชน ในเรื่องนี้มากนะครับตัวราชการที่พยายามขัดขวางและสร้างเงื่อนไขมากมายให้พวกคนเหล่านี้ย้ายออก ตั้งแต่ไม่ให้มี ขนส่งสาธารณะในพื้นที่เหล่านี้ การจำกัดอาหารในการส่งเข้ามาในเขต จำกัดไฟฟ้า น้ำประปา ไม่ให้มีตลอดทั้งวัน และอื่นๆ อีกมาก
หากมองในแง่ ภาพรวม การที่ประชาชนยังคงอยู่ในพื้นที่เสี่ยงๆแบบนี้ ผู้เกี่ยวข้องก็คงอยู่ไม่ปกติสุขในแต่ละวันใช่ไหมครับ หากวันนึงเกิดอะไรขึ้นกับคนในพื้นที่เสี่ยงเหล่านี้ พวกเขาก็ต้องมีส่วนในการรับผิดชอบไม่มากก็น้อย แต่คนพวกนั้นที่พร้อมจะเสี่ยงเพื่อรักษาบ้านของเขาไว้ ก็เป็นอะไรที่พวกเราจะมาตัดสินแทนพวกเขาไม่ได้หรอกนะครับ
และในเรื่องที่เล่าในเล่มนี้ก็ยังมีการใส่เรื่องที่ชวนให้สงสัยเข้ามาอีก อย่าง ตลาดมืดที่มีการค้าขายสินค้าที่ผลิตโดยประชาชน ซึ่งในเรื่องนี้ตัวละครจะเน้นย้ำเสมอว่า ของที่มาจากรัฐบาลหรือราชการไว้ใจไม่ได้ ทั้งยังมีราคาแพงที่ต่างกัน รวมถึงคนที่อยู่ในตลาดมืดบางส่วนซึ่งในเรื่องทำให้เห็นว่าพวกเขามีบางสิ่งที่ไม่เหมือนคนธรรมดา แต่เรื่องคำตอบของเรื่องนี้ก็ยังไม่ได้มีคำอธิบายอะไรให้เราเห็นนะครับ
เมื่อผมอ่านจนจบเล่ม 1 ก็พบว่าเรื่องนี้มีการวางรูปแบบการเล่าเรื่องที่แตกต่างจากก่อนๆของ อ. ตามที่ผมได้เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่ข้างต้นแล้วครับ โดยเรื่องจะเริ่มต้นด้วยเมนูอาหารที่สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเล่าย้อนไปตั้งแต่การเตรียมวัสถุดิบทั้งจากในบ้าน และนอกบ้าน ซึ่งเรื่องก็จะอาศัยตอนที่ คุณผู้หญิง ออกไปนอกบ้านพร้อมกับพีตัน เพื่อไปซื้อวัตถุดิบที่จำเป็นอย่างเนื้อสัตว์นั้น อาศัยช่วงการเดินทางค่อยๆเล่าปัญหา
หรือเงื่อนไข สภาพปัจจุบันที่เปลี่ยนไป องค์ประกอบของสังคมที่ไม่เหมือนเดิม ผลกระทบจากปัญหาครั้งใหญ่ หรือแม้แต่ปัญหาการใช้ชีวิตในพื้นที่กักกันของพวกคุณผู้หญิง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะสร้างเนื้อหาของการเล่าที่ดูมีความลึกและเต็มไปด้วยความน่าสนใจครับ การค่อยๆใช้แต่ละตอนเล่าถึงปัญหาที่เรื่องนี้มีทีละเล็กทีละน้อย มันสร้างและกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคนอ่านอย่างเราได้ดีเอามากๆ
เพราะด้วยความที่มันเป็นการนำเสนอที่ตรงกันข้ามกันอย่างมากระหว่างบรรยากาศแห่งความสุขที่คุณผู้หญิงกำลังจัดเตรียมอาหารในบ้าน กับ ปัญหาอันยิ่งใหญ่ที่ชวนให้เราสงสัยไปมาว่ามันมีอะไรอีกบ้าง การใช้การเล่าเรื่องสถานะการณ์ที่ตรงกันข้ามอย่างนี้ ต้องบอกว่าทำออกมาได้ดีมากๆ โทนและมูธของ อ. สามารถบิ้วให้เราติดตามอ่านและสนุกทุกครั้งเวลาได้ข้อมูลต่างๆ เพิ่มขึ้น
และเมื่อเราได้ข้อมูลต่างๆเพิ่มขึ้นแล้ว เรื่องในแต่ละตอนก็จะไปจบลงที่บ้านของ คุณผู้หญิง พร้อมกับสรุปว่าวันนี้คุณผู้หญิงได้ผ่านเส้นทางไปไหนมาบ้าง โดยใช้ภาพสี รูปสีจากสถานที่จริงๆ มาให้เราเห็น เสมือนเป็นไดอารี่ของการเดินทางในวันนี้ และแน่นนอนครับ มันมีสูตรการทำอาหารในมื้อนี้สั้นๆให้เราดูด้วย ก็เพราะอย่างนี้นี่แหล่ะทำให้ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันมีทั้งบรรยากาศความอบอุ่น เป็นการ์ตูนโทนสบายๆ ผสมอยู่ในสัดส่วนที่ไม่เคยมีมาก่อนในการ์ตูนของ อ. ชินครับ ซึ่งผมดันชอบมากๆเลยครับ
ตัวผมเองในช่วงแรกๆต้องบอกว่าไม่ชอบเรื่องลายเส้นตัวละครของ อ. ชินซักเท่าไหร่นะครับ มันบาง มันเบา การเว้นพื้นที่ก็ดูขาดๆเกินๆ แต่ลายเส้นช่วงหลังๆต้องบอกเลยว่า อ. ทำออกมาได้ดีวันดีคืน จนเรื่องลายเส้นไม่ใช่ปัญหาของงาน อ. ชิน สำหรับผมอีกต่อไป ซึ่งในเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีเยี่ยมทุกส่วนเลยครับ ภาพบุคคล ตัวละคร หรือฉากหลัง ฉากเมือง วาดออกมาได้ดีมากๆ
และเป็นเรื่องแรกที่ผมได้เห็นการนำภาพสีของ อ. มาใช้งานในเรื่องนี้ ซึ่งงานภาพสีของ อ. ดีเยี่ยมเอามากๆ ได้อารมณ์และบรรยากาศความอบอุ่นพร้อมไปกับเมนูอาหารได้ดีเยี่ยม จนอยากเห็นงานแนวนี้ของ อ. ออกมาอีกเยอะๆเลยครับ การนำเสนอ ภาพขาวดำ และมี ภาพสีในส่วนท้ายๆ ในเล่มนี้ โดนใจผมเต็มๆ อย่างไม่ต้องสงสัยครับ ถ้าท่านได้เห็นจะบอกว่า very good อย่างแน่นนอนครับ .
“บุปผามรณะ กับ มาดามกู้โลก” ในไทยเจ้าของ LC เป็นของ สนพ เนชั่นครับ โดยออกมา 1 เล่ม ในปี 2555 และต้องบอกว่านั่นคือเล่มเดียวในเรื่องนี้ที่ออกมาครับ ผมไม่แน่ใจว่าทำไม เนชั่นชอบซื้องานของ อ. มาแพเหลือเกิน ทั้งๆที่เอามาทั้งทีและงานดีอย่างนี้ น่าเสียดายมากๆเพราะที่ญี่ปุ่นเรื่องนี้จบนานแล้ว
น่าจะมีประมาณ 3-4 เล่มจบครับ ซึ่งสำหรับงานที่มันดีขนาดนี้ต้องบอกว่าผมเสียดายเอามากๆเลยนะครับ แต่ต้องยอมใจในการที่ เนชั่น พิมพ์มาโดยคงแบบที่ญี่ปุ่นไว้คือ มีภาพขาวดำเดินเรื่องและมีภาพสี แซมในหลายๆจุด ไม่ใช่ มีภาพเปิดภาพสี แล้วทั้งหมดเป็นขาวดำครับ
การทำอย่างนี้ทำให้งานเล่มนี้ ราคาสูงอยู่ที่ 95 บาทในปี 2555 ซึ่งต้องบอกว่าราคามันสูงแบบเข้าใจได้ครับ ถ้าได้หยิบเล่มนี้ไปจ่ายเงิน เพราะฉะนั้นจึงตบมือให้เนชั่นที่ทำออกมาในรูปแบบเดิมๆอย่างนี้ครับ แต่จะดีมากถ้าออกให้จบ ซึ่งพูดไปตอนนี้ก็คงไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้หรอกผมเข้าใจดี ก็แค่เสียใจอะ ....
กล่าวปิดท้าย “บุปผามรณะ กับ มาดามกู้โลก” เป็นผลงานช่วงหลังๆของ อ. ชิน ที่ผมชื่นชอบเป็นอย่างมาก เป็นผลงานที่รวมไอเดียการนำเสนอที่ดีมากๆและทำออกมาได้อย่างสนุกและน่าสนใจมาก โดยที่ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ในงานของ อ. อย่างการทรมานสาวๆ แต่ยกระดับไปอีกขั้นด้วยการเล่าเรื่องที่ผสมโทนความอบอุ่น ความรัก ได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างที่ไม่เคยเห็นในงานของ อ. มาก่อน
รวมทั้งพัฒนาเรื่องของลายเส้นที่ ดีขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งต้องบอกว่า ทุกอย่างลงตัวเป็นอย่างมาก เพราะแม้ภาพรวมมีความหลากหลายในการนำเสนอเป็นอย่างมาก รวมทั้งโทนอารมณ์ที่แตกต่างกันและรวมกันอยู่ในเรื่องได้อย่างลงตัวแล้ว ก็สร้างอารมณ์ตรงข้ามมาให้เราได้อ่านประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความหวังและความสิ้นหวัง ในการรอคอยการกลับมา หรือ ดอกไม้ ที่ทั้งๆมันควรสวยงามแต่ในเรื่องกับสื่อสารถึงโลกที่เปลี่ยนแปลงและการลาจาก
จนต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ห้ามพลาด ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ งานของ อ. ชิน หรือไม่ก็ตาม แม้เรื่องนี้จะไม่จบในเมืองไทย แต่ผมบอกได้เลยว่าเป็นอีกเรื่องที่ ถ้าพลาด คุณ(อาจจะ)เสียใจนะครับ ส่วนผม “รัก” เลยครับเรื่องนี้
ภาพ 9.9/10 (เอาภาพสีมาใช้งาน เลิฟมากๆ)
เรื่อง 9.9/10 (ยังมีความเป็นผู้หญิงในภาพของ อ. ชินบางส่วนที่ผมไม่ชอบครับ)
ความประทับใจ 9.9/10 (อยากให้ 10 แต่เพราะได้อ่านแค่เล่มเดียว อยากอ่านให้จบเพื่อสรุปอีกรอบเลยขอตัดไปนิดหน่อยนะครับ)
#Manga #รีวิวการ์ตูน #ยังไม่จบ ##NEDCOMICS #การ์ตูนแนวดราม่า #การ์ตูนแนววิทยาศาสตร์ #MangaAnimeReviews #การ์ตูนหักมุม #9คะแนน #บุปผามรณะกับมาดามกู้โลก #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
โฆษณา