Blockdit Logo (Mobile)
เด็กการเงิน DekFinance
•
14 ส.ค. 2022 เวลา 13:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 101
[เจาะลึกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หมดเปลือก]
สิ่งที่ได้จากบทความนี้
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพคืออะไร
เราต้องเก็บกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไหม ข้อดีข้อเสีย
สิทธิประโยชน์ทางภาษี
ข้อกำหนดที่ควรรู้
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีทั้งหมด 3 แบบ คือ
อัตราเดียวกัน (ก่อนปี 2558) คือเราสะสม 5% นายจ้างก็จะสมทบ 5% โดยเกณฑ์เดิมคือ พนักงานจะจ่ายเข้ากองทุน 2-15% ของค่าจ้าง และนายจ้างต้องสมทบไม่น้อยกว่าที่เราจ่ายเข้ากองทุน อย่างไรก็ดีหลังปี 2558 ลูกจ้างสามารถจ่ายเงินสะสมได้สูงกว่าเงินสมทบของนายจ้าง และได้ตัดคำว่า “นายจ้างต้องสมทบไม่น้อยกว่าที่เราจ่ายเข้ากองทุน” ออกไป
นายจ้าง จ่ายเงินสมทบมากกว่าเงินสะสม
ตามอายุงานหรืออายุสมาชิก
เงินที่ลูกจ้างจ่ายเข้ากองทุน เรียกว่า “เงินสะสม”
เงินที่นายจ้างจ่ายเข้ากองทุนให้ลูกจ้าง เรียกว่า “เงินสมทบ”
กำไรและขาดทุนที่เกิดขึ้นของเงินสองส่วนนี้ เรียกว่า ผลประโยชน์ “เงินสมทบ” หรือ “เงินสะสม”
**เกณฑ์ที่เจอได้บ่อยคือ ส่วนใหญ่จะกำหนดไว้แล้ว สมมติเช่นว่าถ้าเราออกจากงานภายใน 3 ปี ก็จะได้ส่วนที่สมทบ 50% ของทั้งหมด แต่ถ้าหลัง 3 ปี ก็จะได้ 100% หรือบางบริษัทใจดี ออกเมื่อไหร่ก็ได้เต็มตามจำนวนที่บริษัทสมทบเลยก็มี**
การออก Provident Fund (PVD) หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นเหมือนสวัสดิการอย่างหนึ่งที่บริษัทมีให้พนักงาน เพื่อดึงดูดให้เข้ามาทำงาน หรืออยู่ทำงานด้วยต่อ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้พนักงงานออมลงทุนด้วย
โดยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ก็จะมีแบบแผนมาให้เลือกบ้าง หรือมีแบบกองทุนเดียวแต่ลงหลายสินทรัพย์ไปเลย หรือจะเป็นแบบให้เราเลือกสัดส่วนการลงทุนด้วยตัวเองก็มี
โครงสร้างกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
โครงสร้างจะประกอบไปด้วย นายทะเบียนสมาชิก ผู้สอบบัญชี ผู้รับรองมูลค่าทรัพย์สิทสุทธิของกองทุน ผู้รับฝากทรัพย์สิน บริษัทจัดการ
ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมก็จะคล้ายกองทุนรวม คือ มี ค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุน ค่าธรรมเนียมผู้สอบบัญชี ค่าธรรมเนียมการชำระบัญชีกองทุน ค่าธรรมเนียมรับฝากทรัพย์สิน ค่าธรรมเรียนในการจัดทำระบบสมาชิก ค่าธรรมเนียมอื่นๆ
ประเภทของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
แบ่งเป็นแบบ กองทุนเดี่ยว และกองทุนร่วม (Pooled Fund) ซึ่งจะเป็นนายจ้างหลายรายมารวมกัน ร่วมกันกำหนดนโยบาย โดยกองทุนเดี่ยวก็จะเป็นกองทุนแบบนายจ้างรายเดียว หรือกองทุนที่มีนายจ้างมากกว่า 1 ราย (Group fund) จะเป็นบริษัทในเครือเดียวกัน
ข้อกำหนดที่ควรรู้
1.ลูกจ้างที่เกณียณ หรืออกจากงานอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปี (เป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 5 ปี) มีสิทธิขอรับเงินเป็นงวดได้
2.ถ้าลูกจ้างไม่เลือกแผนลงทุน ให้ลงทุนตามนโยบายเดิม ถ้าไม่มีอีก ให้ลงนโยบายที่เสี่ยงน้อยที่สุด
3.ถ้าออกจากงานไม่ว่าเหตุใด มีสิทธิโอนเงินทั้งหมด หรือที่เหลือจากรับเงินงวดไป RMF ได้
เกณฑ์ภาษี
เงินสมทบรวมทั้งผลประโยชน์ของเงินสะสมและเงินสมทบ เป็น เงินได้พึงประเมินภาษี 40 (1) อย่างไรก็ดีถ้าเข้าเงื่อนไขดังนี้ ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์
1.เกณียณโดยมีอายุ >= 55 ปี และมีอายุสมาชิก >= 5 ปี **ได้รับยกเว้นภาษีทั้งจำนวน**
2.ตายหรือทุพพลภาพ **ได้รับยกเว้นภาษีทั้งจำนวน**
3.ไม่เกษียณอายุ และอายุงาน >= 5 ปี **มีสิทธิเลือกเสียภาษีแบบแยกยื่นโดยหักค่าใช้จ่ายตามที่กำหนด**
4.ไม่เกษียณอายุ และอายุงาน < 5 ปี ไม่รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
เราจำเป็นต้องลงทุนในกอง PVD ไหม?
เราไม่จำเป็นต้องลงทุนในกอง PVD เลย แต่มีหลายปัจจัยที่เราต้องกลับมาคิดว่าทำไมเราจะลงทุนหรือไม่ลงทุนเช่น
1. บริษัทมีการสมทบเงินให้หรือเปล่า สมทบกี่ % แล้วมีเงื่อนไขอื่นไหมเช่น ต้องอยู่ 3 ปีเพื่อจะได้สมทบ 5% เพื่อที่จะได้ – อันนี้มันก็เป็นสิ่งที่เราต้องคิดเป็นอันดับแรก เพราะหากบริษัทสมทบให้เรา มันก็น่าสนใจที่เราจะลงทุนตามนั้น เพื่อที่จะได้รับเงินสมทบ
2. เราต้องการเก็บเงินเพื่อเกษียณไหม สนใจลดหย่อนภาษีหรือไม่
3. กองทุนที่มีให้เลือกน่าสนใจไหม
บางทีการเลือก PVD ก็เป็นการเก็บเงินที่ดี เพราะมันหักจากเงินเดือนเราต่อเนื่องตลอด เป็นการบังคับให้มีวินัยในการออมไปในตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี
ลาออกจากงานแล้ว PVD ทำอย่างไรดี?
1. เก็บ PVD ไว้ที่เดิมก่อน ซึ่งสามารถทำได้ในช่วงแรก ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข
2. ขาย PVD ออกมาซึ่งในกรณีนี้คือต้องเอาไปรายงานเป็นรายได้และเสียภาษีด้วย
3. ย้าย PVD จากที่เดิม ไปที่ทำงานใหม่ ซึ่งสามารถติดต่อพูดคุยรายละเอียดกับบลจ. ที่ดูแลกองทุนของบริษัทใหม่
4. ย้าย PVD ไปเข้าบัญชี PVD for RMF ตาม
บริษัทจัดการกองทุนต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้ก็จะได้เลือกกอง RMF แต่เป็นอีกบัญชีหนึ่ง
สำหรับตอนที่ 2 จะมาพูดในส่วนของการนับอายุงาน อายุสมาชิก การคงเงิน การคำนวณว่าเราจะได้เงินเท่าไรหลังจากพ้นสภาพ ข้อควรระวังอื่นๆ รวมถึงเรื่องอื่นที่ต้องรู้ของ PVD อย่าลืมกดไลค์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมเด็กการเงินครับ :))
โฆษณา