14 ส.ค. 2022 เวลา 00:24 • สัตว์เลี้ยง
5 อันดับ เครื่องติดตามแมว ปลอกคอ GPS สำหรับแมว ที่ใช้ได้ในไทย ปี 2022
หลังจากที่ทดลองใช้เอง สำรวจยี่ห้ออื่นๆ และทดสอบทั้งของจีนและของเมืองนอกหลายๆตัว สรุปได้ว่าถ้าหากแมวตัวใหญ่ หนักมากกว่า 4 กิโลกรัม เครื่องติดตาม Tractive For cat 4 คือตัวที่ดีที่สุด
แต่หากแมวหนักน้อยกว่านั้น TABCAT เหมาะที่สุด
ส่วนสาเหตุว่าทำไม อ่านต่อจนจบ แล้วคุณจะได้คำตอบ
5 อันดับ เครื่องติดตามแมว
1. Tractive GPS Cat 4 Tracker
ข้อดี
- ค้นหาด้วย GPS ไม่จำกัดระยะค้นหา
- ตำแหน่งแม่นยำ
- ค้นหาแบบ bluetooth ได้ในตัว
- แบตอยู่ได้ 7 วัน
- ประกัน 1 ปี
ข้อเสีย
- ขนาดยังใหญ่อยู่ แมวตัวเล็ก หนักน้อยกว่า 4 กิโลกรัม จะใส่ได้ลำบาก
- มีค่าใช้จ่ายรายเดือนอยู่ที่ 160-350 บาท
ราคา 3,990-4100 บาท
2. TABCAT
ข้อดี
- ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ใส่ได้กับแมวทุกขนาด
- ค้นหาด้วยคลื่นวิทยุ ระยะค้นหา 30-100 เมตร
- มีไฟบอกทิศทางที่เครื่องอยู่ หาได้แม่นยำมาก
- ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน
- แบตอยู่ได้นานหลายเดือน
- ประกัน 1 ปี
ข้อเสีย
- ระยะค้นหาสั้น
ราคา 5,490 บาท
3. Tracktrick TP03
ข้อดี
- ค้นหาด้วย GPS ไม่จำกัดระยะค้นหา
- ค่าใช้จ่ายจะถูกกว่า Tractive
- หาแบบ wifi ได้
- บอกได้ว่าตำแหน่งที่ได้มา แม่นยำหรือไม่
ข้อเสีย
- แบตอยู่ได้ 1-2 วัน
- ขนาดยังใหญ่อยู่ แมวตัวเล็ก หนักน้อยกว่า 4 กิโลกรัม จะใส่ได้ลำบาก
ราคา 2,990-3190 บาท
4. Apple Airtag
Apple Airtag
ข้อดี
- คุณภาพสูง จาก apple
- ขนาดเล็ก ใส่ได้กับแมวทุกขนาด
- อุปกรณ์เสริมเยอะ
- มีผู้ใช้ iphone ทั่งประเทศช่วยในการค้นหา หากออกระยะ
ข้อเสีย
- ระยะค้นหาสั้นตาม bluetooth ประมาณ 20 เมตร
- ระบบค้นหาจากผู้ใช้ iphone อื่น พึ่งพาไม่ได้มากนัก เพราะอัพเดทช้าเกิน
ราคา 990 บาท
5. Tracktrick TP01s
ข้อดี
- ค้นหาด้วย GPS ไม่จำกัดระยะค้นหา
- ขนาดไม่ใหญ่มาก แมว 3 กิโลกรัมขึ้นไป ก็ใส่ได้
- ราคาไม่แพง
ข้อเสีย
- ใช้สัญญาณ 2G ซึ่งบางพื้นที่จะไม่มีสัญญาณ 2G นี้แล้ว
- แบตอยู่ได้เพียง 1-2 วัน
- ค้นหาแบบ wifi ไม่ได้ หากแมวอยู่ในตึกที่สัญญาณ GPS เข้าไม่ถึง ตำแหน่งจะไม่แม่นยำ
ราคา 1,390-1420 บาท
หลักการในการพิจารณาเลือก ปลอกคอ GPS เครื่องติดตามแมว
1. ความแม่นยำในการค้นหา
ความแม่นยำในการค้นหาเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งในการเลือกปลอกคอ GPS แมว เพราะหากตำแหน่งที่ได้รับไม่แม่นยำ เราจะไม่มีวันหาเจอเลย
แต่อย่างไรก็ตาม เครื่องติดตามแมวแต่ละแบบ ก็มีการแสดงตำแหน่งที่ไม่เหมือนกัน หากเราเรียนรู้ที่จะใช้งาน ก็ทำให้การค้นหาของเราง่ายขึ้น
2. ฟังก์ชั่นช่วยสนับสนุนในการค้นหา
เครื่องติดตามแมวที่ดี จะต้องมีฟังก์ชั่นช่วยในการค้นหาแมวของเราได้ง่ายขึ้น เช่น มีไฟ ช่วนให้หาในที่มืดได้ หรือสั่งให้ส่งเสียง ช่วยให้เรามองหาได้ง่ายขึ้น หากแมวของเราซ่อนตัวอยู่ หรือมีการบอกทิศทางที่ชัดเจน เพื่อให้เราเดินไปหาได้อย่างถูกต้อง
3. ขนาดต้องไม่ใหญ่จนเกินไป แมวใส่ได้สบาย
เครื่องติดตามส่วนใหญ่ในตลาด ทำออกมาสำหรับหมา ทำให้มีขนาดใหญ่ แมวใส่ได้ไม่สะดวกนัก เครื่องติดตามแมวที่ดีต้องขนาดเล็ก และสามารถใส่แบบแนบปลอกคอได้ เพื่อไม่ให้เกะกะต่อแมว และไม่จุ่มน้ำเวลาแมวกินน้ำ
ระบบการค้นหาของเครื่องติดตามแมว มีแบบไหนบ้าง
1. GPS
GPS หรือ Global Position System เป็นระบบระบุตำแหน่งจากดาวเทียมที่ใช้กันทั่วโลก มีความแม่นยำสูง คลาดเคลื่อนน้อย 5-15 เมตร ไม่มีระยะจำกัดในการค้นหา
เครื่องติดตามแมวจะรับสัญญาณ GPS จากดาวเทียม จากนั้นก็จะส่งตำแหน่งข้อมูลผ่านสัญญาณมือถือมาที่มือถือเรา รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็น เช่น ปริมาณแบตที่เหลือ การเคลื่อนไหว ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม GPS ที่ใช้บนเครื่องติดตามแมว ไม่ได้ดีเท่า GPS ในมือถือ
GPS ที่อยู่บนเครื่องติดตามแมวนั้น จะรับสัญญาณได้ดีในที่โล่งเท่านั้น หากอยู่ในตึก หรือบ้านหลายชั้น จะทำให้รับสัญญาณ GPS ไม่ได้ ทำให้ตำแหน่งที่ได้รับไม่แม่นยำนัก
แล้วทำไม GPS บนมือถือถึงแม่นยำล่ะ?
การใช้ GPS นั้น กินพลังงานค่อนข้างมาก แม้แต่บนมือถือเองก็ตาม สังเกตว่าเวลาเราใช้ google map บนมือถือในการนำทาง เครื่องจะร้อน แบตหมดไว และเนื่องจากแบตของมือถือมีขนาดใหญ่กว่าบนเครื่องติดตามแมวมาก ทำให้มือถือสามารถใช้แบตในการค้นหาสัญญาณ GPS ได้มากกว่า ไม่เหมือน GPS บนเครื่องติดตาม ที่ต้องคำนึงเรื่องแบตด้วย
และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องติดตามแมวที่มี GPS มีขนาดใหญ่ เพราะต้องมีแบตที่ใหญ่ขึ้นนั่นเอง และราคาก็แพงกว่าเครื่องที่ไม่มี GPS ด้วย
2. คลื่นวิทยุ Radio Frequency
เมื่อเครื่องติดตามได้รับคลื่นวิทยุ จากตัวรีโมทที่ส่งสัญญาณไป ก็จะเกิดเสียงดัง และส่งสัญญาณกลับมาที่เรา รีโมทจะจับความเข้มของสัญญาณและแปลเป็นทิศทางและระยะให้เราได้
การค้นหาด้วยคลื่นวิทยุนี้ จะมีความคลาดเคลื่อนที่ต่ำมากๆ ในระดับเพียงไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น ในขณะที่ gps นั้นสามารถคลาดเคลื่อนได้หลายเมตร ทำให้สามารถค้นหาแมวที่กำลังซ่อนตัวอยู่ได้ดีมากๆ และยังกินแบตน้อยอีกด้วย
แต่ข้อเสียคือ การค้นหาด้วยคลื่นวิทยุนี้ ระยะจะค่อนข้างสั้น แต่ก็ยังไกลกว่าแบบ bluetooth และไม่สามารถแจ้งเตือนอะไรเราได้เลย เช่น เตือนเมื่ออกนอกเขต หรือแบตกำลังจะหมด
3. Bluetooth
การค้นหาด้วย bluetooth จะมีระยะค้นหาที่สั้นที่สุดเมื่อเทียบกับสัญญาณแบบอื่น bluetooth จะมีระยะค้นหาเพียงไม่เกิน 10-20 เมตรเท่านั้น แต่ยังจะสามารถบอกตำแหน่งได้ละเอียดและแม่นยำได้ แต่การตอบสนองนั้นยังสู้แบบคลื่นวิทยุไม่ได้
4. LBS
LBS หรือ Local base service เป็นตำแหน่งของเสาสัญญาณมือถือที่เครื่องรับได้ ซึ่งสามารถคลาดเคลื่อนได้ถึง หลายร้อยเมตร
ข้อเสียคือ หากพ้นระยะ bluetooth ไปแล้ว จะหาไม่เจอ
รีวิว 5 อันดับ เครื่องติดตามแมว ปลอกคอ GPS ที่ดีที่สุด
1. Tractive GPS For Cats 4 (2022)
ชนิด: ปลอกคอ GPS + Wifi + Bluetooth + 4G LTE
น้ำหนัก:
แบตเตอรี่อยู่ได้ : 7 วัน
รองรับ: Android + iOS + website
ความแม่นยำ: สูง
Tractive GPS รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 4 แล้ว ที่เพิ่งออกปี 2022 รุ่นนี้จะรอบรับ 4G LTE ได้แล้ว ไม่เหมือนรุ่นก่อนที่รองรับเพียง 2G
Tractive GPS for cats มีฟังก์ชั่นที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนเมื่อออกนอกเขต แจ้งเตือนแบตต่ำ โหมดประหยัดแบตหากเข้ามารัศมี wifi บ้าน มีโหมด bluetooth ช่วยให้ค้นหาแม่นยำขึ้นเมื่ออยู่ในระยะใกล้ สามารถสั่งให้ส่งเสียง และเปิดไฟได้ มีบันทึกตำแหน่งย้อนหลังให้ดูอีกด้วย
ตำแหน่งจะ update ทุก 2-60 นาที แล้วแต่เราจะตั้ง แน่นอนว่าหากเราสั่งให้อัพเดทบ่อย แบตก็จะหมดไวขึ้น
การชาร์จแบต ชาร์จเพียง 2 ชม. ก็เต็ม แล้วอยู่ได้สูงสุดถึง 7 วัน
ตัวเครื่องมีลักษณะโค้งเล็กน้อย ทำให้แนบไปกับคอของแมวได้ง่ายขึ้น ตัวเครื่องทำจากพลาสติก ไม่ก็องแก๊ง และกันจมน้ำได้ แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเครื่องก็ยังดูใหญ่ ใส่ได้กับแมวหนัก 4 กก.ขึ้นไปเท่านั้น
การใช้งาน เราจะต้องจ่ายค่ารายเดือน 160-350 บาทให้กับแอป โดยหากจ่ายรายปีก็จะถูกลง ค่าใช้จ่ายนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายคงที ไม่มีเก็บเพิ่ม
2. TABCAT
ชนิด: คลื่นวิทยุ RF
หนัก: 6 กรัม
แบตอยู่ได้: 4-12 เดือน
แอป: ไม่ต้องใช้
ความแม่นยำ: สูงมาก
Tabcat รุ่นใหม่ปี 2022 จะออกแบบมาเป็นลักษณะวงรี ซึ่งขนาดจะเล็กลง แนบปลอกคอได้มากขึ้น ทำให้ซิลิโคนที่ใช้มีความทนทานมากขึ้น ไม่ขาดง่ายอีกด้วย
tabcat จะประกอบด้วย ตัวรีโมท 1 ตัว กับแทคที่ต้องใช้ติดกับปลอกคอแมว จำนวน 2 อัน นั่นคือ เราสามารถติดตามแมวได้ 2 ตัวนั่นเอง 1 รีโมทจะรองรับแมวได้สูงสุด 4 ตัว แทคนั้นน้ำหนักเบามากๆ ลูกแมวก็ใส่ได้ แมวใส่ได้โดยไม่รู้สึกเกะกะใดๆ เลย
เมื่อเราค้นหา รีโมทจะมีไฟแสดงสถานะ โดยหากเราหันรึโมทไปทางไหน แล้วไฟขึ้นมากที่สุด เราก็เดินไปทางนั้นได้เลย แปลว่าแมวเราอยู่ทางนั้น รัศมีการค้นหาประมาณ 90-100 เมตร แต่หากมีตึกกีดขวาง รัศมีอาจจะสั้นลง นั่นแปลว่า หากแมวเราออกนอกรัศมีของเครื่อง เราก็ต้องออกเดินตามหาเพิ่ม แต่หากเข้ารัศมีแล้ว หาเจอแน่นอน
3. Tracktrick TP03
ชนิด: GPS+Wifi+LBS+4G LTE
หนัก 41 กรัม
แบตอยู่ได้: 1-2 วัน
แอป: ios และ android
ความแม่นยำ: สูง
Tracktrick TP03 รองรับ 4G และสามารถค้นหาได้ด้วย GPS แบบไม่จำกัดระยะทาง นอกจากนั้นยังสามารถค้นหาได้ด้วย wifi ก็คือ ถ้าหากเครื่องไม่สามารถรับสัญญาณ GPS ได้ ตัวเครื่องจะไปหาในลำดับถัดไปนั่นคือ เช็คว่ามี wifi ใดๆ อยู่ในรัศมีหรือไม่ ถ้ามี ก็จะส่งตำแหน่งของ router wifi นั้นกลับมาให้เรา
และถ้าหากบริเวณนั้นไม่มี wifi อีก ก็จะส่งตำแหน่งแบบ LBS กลับมาให้เรา
นอกจากนั้นแล้วตัว TP03 เองยังมีฟังก์ชั่น "แอบฟัง" ได้ด้วย นั่นคือ เราสามารถสั่งให้เครื่องโทรกลับมาหาเรา แล้วเราสามารถฟังเสียงสภาพแวดล้อมได้ด้วย
ในส่วนของแอปนั้น ใช้แอปชื่อ setracker2 โดยแล้วพบ bug บางอย่างใน ios เช่น นาฬิกาไม่ตรง หรือกดนำทางไม่ได้ แต่ไม่พบปัญหาใดๆ ในเวอร์ชั่น android
4. Airtag
airtag ใส่กับปลอกคอ (ต้องซื้อแยก)
ชนิด: Bluetooth
หนัก 11 กรัม
แบตอยู่ได้: หลายเดือน
แอป: ios
ความแม่นยำ: ปานกลาง
Airtag มีขนาดเล็ก กะทัดรัด และน้ำหนักเบา จึงสามารถใส่ได้กับแมวทุกขนาด มีอุปกรณ์เสริมเยอะมาก แนะนำให้ซื้อปลอกคอแบบแนบ เพราะใส่สะดวกกว่า แต่ airtag ค้นหาด้วย bluetooth จึงมีรัศมีค่อนข้างสั้นประมาณ 20 เมตร แต่ก็มีระบบ cloud gps ก็คือ ถ้าหากพ้นรัศมี bluetooth เราไปแล้ว เราก็กดไปว่า airtag นี้สูญหาย (lost) จากนั้นหาก airtag ของเรา ไปเข้ารัศมี bluetooth ของ iphone เครื่องใดๆ ก็จะรายงานกลับมาบอกตำแหน่งของ airtag นั้นให้เรา
แต่จากการใช้งาน พบว่ากว่า iphone เครื่องอื่นจะรายงานตำแหน่งกลับมาหาเรานั้น ค่อนข้างช้ามาก กว่าเราจะไปถึง แมวก็ไม่อยู่แล้ว อาจจะสรุปได้ว่า airtag นั้นเหมาะกับการตามหาสิ่งของมากกว่า
5. Tracktrick TP01s
ชนิด: GPS+LBS
หนัก 25 กรัม
แบตอยู่ได้: 1-2 วัน
แอป: ios android
ความแม่นยำ: ปานกลาง
TP01s มีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่ก็ยังไม่เล็กพอที่จะใส่กับลูกแมวได้ มีปลอกคอแถมให้ สามารถใส่แบบแนบปลอกคอได้ ค้นหาด้วย GPS ไม่จำกัดระยะค้นหา แต่เนื่องจาก ไม่มีการค้นหาแบบ wifi ทำให้เวลาที่แมวไม่ได้อยู่ในที่โล่งที่สัญญาณ GPS เข้าถึง เครื่อง Tp01s ก็จะส่งตำแหน่งแบบ LBS มาให้แทน ซึ่งไม่แม่นยำ ทำให้หากต้องการหาจริงๆ ต้องรอจนกว่าจะได้ตำแหน่งแบบ GPS เท่านั้น
ข้อเสียอีกอย่างคือ ใช้สัญญาณ 2G ซึ่งบางพื้นที่ไม่มีสัญญาณ 2G แล้ว เพราะฉะนั้น ควรตรวจสอบสัญญาในพื้นที่ก่อนซื้อ
สรุป
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าปลอกคอ GPS เครื่องติดตามแมวตัวไหน ที่เหมาะกับแมวเรามากกที่สุด
หลังจากที่เราสำรวจตลาดเครื่องติดตามแมว ทั้งตลาดจีน ยุโรป อเมริกา ก็พอจะสรุปได้ว่า ไม่มีเครื่องติดตามแมวตัวไหนที่ perfect เลย หากมีประสิทธิภาพในการค้นหา ก็มักจะมีขนาดใหญ่ หรือไม่ก็ราคาแพง
การสำรวจนิสัยและพฤติกรรมแมวของเรา จะช่วยให้เราตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เช่น หากเป็นแมวพันธุ์ โอกาสโดนขโมยสูง บริเวณบ้านเป็นลักษณะเปิด เราก็อาจจะพิจารณาใช้แบบ GPS หรือหากแมวเราไม่ค่อยไปไหน ไม่ก็ไปใกล้ๆ หายไม่บ่อย ก็พิจารณาแบบคลื่นวิทยุหรือ bluetooth ได้
โฆษณา