3 วิธีที่ทำให้รู้จักแบรนด์คู่แข่งมากขึ้น
ธุรกิจทุกประเภทมีคู่แข่งมากหน้าหลายตาในสนาม หากริเริ่มจะทำธุรกิจแต่ไม่รู้จักคู่แข่งเห็นว่าจะเสียเปรียบเอาเสียง่ายๆ สิ่งจำเป็นที่ต้องรู้เป็นอับดับแรกๆคือ การรู้จักคู่แข่งขันในตลาดประเภทเดียวกับเรา เพื่อดูว่าพวกเขาเหล่านั้นมีจุดอ่อน จุดแข็ง ข้อดี ข้อเสียอย่างในบ้าง อีกทั้งยังต้องรู้ว่าคู่แข่งที่เราหมายตานั้นมีการวางตำแหน่งการจัดการเอาไว้อย่างไร เพื่อให้เราสามารถนำมาพัฒนาธุรกิจของตนเองให้ดีขึ้นยิ่งๆขึ้นไปนั่นเอง
และเมื่อรู้จักคู่แข่งแล้ว จำเป็นต้องทำการวิเคราะห์คู่แข่งสามารถทำเองได้เพื่อนำข้อมูลเบื้องต้นมาปรับใช้ธุรกิจและวางแผนขั้นตอนถัดไป โดยมีวิธีง่ายๆดังนี้
1.รวบรวมรายชื่อคู่แข่งในท้องตลาดทั้งหมด
ส่วนนี้ต้องอาศัยการวางแผนที่ดีในการรวบรวมรายชื่อคู่แข่งในตลาดที่มีทั้งหมด เมื่อรวบรวมเสร็จแล้วให้ทำการคัดแยกว่าเจ้าไหนคือคู่แข่งหลัก คู่แข่งรอง เพื่อที่จะได้ทำการวางแผนขั้นต่อไปได้ง่ายขึ้น คู่แข่งหลัก และรองจะมีกี่เจ้าก็ได้ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ตนเองเล็งเห็นว่าใครที่ตีคู่สูสี หรือน่าสนใจ โดดเด่นมากในช่วงนี้ หรือมีกระแสอย่างมาก ผู้คนให้ความสนใจ สิ่งนี้อาจจะนำมาเป็นคู่แข่งหลักได้
คู่แข่งรองคือธุรกิจที่ยังไม่โดดเด้นมากพอจนเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว แต่มีแนวโน้มจะเติบโตได้ในอนาคต ซึ่งนั่นหมายความว่า ต้องดูเรื่องความสามารถในการขายและรายได้ของคู่แข่งแต่ละประเภท รวมถึงยอดต่างๆบนช่องทางหลัง ซึ่งหมายถึงยอดผู้ติดตาม ยอดคอมเม้นต์ ยอดไลก์ ยอดแชร์ และการเมทนชั่นถึงในทุกๆโซเชียลมีเดีย เพราะช่องทางเหล่านี้เป็นอีกตัวชีวัดความนิยมของผู้คนได้ดีอีกช่องทางหนึ่ง และเป็นเครื่องมือฟรีที่สามารถนำมาปรับใช้ได้
2.คัดแยกคู่แข่ง
จากนั้นทำการคัดแยกคู่แข่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ เพื่อง่ายต่อการทำงาน โดยแบ่งเป็น คู่แข่งที่ต้องการทำการแข่งขันทางการค้าด้วย และอีกกลุ่มคือคู่แข่งภายในอุตสาหกรรมเดียวกัน เมื่อแยกได้แล้วจะทำให้เห็นภาพรวมภายในธุรกิจมากยิ่งขึ้นว่าต้องไปในทิศทางใด เพราะเมื่อเราเห็นคู่แข่งที่เราแบ่งแยกออกมาอย่างชัดเจนแล้วนั้น จะส่งผลให้เราเห็นถึงวิธีการและกลยุทธ์ที่เขาเหล่านั้นกำลังดำเนินการอยู่นั่นเอง แม้ว่าจะไม่ได้รู้ข้อมูลทั้งหมดของคู่แข่งแต่จะช่วยให้เราสามาระประเมินได้ในเบื้องต้น
3.วิเคราะห์ความต่าง
ข้อนี้ต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อแตกต่างทั้งหมดในตัวคู่แข่งและตัวเอง เพื่อให้รู้ว่ามีทั้งเราและเขามีประสิทธิภาพไปในทิศทางใด ไม่แน่ว่าเราอาจจะพบเห็นความบกพร่องของตัวเองในการทำธุรกิจและพบจุดอ่อนที่เป็นตัวปัญหาในการทำให้ธุรกิจไม่ราบรื่นก็เป็นได้
ฉะนั้นแล้วข้อนี้ควรทำโดยละเอียดและให้เวลากับมันให้มากที่สุดเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำ อีกทั้งช่วยให้เราเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง เพราะเรานั้นจะได้เห็นว่าเพราะเหตุใดลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเราถึงสนใจสินค้าคู่แข่งมากกว่าของเรา ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจพบว่าคู่แข่งขายสินค้าที่มีราคาสูงกว่าแต่ได้รับผลตอบรับที่ดีกว่าของเรา
ข้อนี้จะช่วยให้เราได้คำตอบเพื่อนำมาปรับปรุงได้อย่างตรงจุดมากกว่าการสำรวจเพียงแค่ฟีดแบ็กจากลูกค้า หรือการถามปากเปล่า ข้อมูลที่ทำสามารถนำมาเช็คย้อนหลังเพื่อประเมินศักยภาพของธุรกิจได้อีกด้วย หมั่นทำทุกไตรมาส หรือทุกปี จะช่วยให้ประเมินสภาพธุรกิจตนเองและคู่แข่งได้อย่างดี เห็นภาพชัดและเข้าใจภาพรวมมากกว่าเดิม
ติดตาม Zero to Profit ช่องทางอื่นได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
