16 ส.ค. 2022 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #อย่ารีบด่วนตัดสิน ]
ลิซานโดร มาร์ตีเนซ น่าจะเป็นอีกหนึ่งแข้งของแมนฯยูไนเต็ดจากเกมพ่ายเบรนท์ฟอร์ดที่ต้องเผชิญเสียงวิจารณ์อย่างหนักหน่วง
เขามีเวลาอยู่ในสนาม 45 นาที ก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ครึ่งหลัง ซึ่งหลายคนเห็นด้วยกับการตัดสินใจของ เอริก เทนฮาก ที่เลือกส่ง ราฟาแอล วาราน ลงมาประจำการแทน
1
ชัดเจนเลยว่า มาร์ตีเนซ มีปัญหาอย่างมากกับการรับมือลูกกลางอากาศ ด้วยรูปร่างที่สูงเพียงแค่ 175 เซนติเมตร เมื่อเจอจังหวะเบรนท์ฟอร์ดโจมตีแบบไดเร็กต์ฟุตบอล จึงปั่นป่วนไม่น้อยเลย
ขณะเดียวกันความใหญ่บึกบึนของแนวรุกเจ้าบ้าน ซึ่งพร้อมดับเครื่องชนตลอดเวลา ก็เล่นเอากองหลังอาร์เจนไตน์ตั้งตัวไม่ติดเลย
เหมือนว่า โธมัส ฟรังก์ กุนซือเบรนท์ฟอร์ดมองเห็นจุดอ่อนตรงนี้ ก่อนเลือกใช้เล่นงานโดยตรง ซึ่งได้ผลอย่างน่าพอใจ
ถ้าย้อนกลับไปก่อนฤดูกาลเปิด มีการพูดถึงเรื่องความสูงของ มาร์ตีเนซ กันพอสมควร ประเด็นคือน่าจะเสียเปรียบกองหน้าฝั่งตรงข้าม ส่วนมากแล้วสูงใหญ่เป็นยักษ์ปักหลั่นทั้งสิ้น
ดูแล้วคงเป็นอุปสรรคพอสมควรเลย แม้จะมีตอบโต้เห็นต่างว่า เซ็นเตอร์แบ็กที่ไม่สูงอย่าง ฟาบิโอ คันนาวาโร่ หรือ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ซึ่งถอยมาจากมิดฟิลด์ ก็ไม่เห็นต้องกังวลอะไร
พวกเขาต่างชดเชยเรื่องไซส์ที่ขาดหายไป จากการอ่านเกมอย่างแม่นยำ เล่นด้วยความชาญฉลาด ไม่เน้นการบวกตรงๆหรือปะทะหนัก แต่มีเหลี่ยมคูจัดจ้าน ชิงจังหวะเล่นดีเยี่ยม
พูดง่ายๆก็คือปราการหลังที่ตัวเล็ก จะต้องใช้มันสมองมาทดแทน นั่นหมายความว่าคุณต้องเก่งจริงๆและใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลา แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าแบบจวนตัวสำเร็จ
แต่หากมองลึกลงไปในรายละเอียดอีก คันนาวาโน่ และ มาสเคราโน่ ไม่ได้เล่นในพรีเมียร์ลีก ซึ่งขึ้นชื่อลือชาว่าทั้งเร็วและหนัก แทบไม่ได้หายใจหายคอ มีเวลาตั้งตัวกันหรอก แตกต่างจากลีกอื่นในยุโรปเยอะเลย
ส่วนตอน มาสเคราโน่ เล่นกับลิเวอร์พูล ตำแหน่งประจำคือมิดฟิลด์ จากนั้นค่อยถอยไปเล่นเซ็นเตอร์แบ็กเมื่ออยู่บาร์เซโลน่าแล้ว
ดังนั้น มาร์ตีเนซ จึงเจอด่านทดสอบที่โหดหินมาก ต้องพยายามเรียนรู้และปรับตัวให้เร็วที่สุด เพราะแทบไม่มีเวลาให้ทดสอบลองผิดลองถูกแน่นอน
1
แม้จะเล่นได้ครอบคลุมหลากหลายพื้นที่ แต่ความตั้งใจของ เอริก เทนฮาก คือการจับ มาร์ติเนซ ปักเป็นเซ็นเตอร์แบ็กฝั่งซ้าย ตามเท้าข้างถนัด น่าจะเหมาะสมและใช้ให้เกิดประโยชน์มากสุด
1
คนอื่นที่เหลือก็ล้วนแต่ถนัดเท้าขวาทั้งสิ้น จึงเชื่อกันว่าเขาจะผูกขาดเป็นแกนหลักได้อย่างไม่ยากเลย
ในขณะเดียวกัน เทนฮาก ซึ่งเป็นเสมือนผู้ปลุกปั้นโดยตรง รวมถึงมีความสนิทแนบแน่นไว้เนื้อเชื่อใจกัน ย่อมมีคู่มือการใช้ลูกทีมรายนี้อยู่แล้ว ไม่ต้องมาสิ้นเปลืองเวลาทำความคุ้นเคย
อย่างไรก็ตามการที่เขาต้องยืนข้าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก็ต้องยอมรับเลยว่ามีความเสี่ยงไม่น้อยเลย แม้จะมีกัปตันทีมอยู่ใกล้ๆ คอยประสานงานกัน แต่นี่อาจจะเป็นคนสวมปลอกแขนที่ต่างไปจากทีมอื่น
13
เพราะตัว แม็กไกวร์ เองก็ใช่ว่าจะลงเล่นด้วยความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมอะไรนัก ยังคงเปิดเผยให้เห็นถึงการตัดสินใจที่แย่ ลังเลอยู่เสมอและมักก่อความผิดพลาดบ่อยๆ
10
ว่ากันโดยสถานะทุกอย่าง เขาควรจะเป็นพี่เลี้ยงให้ มาร์ตีเนซ รับบทผู้นำสั่งการ ตะโกนเตือน ปลุกเร้าให้ตื่นตัว แต่ก็ไม่มีให้เห็นเลย
3
ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก มาร์ตีเนซ จะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการมี แม็กไกวร์ เป็นพาร์ทเนอร์ นอกจากเสียกับเสียมากกว่า
4
ไม่ได้เจตนาจะโยนความผิดให้ แม็กไกวร์ เพียงแต่หากเรามองความจริงแล้ว นี่ไม่ใช่คนที่เหมาะสำหรับมีปลอกกัปตันอันทรงเกียรติรัดบนต้นแขนด้านซ้ายเลย
8
กระนั้นหากย้อนไปยังเกมลีกนัดแรกของซีซั่น ที่พ่ายไบรท์ตันคาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เราพอจะเห็นแววดีของ มาร์ตีเนซ อยู่บ้าง ไม่ได้ย่ำแย่สักเท่าไรหรอก โดยเฉพาะการออกบอลที่แม่นยำ ทั้งจ่ายใกล้และวางยาว
หลายคนมองว่า มาร์ตีเนซ สอบผ่านเอาตัวรอดได้ในระดับหนึ่ง น่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในเกมต่อไปได้
จนความเชื่อมั่นแทบทั้งหมด น่าจะพังทลายลงมาจากเกมล่าสุด เห็นได้ชัดจากแววตาและสีหน้า เหมือนสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก
ด้วยสาเหตุนี้จึงมีแฟนบอลบางราย คอนเมนต์ว่าการแก้ปัญหาดัน มาร์ตีเนซ ไปยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับหรือเบอร์ 6 จะดีกว่าหรือไม่ เพราะเคยเล่นตำแหน่งนี้มาก่อน
อีกทั้งยังเป็นการดึงจุดแข็งออกมาใช้งานด้วย ไม่ว่าเป็นการสัมผัสบอลแรกที่ดี รวมทั้งให้บอลเข้าเป้าสถิติเฉลี่ยดีมาก ไม่ว่าจะสั้นหรือยาว
ตอนย้ายจากอาร์เจนตินามาสู่อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมในปี 2019 มาร์ตีเนซ เล่าให้ฟังว่าเขาถูกจับมาเล่นมิดฟิลด์ก่อน เหมือนทดแทน เฟร็งกี้ เดอย็อง ซึ่งย้ายไปบาร์เซโลน่าในช่วงเวลาเดียวกัน
ระยะแรกเขาเจออุปสรรคขวากหนามมากมาย เล่นไม่เข้ากับระบบเลย ชอบครองบอลนานเกินไปตามความเคยชิน ทำเอาร้องไห้แทบทุกวันนานนับเดือน อยากกลับไปบ้านเกิดน่าจะดีกว่า
อย่างไรก็ตาม มาร์ตีเนซ อาศัยความมุ่งมั่นเป็นใบเบิกทาง เรียนรู้ให้มาก ซ้อมให้หนักเข้าไว้ ก่อนจะแก้ไขจุดอ่อนสำเร็จ กระทั่งถูกถอยมายืนเซ็นเตอร์แบ็กและก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน
เขาจึงมีประสบการณ์ดิ้นรนต่อสู้มาก่อน ใช่ว่าจะปราศจากภูมิต้านทานซะเลยและนี่เพิ่งเริ่มต้นกับแมนฯยูไนเต็ดเท่านั้นเอง
บทเรียนจากเกมล่าสุด อาจช่วยหล่อหลอมให้ มาร์ตีเนซ แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น สามารถทำความเข้าใจได้ พอมองเห็นช่องสำหรับพัฒนาฝีเท้าให้เป็นไปตามแนวทางฟุตบอลลีกอังกฤษ
ในขณะเดียวกันเกมลีกเพิ่งจะผ่านไปแค่ 2 นัดเท่านั้นเอง ยังไงก็ตาม เทนฮาก น่าจะยังให้โอกาส มาร์ตีเนซ ปรับปรุงตัวเอง ปักหลักตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กก่อน ไม่ควรด่วนตัดสิน
สิ่งที่เขาต้องการมากสุดในเวลานี้คือความมั่นใจ ต้องหาทางดึงกลับคืนมาให้เร็วที่สุด รีบลืมฝันร้ายจากเกมที่ผ่านมาให้ได้
มาร์ตีเนซ ไม่มีเวลามัวนั่งเศร้าฟูมฟายอีก ต้องรีบลุกขึ้นมาให้เร็วที่สุด หากเขาเคยนิยามไว้ว่าเป็นพวกนักสู้ กัดไม่ปล่อย ไม่มีคำว่ายอมแพ้ในหัวสมองจริงๆ ก็ต้องโชว์ให้เห็น
อย่าปล่อยให้ฉายาสุดโหดอย่าง The Butcher ต้องมาถูกทำลายในพรีเมียร์ลีกเลย
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา