16 ส.ค. 2022 เวลา 05:11 • กีฬา
#เห็นอย่างไร...เขียนอย่างนั้น
หลังเกมเปิดแอนฟิลด์เสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1
🌀 จากที่มีข่าวอาการบาดเจ็บของ มาติป ในวันศุกร์ว่าจะพลาดเล่นในเกมนี้ โดยก่อนเกมคาดว่าจะเป็น โจ โกเมซ เล่นแทนทว่าเมื่อถึงเวลา โกเมซ มีความฟิตไม่พอที่จะเล่นครบ 90 นาที เยอร์เก้น คล็อปป์ จึงส่ง นาธาเนียล ฟิลลิปป์ ลงไปยืนเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับ ฟานไดจ์ค ส่วนในแผงกลางวันนี้เปลี่ยนสองตำแหน่งจากเกมที่แล้ว เอเลียตต์ เล่นแทน ติอาโก้ ที่มีอาการบาดเจ็บ และ มิลเนอร์ ได้ออกสตาร์ทแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
ส่วนในเกมรุก ฟีร์มีโน่ มีอาการเสี่ยงบาดเจ็บเลยตัดชื่อไปเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อนซึ่งเป็น ดาร์วิน นูนเญซ รับเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าตั้งแต่นาทีแรก
🌀 เริ่มเกมมาเป็น ลิเวอร์พูล ที่ทำเกมได้ดีทีเดียวในวันนี้ ต่างจากเกมที่แล้ว และมีโอกาสเข้าทำอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะการประสานงานสามเหลี่ยมฝั่งขวา เทรนด์-เอลเลียตต์-ซาลาห์ ที่ดูวูปวาป ซึ่งมีจังหวะที่จะได้ประตูอยู่หลายครั้ง แต่ไม่สามารถชิงจังหวะขึ้นนำได้
🌀 เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงเมื่อมีโอกาสแต่ทำไม่ได้ ก็ต้องถูกลงโทษในที่สุดจากจังหวะสวนกลับเร็วของผู้มาเยือน บวกกับการเช็คล้ำหน้าพลาดของ นาธาเนียล ฟิลลิปป์ ทำให้ ซาฮา หลุดเดี่ยวไปสำเร็จโทษ อลิสซง ได้สำเร็จ ซึ่งการเข้าทำนี้เป็นโอกาสยิงตรงกรอบครั้งแรกของ พาเลซ
จังหวะขึ้นนำของ พาเลซ
🌀 หลังจากที่เสียประตูไปแล้ว ลิเวอร์พูล ก็พยามจะบุกเพื่อทวงประตูคืน แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถส่งบอลเข้าตาข่ายพาเลซได้ ติดเล็กติดน้อยตลอด และก็มีโอกาที่ใกล้เคียงที่จากการเล่นเพลย์สุดท้ายของครึ่งแรกที่ เอลเลียตต์ ตักบอลไปให้ นูนเญซหลุด ไปแต่ใช้จังหวะยิงช้าไปหน่อยจนมีกองหลังพาเลซเข้ามารบกวนการยิงทำให้ยิงไม่เต็ม บอลไปชนเสาซะอย่างนั้น ซึ่งวันนี้การเคลื่อนที่ของ นูนเญซ ทำได้ดีหลายครั้งที่เคลื่อนที่ไปรับบอลได้ดีมากแต่ติดปัญหาในการตัดสินใจในจังหวะสุดท้าย
🌀 ครึ่งหลังในนาทีที่ 57 ลิเวอร์พูล จากที่เป็นรองสกอร์อยู่แล้ว กลับต้องเป็นรองหนักไปอีกเมื่อ นูนเญซ ไปเฮดบัตต์ ใส่ โจอาคิม แอนเดอร์เซ่น หลังจากที่ถูกยั่วยุจนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ จนเป็นใบแดงถูกไล่ออกสนาม เวลาที่เหลือ ลิเวอร์พูลต้องเล่นด้วยเพียง 10 คน
🌀 แม้ผู้เล่นน้อยกว่า ลิเวอร์พูล ก็ยังไม่ได้ปรับหมากระบบการเล่น ใช้มัน 4-3-2 แบบนั้นไปเลย คอยให้ ซาลาห์ สลับกับ ลุยซ์ ดิอาซ สอดไปเป็นหน้าตัวกลาง เพียงแค่ 4 นาที ลุยซ์ ดิอาซ เลี้ยงหลบผู้เล่น พาเลซ 4 คน แล้วตะบันจากนอกกรอบเขตโทษเข้าไปอย่างสวยงาม
ประตูตีเสมอของ ดิอาซ
🌀 หลังจากนั้นเยอร์เก้น คล็อปป์ แก้เก้มด้วยการเปลี่ยนตัวตัวสำรอง โกเมซ ที่ลงมาแทน ฟิลลิปป์ ดูดีกว่าชัดเจน เวลาขึ้นบอลดูไม่ลน น่าเสียดายที่ฟิตไม่พอสำหรับเริ่มเล่นตั้งแต่นาทีแรก,
โรเบิร์ตสัน ที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงวันนี้ฝั่งซ้ายดูการเติมเกมไม่ค่อยดี กระทั่งเป็น ซิมิกาส ลงมาแต่ทำได้น่าผิดหวังหนักไปอีกสำหรับเจ้าตัวในวันนี้ที่โยนบอลไปน้ำหนักไม่ได้ใกล้เคียงสักลูก บอลล้นออกหลังแทบทั้งนั้น,
คาวัลโญ่ ลงมาเกือบซัดประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล ได้ในท้ายเกมที่บอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว
🌀ซึ่งเวลาที่เหลือแม้ ลิเวอร์พูล จะมีผู้เล่นน้อยกว่า แต่ก็เป็นฝ่ายครอบครองบอลโหมบุกใส่ตลอด ทว่าด้วยผู้เล่นที่เป็นรอง กอปร กับ พาเลซ ของ วิเอร่า ที่วันนี้แพ็คเกมรับแน่นใช้หลังถึง 5 คนอยู่ในกรอบเขตโทษจึงไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้
‼️จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้ที่ไม่สามารถทำให้ลิเวอร์พูล เก็บ 3 แต้มได้
1. ประตูแรกไม่มา โดยเฉพาะในครึ่งแรกที่โอกาสเข้าทำของ ลิเวอร์พูล ดูชัดเจนเป็นรูปธรรมมากทว่าไม่สามารถส่งบอลเข้าไปกระทบตาข่ายคู่ต่อสู้ได้ ทำได้เพียงแค่เฉี่ยวไปเฉี่ยมา จนกระทั่งเสียประตูไปก่อนในที่สุด
2. ใบแดงของ ดาร์วิน นูนเญซ เป็นใบที่แดงคนดูทางบ้านอย่างผมได้แต่บอกว่าไร้สาระมากเลยกับการกระทำ แถมใบแดงใบนี้ของ ดาร์วิน มีราคาที่ต้องจ่ายแพงมหาศาล นอกจากในเกมนี้ที่เพื่อนต้องวิ่งกัน 10 คนเป็นเวลากว่า 30 นาทีแล้ว ยังส่งผลต่อเกมหน้าอีก 3 เกม ที่ไม่มีศูนย์หน้าผู้นี้สนาม กอปรกับการที่ผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล มีให้เลือกน้อยอยู่แล้วจากปัญหาการบาดเจ็บ และนี่จึงถือเป็นบทเรียนราคาที่แพงมากสำหรับเจ้าตัว
3. แผงหลังที่เล่นเกมรับได้ต่ำกว่ามาตรฐาน มีการเช็คล้ำหน้าที่ผิดเพี้ยนมาก โดยเฉพาะ นาธาเนียล ฟิลลิปป์
ผ่านไปแล้ว 2 นัดสำหรับฤดูกาลนี้ยังควานชัยชนะไม่เจอ เป็นการเริ่มต้นที่ค่อนข้างลำบาก สำหรับทีมของเยอร์เก้น คล็อปป์ ต่อแต้มให้ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาดิโอล่า ไปก่อน 4 แต้ม
มีเวลา 1 สัปดาห์สำหรับ เยอร์เก้น คล้อปป์ ต้องแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ก่อนศึกสำคัญอย่างแดงเดือดรอยูนั่นคือ บุกไปเยือน แมนฯยูไนเต็ด ที่แพ้รวดมาสองนัด จึงเป็นเกมที่ต่างฝ่ายต่างต้องการชัยชนะด้วยกันทั้งคู่ คาดว่าเกมนั้นจะใส่กันเต็มที่แน่นอน
เป็นการเริ่มต้นฤดูกาลที่กร่อยๆไปหน่อยๆสำหรับสาวกหงส์แดง กับการหลุดเสมอไปทั้งสองเกม ทว่าสำหรับผมเมื่อเกมจบแล้วมันก็กลายเป็นเพียงเกมๆหนึ่งที่จบไป มีอีก 36 นัดให้เราได้ลุ้นได้ตามเชียร์ทีมรักกันต่อไป
สัปดาห์หน้า มันเดย์ไนท์เจอกันครับ พร้อมจะกลับมาเชียร์ทีมนี้อีกครั้ง💪💪💪💪 ❤️You ‘ll never walk alone❤️
🖌️ #P.F. Klopper
16/08/2022
โฆษณา