ย้อนรอยวิกฤติการเงินระดับโลก " Hamburger Crisis" EP.3/2
ย้อนรอยวิกฤติการเงินระดับโลก
" Hamburger Crisis" EP.3/2
👯จากความเดิมตอนที่แล้ว แอดได้ปูทางเอาไว้ในเรื่องวิกฤติการเงินระดับโลก และจากการปล่อยเงินกู้แบบหน้ามืดตามัว ของสถาบันการเงินนี่เองที่เป็นตัวจุดฉนวนครั้งใหญ่ที่ทำให้ สหรัฐอเมริกาเริ่มเกิดสภาวะฟองสบู่ จากฟองเล็กๆก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ คนส่วนใหญ่จึงเรียกวิกฤติการเงินในครั้งนั้นว่า วิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพ (subprime mortgage crisis) หรือ Subprime Loan นั่นเอง
แล้วทำไมจึงเกิดเหตุการ์ณฟองสบู่แตก????
👯 ย้อนกลับไปอีกทีหนึ่งในช่วงที่สถาบันการเงิน ปล่อยเงินกู้เป็นว่าเล่นนั่นแหละ ที่เป็นแรงดึงดูดลูกค้าระดับ Subprime เข้ามาขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านมากขึ้น จากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำแสนต่ำบวกกับ ความต้องการที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น เป็นร้อยละ 69.2% และลูกหนี้ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่ไม่มีความสามารถในการจ่ายเงินทั้งนั้น !!! แถมยังได้หลักทรัพย์คำประกันจากการจำนองของผู้กู้ Subprime ที่ส่วนใหญ่ก็เป็นหลักทรัพย์ด้อยคุณภาพมาค้ำประกันทั้งสิ้น นี่แหละ ปัญหาก้อนโตเลยหละฮะ
****ธนาคารจะใช้ศัพท์คำนี้ สำหรับลูกค้าระดับล่าง ที่มีแนวโน้มจะผิดนัดชำระหนี้ได้มาก ว่าเป็นลูกค้า Subprime
****ส่วนลูกค้าระดับที่ดีมีความสามารถในการชำระหนี้ จะเรียกว่า Prime
ความหัวใสและฉลาดของสถาบันการเงินและนักการเงิน
👯ไม่มีใครชอบลูกหนี้ที่ชักดาบแน่นอน ดังนั้นสถาบันการเงินทั้งหลายแหล่จึงใช้ประโยชน์จากเครื่องมือที่เรียกว่า MBS (Mortgage-backed Securities) นั่นก็คือ เอาสินเชื่อของกลุ่มลูกค้าเหล่านี้มารวมกันแล้วขายต่อให้คนอื่นเพื่อถ่ายความเสี่ยง โดยการจัดอันดับและปรุงแต่งให้ดูดี เป็นสินค้าชั้นดี โดยจ้างบริษัทจัดเรทติ้งให้มันดูดี มีราคา
👯ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ มีธนาคารหัวใส ก็ย่อมต้องมีนักการเงินในวอลสตรีท เพราะพวกเขายังใช้ตราสารอนุพันธ์สุดซับซ้อนเพื่อป้องกันความเสี่ยงของ MBS อีกตัวหนึ่งที่เรียกว่า CDS (Credit Default Swap) หรือพูดง่ายๆว่า ถ้า MBS โดนชักดาบ CDS จะจ่ายดอกเบี้ยที่เหลือให้คุณเอง ดีงามพระรามแปดกันเลยทีเดียวเชียว ลงทุนแล้วยังมีคนมารับประกันผลตอบแทนให้อีก
FED ประกาศขึ้นดอกเบี้ย!!!!!
👯เมื่อเงินเฟ้อเริ่มสูงขึ้นเรื่อย FED ก็ทำให้เงินเฟ้อมันต่ำด้วยการขึ้นดอกเบี้ย เอาละสิ!! เมื่อดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น เหล่าลูกหนี้สินเชื่อ Subprime ก็เริ่มผิดนัดชำระหนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แถมดอกเบี้ยสูงขึ้น คนก็ไม่อยากซื้อบ้านแล้วหนะสิ ราคาบ้านก็เริ่มตกต่ำลงสิฮะ !!! ขายก็ราคาตกกว่าตอนซื้ออีก
นี่แหละคือโดมิโน่ชิ้นปัญหาเลย เกิดการทิ้งบ้านเอาดื้อๆ การชักดาบจึงเริ่มขึ้นรัว ๆๆๆๆ เกิดการยึดทรัพย์ไปทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา แต่คิดดูสิ ยึดทรัพย์มาแต่ขายไม่ได้ราคาอีกแหนะ มันจึงเป็นสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างแท้จริง
วันที่ 15 กันยายน 2008 Lehman Brothers ประกาศล้มละลาย !!!
👯ในที่สุด!!!!! สถาบันการเงิน ธนาคารใหญ่ยักษ์ของสหรัฐอเมริกา ผู้ชาญฉลาดที่ได้รับผลกระทบ และเจ็บหนักที่สุดก็คือ Lehman Brothers วาณิชย์ธนกิจชื่อดังที่ดำเนินธุรกิจมานับร้อยปี ต้องประกาศล้มละลายเพราะผลจากการกระทำของตัวเองที่เข้าไปร่วมสนุกกับสินเชื่อ Subprime มากกว่าคนอื่น และโชคร้ายที่ Lehman Brothers จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้น การล้มลงของหุ้นที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 60,000 ล้านเหรียญ ย่อมส่งผลแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดทั่วทั้งวอลสตรีท
👯👯👯โศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ยังไม่จบลงเพียงเท่านี้นะครับ เริ่มอ่านสนุก ติดลมกันแล้วใช่มั้ย??? ติดตามอ่านตอนจบของ ย้อนรอยวิกฤติการเงินระดับโลก " Hamburger Crisis" EP.3/3 ได้ในตอนหน้านะครับ รับรองว่ามันส์และสนุกจริงๆ บทสรุปของวิกฤติการเงินในครั้งนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องติดตามอ่านกันครับ อย่าพลาดเชียว
"สนับสนุนบทความนี้ด้วยการส่งเพชร 💎ส่งดาว🌟 และกดติดตาม ใน Blockdit ของเรา
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
