17 ส.ค. 2022 เวลา 15:04 • ไลฟ์สไตล์
ประกันแบบคุ้มครองตลอดชีวิต กับประกันออมเงิน ต่างกันอย่างไร? แล้วเราควรเลือกอย่างไหนดี
เราเคยสงสัยไหมครับว่าประกันแบบคุ้มครองตลอดชีพ กับแบบออมเงิน มันต่างกันอย่างไร? แล้วชีวิตของฉันเหมาะกับการซื้อแบบไหนดี ?
หากคุณเป็นคนที่มีภาระหนี้สิน ยังผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เป็นกำลังหลักของครอบครัว ถ้าลักษณะของคุณเป็นดังนี้ กรมธรรม์แรกที่คุณควรต้องมีคือ ประกันแบบคุ้มครองตลอดชีพ ข้อดีของประกันประเภทนี้คือ ทุนสูง เบี้ยต่ำ หากวันที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับเรา ทั้งภาระหนี้สิน ครอบครัว คนที่คุณรักยังมีทุนให้เดินหน้าต่อไปในช่วงเวลาอันเศร้าโศก ช่วยให้เค้ามีเวลาในการปรับตัวยามที่ไม่มีคุณคอยดูแลซัพพอร์ทค่าใช้จ่ายต่างๆ คุณคงไม่อยากเห็นสภาพคนที่คุณรักเสียทุกอย่างไป และใช้ชีวิตอย่างยากลำบากใช่ไหมครับ?
ส่วนคนที่ไม่มีภาระ ตัวคนเดียว ชิลๆ หนี้สินที่มีก็ไม่ได้มากมาย วางแผนอยากมีเงินใช้ตอนเกษียณ ส่วนใหญ่พอพูดถึงเก็บเงินไว้ใช้ตอนเกษียณ ผมมักจะเจอคำว่า จะรีบไปทำไม คำตอบคือ รีบเก็บตอนนี้ จำนวนเงินที่เก็บมันไม่เยอะ แต่ถ้าคุณไปเริ่ม 35 เป็นต้นไป ผมบอกเลย ถ้าคุณไม่ได้รวยจริง คุณอาจจะต้องสร้างงานสำรองให้ตัวเองไว้ทำได้ตอนแก่ เปรียบกับเราเตรียมกับข้าวไว้กินตอนเดินทางไปแคมปิ้งนะครับ ถ้าคุณอดทนถือเนื้อไปด้วย คุณก็จะมีเนื้อไปกิน แต่ถ้าคุณบอกว่ามันหนัก ไม่เอาเอาไปแต่ผัก คุณก็มีแต่ผักกิน
ทั้งสองแบบนี้สามารถที่จะลดหย่อนภาษีได้ด้วยกันทั้งคู่ แต่หากคุณต้องการที่จะทำประกันสุขภาพ ถ้ามีเรื่องนี้มาเกี่ยวข้อง จำให้ขึ้นใจเลยว่าคุณต้องทำประกันชีวิตแบบคุ้มครองตลอดชีพ เพราะสัญญาหลักมันคุ้มครองตลอดชีพ เลยทำให้ตัวสุขภาพคุ้มครองเราไปตลอดชีพด้วย
หากเราไปผู้กกับประกันออมทรัพย์ ซึ่งระยะของสัญญาคุ้มครองไม่ได้ยาวมาก พอสัญญาจบประกันสุขภาพเราก็จะจบไปด้วย หากคุณสุขภาพแข็งแรง ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าคุณเกิดมีโรคประจำตัวขึ้นมา อันนี้แย่เลย เพราะต้องยื่นกรมธรรม์ใหม่ เค้าพบว่าคุณสุขภาพไม่แข็งแรงแล้ว บริษัทประกันอาจจะรับแบบมีเงื่อนไข หรือปฏิเสธเลยก็ได้
โฆษณา